จีนโวยไมโครซอฟท์ล้ำสิทธิส่วนตัว
Posted by admin on
October 27, 2008
จีนออกอาการ’รมณ์เสีย หลังยักษ์ซอฟต์แวร์เดินเครื่องปราบซอฟต์แวร์ผี งัดกลยุทธ์ก่อกวนเครื่อง-จอดำ กระตุ้นใช้งานของจริง
กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ไมโครซอฟท์ กำลังดำเนินการตามกลยุทธ์ปราบซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการส่งโปรแกรมอัพเดทไปยังผู้ใช้คอมพิวเตอร์นับล้านเครื่อง ซึ่งจะมีผลให้หน้าจอเครื่องดำ และก่อกวนผู้ใช้ให้หันมาใช้โปรแกรมวินโดว์สถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ แม้จะไม่ได้ขัดขวางการใช้งานเครื่อง แต่โปรแกรมดังกล่าวก็กวนประสาทผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในจีน โดยจะเข้าไปเปลี่ยนหน้าจอที่มีการใช้งานอยู่ให้เป็นสีดำทุกๆ ชั่วโมง
แผนดังกล่าว เป็นความพยายามส่วนหนึ่งของผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ ในการปราบปรามซอฟต์แวร์เถื่อนทั่วโลก โดยจะส่งโปรแกรมอัพเดทอัตโนมัติไปยังผู้ใช้ระบบปฏิบัติการเอ็กซ์พี ที่เลือกออปชั่นรับซอฟต์แวร์อัพเดทผ่านเวบไซต์
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ยังใช้แผนกระตุ้นผ่านโปรโมชั่นเป็นครั้งคราวในจีน โดยเดือนนี้ (ต.ค.) บริษัทได้จัดโปรโมชั่นลดค่าไลเซ่นโปรแกรมออฟฟิศ สำหรับนักเรียนและการใช้งานในบ้านจาก 102 ดอลลาร์ เหลือต่ำกว่า 30 ดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ เผยว่า บริษัทเริ่มใช้กลยุทธ์จอดำตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเตือนผู้ใช้โปรแกรมเอ็กซ์พีทุกราย ให้รับรู้ถึงความจริงจังของบริษัท
อย่างไรก็ตาม หลังเริ่มส่งโปรแกรมอัพเดทให้กับผู้ใช้ทั่วจีนในสัปดาห์นี้ ก็มีเสียงติติงเกิดขึ้น โดยบล็อกเกอร์รายหนึ่ง ส่งจดหมายไปยังไมโครซอฟท์มีใจความระบุว่า “เราไม่ได้คัดค้านนโยบายดังกล่าว แต่ก็ขอต่อต้านการกระทำของบริษัท ที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของผู้ใช้เลย”
ทั้งนี้ ประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดที่มียอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล อันดับ 2 ของโลก ได้รับความสนใจจากกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีมากขึ้น โดยเฉพาะหลังงบลงทุนไอทีปรับลดลงจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยไมโครซอฟท์ระบุว่า จีน บราซิล รัสเซีย และอินเดีย มีรายได้เติบโตสะสมทั้งปี 54% สูงกว่ารายได้รวมทั่วโลกที่ขยายตัวเพียง 18%
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Tags: china-microsoft, จีน, ไมโครซอฟท์tags: china-microsoft, จีน, ไมโครซอฟท์
No Comments
แค่เคาะแป้นคีย์บอร์ดก็เสี่ยงถูกล้วงตับแล้ว
Posted by admin on
October 26, 2008
คนมันคิดจะโกงซะอย่าง มันก็หาวิธี และเครื่องมือล้วงข้อมูลลับของคนอื่นจนได้น่า
กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : เพียงแค่พิมพ์งาน เล่นเน็ต หรือเล่นเกม คุณก็เสี่ยงถูกล้วงความลับเสียแล้ว เมื่อนักวิจัยจากสวิสเซอร์แลนด์ พบว่า อาชญากรออนไลน์เริ่มหาทางขโมยข้อมูลส่วนตัวได้โดยไม่ต้องถอดอะไรให้วุ่นวาย แค่มีเครื่องจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเมื่อแป้นคอมพิวเตอร์ถูกเคาะก็ล้วงรหัส ลับบัตรเครดิต หรือพาสเวิร์ดได้แล้ว
มาร์ติน โวน็อกซ์ และซิลเวน ปาซินี่ นักศึกษาปริญญาเอกจากห้องปฏิบัติการรหัสและความปลอดภัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งโลซาน สหพันธรัฐสวิส? ทำการทดสอบแป้นพิมพ์ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกัน 11 แบบ รวมถึงแป้นพิมพ์ของโน๊ตบุ๊ก โดยใช้โปรแกรมเจาะระบบข้อมูลที่พัฒนาขึ้นเอง 4 แบบ? และพบว่า แป้นพิมพ์ทุกแบบเสี่ยงที่จะถูกเจาะข้อมูล ด้วยโดยโปรแกรมที่เขาคิดขึ้นอย่างน้อย 1 โปรแกรม ซึ่งหนึ่งใน 4 โปรแกรมสามารถล้วงข้อมูลได้ไกลถึง 20 เมตร
ในการทดสอบ นักวิจัยใช้เสาอากาศรับคลื่นวิทยุจับรังสีคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าแผ่ออกมาเมื่อแป้นพิมพ์ถูกกด
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การเจาะระบบที่เราทำขึ้นนั้น สามารถพิสูจน์ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง” นักศึกษาปริญญา เอกกล่าว
อย่างไรก็ดี รายละเอียดงานวิจัยในครั้งนี้ยังมีให้เห็นน้อย เนื่องจากการทดสอบยังคงทำโดยการเชื่อมต่อแป้นพิมพ์กับโน๊ตบุ๊คที่ใช้พลังงาน จาก แบตเตอรี่ และไม่ได้ทดสอบเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์พีซีหรือการต่อเข้ากับจอแอลซีดี ซึ่งอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการจับคลื่นสัญญาณลดลง
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/26/news_306347.php
Tags: keyboard, คีย์บอร์ด, ล้วงตับtags: keyboard, คีย์บอร์ด, ล้วงตับ
No Comments
ไอบีเอ็มปฏิบัติการหามือพระกาฬเขียนเว็บ xml
Posted by admin on
October 26, 2008
ปฏิบัติการค้นหาซูเปอร์สตาร์เขียนเว็บ ด้วยภาษา xml เริ่มขึ้นแล้วทั่วโลก ใครที่ยังไม่รู้ว่าเอ็กซ์เอ็มแอลคืออะไร อย่ารอช้าเลย
กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : ในโลกอินเทอร์เน็ตยุคหน้า ที่เรียกว่ายุค 3.0 นั้น จำเป็นต้องอาศัยภาษาเอ็กซ์เอ็มแอล (xml) ให้หน้าเว็บทำงานร่วมกับฐานข้อมูล ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตราวกับเพื่อนรู้ใจ ไม่ใช่แค่ภาษาเอชทีเอ็มแอล (html) ธรรมดาที่ใช้กันมาเป็นสิบปี
ไอ บีเอ็มเลยถือโอกาสนี้เปิดตัวโครงการ ?ค้นหา เอ็กซ์เอ็มแอล ซูเปอร์สตาร์? พร้อมกันในภูมิภาคต่างๆ เช่น อเมริกาเหนือ ยุโรป จีน อินเดีย และประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย จุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันมีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาทักษะเกี่ยวกับ เทคโนโลยี ความรู้หรือพื้นฐานด้านเอ็กซ์เอ็มแอล และการบริหารจัดการฐานข้อมูล
ที่ พิเศษสุดคือ เวทีนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคนที่มีใจใฝ่เรียนรู้ เพราะผู้เข้าแข่งขันไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีดัง กล่าวแต่อย่างใด
ผู้ที่สนใจแสดงความ สามารถแต่ยังไม่เข้าใจถึงกฎกติกา รวมทั้งยัง “งงงวย” กับเทคโนโลยีเอ็กซ์เอ็มแอล ไม่ต้องตกใจ เพราะไอบีเอ็มจะบรรยายทางเทคนิคในวันพฤหัสบดีที่ 30 และศุกร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์ศึกษาสาทรธานี มหาวิทยาลัยรังสิต (ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี) ผู้เข้าร่วมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
การ บรรยายจะจัดขึ้น 4 รอบ วันละ 2 รอบ คือเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. (เนื้อหาของการบรรยายเหมือนกันทั้ง 4 รอบ) รายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งการลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันคลิกดูได้ที่ http://asean.xmlsuperstar.com หมดเขตรับสมัคร 28 กุมภาพันธ์ 2552
ย้อน กลับมาที่กิจกรรมการแข่งขัน นอกเหนือจากผู้เข้าแข่งขันจะได้รับความรู้และทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เอ็กซ์เอ็มแอล และการบริหารจัดการฐานข้อมูล ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้เข้าแข่งขันเองแล้ว ยังมีโอกาสชิงรางวัลต่างๆ มากมาย อาทิ ไอพอดนาโน เครื่องเล่นเกมนินเทนโด วี รวมทั้งมีโอกาสเข้าเยี่ยมชมแล็บพัฒนาซอฟต์แวร์และสำนักงานของไอบีเอ็มใน ประเทศเอเชียแปซิฟิก รวมมูลค่าของรางวัลทั้งหมดกว่า 1 ล้านบาท
ผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นนักศึกษาและคณาจารย์ในระดับอุดมศึกษา หรือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประเทศ และภูมิภาค ส่วนรางวัลและความยากง่ายของการแข่งขันจะแตกต่างกันในแต่ละระดับ นอกจากนั้น ผู้เข้าแข่งขันยังสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ทั้งในแบบบุคคลหรือแบบทีม ขึ้นอยู่กับประเภทของการแข่งขันนั้นๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. วิดีโอที่น่าคลั่งไคล้ หรือการแข่งขันสร้างสรรค์วิดีโอคลิป ด้วยความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเอ็กซ์เอ็มแอลและการบริหารจัดการฐานข้อมูล 2.คำถามสุดท้าทาย หรือการแข่งขันหาคำตอบโดยการเขียนข้อคำถาม ค้นหาจากระบบฐานข้อมูลด้วยเอ็กซ์เอ็มแอล หรือซอฟต์แวร์ดีบีทู 3.การแข่งขันเขียนโปรแกรมบนเทคโนโลยีทางด้านเอ็กซ์เอ็มแอลและการบริหาร จัดการฐานข้อมูลทั่วไป
นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการซอฟต์แวร์พาร์ค (เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย) กล่าวว่า ยุทธศาสตร์หลักของซอฟต์แวร์พาร์ค 2.0 ที่ต้องการผลักดันเทคโนโลยีผ่าน “โซเชียล เน็ตเวิร์ก” ซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลกในขณะนี้ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีนักพัฒนาที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
ดัง นั้น การผลักดันผู้เชี่ยวชาญทางด้านเอ็กซ์เอ็มแอล ซึ่งเป็นฐานรากของระบบนี้ให้มากขึ้น จะทำให้การสร้างแอพพลิเคชั่นของไทย สามารถแข่งขันและสร้างตลาดใหม่ในระดับโลกได้ การแข่งขันครั้งนี้น่าจะมีส่วนเพิ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่จะก้าวเข้าสู่เว็บ 3.0 ที่กำลังเข้าสู่ตลาดในอนาคตอันใกล้
ดร. รุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า กล่าวว่า จากการที่ซิป้าเร่งดำเนินนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมสร้างนวัตกรรมจากนัก พัฒนาในประเทศ และการส่งเสริมการลงทุนทางด้านไอซีทีจากต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างบุคลากรในประเทศที่มีความรู้ทางภาษาเอ็กซ์เอ็มแอล
การ เฟ้นหาบุคลากรที่มีความสามารถด้านนี้ ผ่านการประกวดผลงานจะทำให้เกิดเวทีแสดงความสามารถในการผลักดันได้อย่างถูก จุด ยิ่งไปกว่านั้นจะยังทำให้เกิดความตื่นตัวและสร้างสภาพการแข่งขันเพื่อรองรับ ตลาดไอทีในอนาคตอีกด้วย
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Tags: ibm, xml, ไอบีเอ็มtags: ibm, xml, ไอบีเอ็ม
No Comments
เดลล์เปิดร้าน “คอมพิวเตอร์ตามใจฉัน”
Posted by admin on
October 26, 2008
ถ้าไปเจอคนแต่งตัวใส่เสื้อผ้าเหมือนเราเด๊ะ แถมยังไว้ทรงผมเกาหลีเหมือนกัน มันคงกระอักกระอ่วนพิกล
กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : ใครก็อยากมีบุคลิกเป็นแบบฉบับของตัวเองทั้งนั้น ไม่เฉพาะแต่เครื่องแต่งตัว ยังรวมถึงสิ่งของเครื่องใช้นานาชนิด
แนวคิดเป็นเจ้าข้าวเจ้าของขยาย อาณาเขตครอบคลุมไปตั้งแต่เรื่องแต่งรถ แต่งโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใครต่อใครพากันหาสติกเกอร์แปลกแหวกแนวมา เพื่อสีสันให้โน้ตบุ๊กไม่ดูน่าเบื่อเหมือนก่อน
?พฤติกรรมของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะ เปลี่ยนแปลงไป ต้องการความแตกต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งส่งผลสำคัญมาถึงการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับชีวิตคนในปัจจุบัน? นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้บริหาร บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
เดลล์นำแนวคิดดังกล่าวมาสร้างเป็นหน้า ร้านรับประกอบโน้ตบุ๊กตามสั่ง อิงแนวคิดเดิมที่เปิดให้ลูกค้าสามารถ “กำหนดสเปก” และสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ แต่คราวนี้ขยายช่องทางมาเป็นร้านค้าตัวเป็นๆ ให้ลุกค้าได้เห็นของจริงสั่งจริง
ร้านค้าของเดลล์แห่งแรกจึงเปิดตัวที่ ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ซึ่งนายอโณทัยบอกว่า นี่แหละคือหนึ่งในยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อเปิดตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ เดลล์
ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนขาวสะอาดตา มีผลิตภัณฑ์ของเดลล์จัดโชว์ไว้แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก จอแอลซีดี และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่สำคัญคือ มุมพิเศษภายในร้านที่เอาใจคนที่รักในความเป็นตัวเอง
บริเวณเคาน์เตอร์ ?ประกอบตามสั่ง? (Built-to-Order : BTO) มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งสามารถเลือกสเปกคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊ก โดยที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตั้งแต่รุ่นที่ต้องการ? แรม ระบบปฏิบัติการ การ์ดแสดงผลกราฟิก และยังสามารถประมวลผลราคาให้ดู ช่วยให้สามารถเลือกเพิ่มหรือลดสเปกให้เหมาะสมกับงบประมาณของตน
?เมื่อลูกค้าตกลงปลงใจกับคอมพิวเตอร์ ในแบบของตนเองแล้ว ก็จ่ายเงินแล้วกลับบ้านไปรอ ทางร้านจะส่งสเปกไปยังโรงงานของเดลล์ที่ปีนัง ประเทศมาเลเซียให้ผลิตคอมพิวเตอร์ตามสเปก และส่งกลับมายังไทยภายใน 7 วัน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะรอรับของอยู่ที่บ้านหรือจะเลือกมารับเองที่ ร้าน? นายกฤตวิทย์ กฤตยเรืองโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจคอมซูเมอร์ ของเดลล์ อธิบาย
ฟังมาถึงตอนนี้ ก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่า มันต่างจากไปสั่งประกอบตามร้านอื่นตรงไหน แล้วร้านที่ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า รับประกอบเครื่องมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว สั่งปุ๊บไปเดินซื้อซีดีเพลง ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์หรือเปล่าก็ไม่รู้ คุณตำรวจช่วยไปดูหน่อย รอสักครึ่งชั่วโมงก็ได้คอมพิวเตอร์กลับไปใช้งานที่บ้านได้ชิลๆ ไม่ต้องรอเป็นอาทิตย์
พอจะเข้าใจได้ว่า ที่แตกต่างคือมันเป็นคอมพิวเตอร์ของเดลล์ แบรนด์ระดับโลกที่การันตีในแง่ของคุณภาพของชิ้นส่วนที่ใช้งาน การประกอบที่ได้มาตรฐานมาเลเซีย และยังเรื่องของซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
เอาเข้าจริง การเปิดหน้าร้านของเดลล์ให้เป็นเรื่องเป็นราวตามห้างใหญ่ๆ น่าจะเป็นเพียง “การสร้างความตระหนักรู้ในแบรนด์” มากกว่าเรื่องแนวคิดประกอบตามสั่งที่ไม่ได้ใหม่อะไร เดลล์อาจจะคิดว่าถ้ามัวเป็นเสือซุ่มรอให้ลูกค้าสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตอย่าง เดียว อีกหน่อยคงโดนแบรนด์อื่น อย่างเอเซอร์ เอชพี และเลอโนโว ครองตลาดผู้บริโภคไปหมด
และก็เป็นจริงอย่างที่คิดเมื่ออโณทัย เปรยให้ฟังว่า ?หน้าร้านของเดลล์จะสร้างการรับรู้ในความเป็นเดลล์ ให้ผู้บริโภครู้จักมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน คอมพิวเตอร์ประกอบตามสั่งก็จะเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า นอกเหนือจากนั้น ยังคงเป็นบริการหลังการขายที่ให้บริการถึงที่ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ลูกค้าให้ความสำคัญของเดลล์
ปีนี้ เดลล์จึงตั้งเป้าเปิดหน้าร้านให้ได้ 10 ร้าน โดย 5 แห่งอยู่ในกรุงเทพฯ ได้แก่ เซียร์ รังสิต พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า (2 ร้าน) ไอทีมอลล์ ฟอร์จูน และไอทีสแควร์ หลักสี่ ส่วนอีก 5 ร้านจะทยอยเปิดในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ในบริเวณหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ และในปี 2552 ก็จะเปิดเพิ่มอีก 40 แห่งทั่วประเทศ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Tags: dell, ร้านคอม, เดล, เดลล์“พันทิป” เคลียร์กระทู้หมิ่นเบื้องสูง
Posted by admin on
October 25, 2008
“พันทิป” รับลูกก.ไอซีที ระดมทีมงานลบกระทู้หมิ่นเบื้องสูง เผยช่วงการเมืองร้อนจำนวนกระทู้ประเภทนี้ยิ่งเพิ่ม ระบุเว็บพร้อมรับความเห็นที่ไม่ตรงกันของทุกฝ่าย แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฏหมายไทย
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : นายวันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้บริหารเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (pantip.com) กล่าวว่า ขณะที่อุณหภูมิการเมืองไทยร้อนแรง กระแสการแสดงความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะตามเว็บบอร์ดการเมือง โดยเฉพาะ “ห้องราชดำเนิน” มีจำนวนคนเข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติหลายเท่าตัว
จากจำนวนดังกล่าวมีบางกระทู้ที่มี ลักษณะหมิ่นสถาบันเกิดขึ้นมากผิดปกติ ทำให้เว็บต้องระดมทีมงานดูแล และตรวจสอบกระทู้ที่มีลักษณะดังกล่าว และจัดการลบออก รวมทั้งตรวจสอบสมาชิกที่มีพฤติกรรมตั้งกระทู้ที่มีเนื้อหาลักษณะนี้ หากตรวจพบจะระงับการเป็นสมาชิกทันที
“เฉพาะช่วงการเมืองแรงๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็มีกระทู้หมิ่นเกิดขึ้นเยอะ ซึ่งทางทีมงานของเราต้องดูแล และตรวจสอบเป็นพิเศษ ซึ่งเราทำโดยเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้ไอซีทีสั่ง เพราะทางเว็บจะมีทีมงานที่คอยประสานงานกับไอซีทีตลอดเวลาอยู่แล้ว”
นายวันฉัตร กล่าวด้วยว่า สถานการณ์การเมืองปัจจุบันคงไม่ร้ายแรงเหมือนช่วงรัฐประหารที่ทางเว็บต้อง ปิดห้องราชดำเนินชั่วคราว เพราะทีมงานได้ตรวจสอบกระทู้อยู่ตลอด และเห็นว่าทั้ง 2 ฝ่าย ก็แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันได้ และเป็นสิทธิของการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตย
นายวรพจน์ หิรัญประดิษฐกุล ผู้ดูแลเว็บบอร์ดพันทิปดอทคอม กล่าวว่า การใช้เว็บบอร์ดเพื่อจุดกระแสเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการเมืองเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว จะมากจะน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของบ้านเมือง โดยสถานการณ์ช่วงนี้ยังถือว่าอยู่ระดับที่เป็นการแสดงความเห็นตามเสรีภาพที่ รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เท่านั้น เพราะต้องยอมรับว่าเมื่อคนได้เสพข่าวตามสื่อต่างๆ ก็ต้องอยากที่จะแสดงความคิดเห็น ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้
ปัจจุบันพันทิปดอทคอมมี “สมาชิก” ที่ต้องล็อกอินภายในเว็บได้เกินกว่า 1 แสนล็อกอิน มีจำนวนเพจวิวต่อวันโดยเฉพาะหน้ากระทู้มากกว่า 3 แสนเพจวิว และมีจำนวนคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้ต่างๆ มากกว่า 1 แสนคนต่อวัน
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/25/news_306226.php
Tags: pantip, กระทู้, พันทิป, หมิ่นเบื้องสูงtags: pantip, กระทู้, พันทิป, หมิ่นเบื้องสูง
No Comments
พันธมิตรทีโอทีนัดชุมนุมไล่ ‘รมว.ไอซีที’ 27 ต.ค.นี้
Posted by admin on
October 25, 2008
เอาแล้วไง..พันธมิตรทีโอทีออกแถลงการณ์นัด ชุมนุม 27 ต.ค. ขับไล่ “มั่น” อ้างอยู่ร่วมรัฐบาล “สมชาย” ทั้งต้องรับผิดชอบทำหนังสือปลดบอร์ด มั่นเผยอาจไม่เข้ากระทรวง เลี่ยงเหตุรุนแรง
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทีโอที ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรียกร้องให้พนักงานทีโอทีร่วมชุมนุม พร้อมมือตบ วันที่ 27 ต.ค. 2551 เวลา 09.30 น. เพื่อขับไล่นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที โดยแสดงจุดยืนและดำเนินการเหมือนที่ขับไล่นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ยังอ้างว่าขณะนี้มีการเมือง เข้ามาแทรกแซงการบริหารงานทีโอที และรัฐมนตรีไอซีที ได้ทำหนังสือเสนอไปยังกระทรวงการคลัง ให้ปลดนายธีรวุทย์ บุณยโสภณ ประธานบอร์ด และกรรมการอีก 4 คน
ทั้งนี้นายมั่น กล่าวว่า ขอดูสถานการณ์ก่อน ถ้ามีชุมนุมขับไล่จริง ก็อาจไม่เข้ากระทรวง เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น เพราะมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องและไม่สามารถระบุผู้รับผิดชอบได้ชัดเจน
“ไอซีทีอาศัยพื้นที่ของทีโอทีอยู่ ถ้าพนักงานทีโอทีไม่ต้อนรับแล้ว ไอซีทีก็คงต้องคงไปหาที่อยู่ใหม่ เข้าใจว่าเป็นเรื่องทางการเมือง คงไม่เกี่ยวกับเรื่องการปรับเปลี่ยนในบอร์ด เพราะปัจจุบันยังไม่ปลดหรือแก้ไขอะไร แต่ถ้าจะมีในอนาคตก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของทีโอที”
นายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า จุดยืนของทีโอทีคือเป็นกลางทางการเมือง ถ้าพนักงานจะรวมกลุ่มชุมนุมทางการเมืองเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ต้องทำโดยสงบ อยู่ในกรอบของกฎหมายและกฎระเบียบของทีโอที ห้ามมีเหตุการณ์รุนแรงเหมือนเมื่อวันที่ 22 ต.ค. เพราะจะกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ขององค์กร ซึ่งพนักงานทุกคนต้องช่วยกันให้ความร่วมมือ
ส่วนการจะชุมนุมขับไล่รัฐมนตรี ทางทีโอทีจะเตรียมการด้านการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น การชุมนุมต้องเป็นไปโดยเรียบร้อย ซึ่งประเด็นที่น่าห่วงคือ บุคคลที่ 3 เข้าร่วมชุมนุมมากกว่า เพราะเชื่อว่าพนักงานทีโอที จะไม่ทำอะไรรุนแรงแน่นอน
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (24 ต.ค.) ทีโอทีได้เรียกประชุมผู้บริหารเรื่องเหตุพนักงานทีโอทีรวมตัวขับไล่นายก รัฐมนตรี เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบ พร้อมออกเสียงตามสายขอร้องพนักงานอย่าดึงบริษัทไปร่วมแสดงความรู้สึกทางการ เมือง เพราะเกรงผลขยายสู่ความปลอดภัยของพนักงานต่างจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาค เหนือ และอีสาน รวมทั้งอาจยกเลิกใช้บริการด้วย
นายพงศ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.ทีโอที (สรท.) กล่าวว่า สรท. เตรียมออกประกาศสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่า สรท. ไม่ได้ออกแถลงการณ์เรียกระดมพนักงานขับไล่รัฐมนตรี เพราะไม่มีผลดีต่อองค์กรและไม่ใช่ทางออก สรท. ต้องการขับไล่เฉพาะนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ดังนั้นการชุมนุมวันที่ 27 ต.ค.นี้ สรท. คงไม่เข้าร่วม และต้องการให้พนักงานระวังมือที่ 3 ที่ต้องการใช้ สรท. และทีโอที เป็นเครื่องมือ
ส่วนการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ต้องการให้ตรวจสอบการเจรจาจ่ายค่าเช่าใช้ระบบบิลลิ่ง 1,476 ล้านบาท กับบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย เท่านั้น และขอให้ปลดนายวรุธ สุวกร ไม่จำเป็นต้องปลดบอร์ดทั้งคณะ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Tags: tot, ทีโอที, พันธมิตรtags: tot, ทีโอที, พันธมิตร
No Comments
เด็กหัวใส… ฉลาดใช้ไอซีที
Posted by admin on
October 25, 2008
ท่ามกลางกระแสและเหตุการณ์การใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไปในแนวทางที่ไม่ถูกต้อง ทั้งการล่อลวง การละเมิด จนหลายฝ่ายเป็นห่วงกังวลกับการใช้งานไอซีที ที่เด็กและเยาวชนจะกลายเป็น ?เหยื่อ?
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่หารู้ไม่ว่า แท้จริงแล้วทุกสิ่งมีทั้งในทางที่ดีและทางที่ไม่ดี ขึ้นอยู่กับการจัดการองค์ความรู้ เพื่อรับมือ และบางทีก็อยู่ที่มุมมองที่เกิดขึ้น
เพราะไอซีที เป็นเพียงเครื่องมือทางเทคโนโลยีเท่านั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ ?ผู้ใช้? ถ้าใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ จะเป็นพลังผลักดันสังคมอย่างยิ่ง
จากการที่มูลนิธิสยามกัมมาจล ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลับมหิดล และสถาบันราชานุกูล ได้จัดงานเสวนาเรื่อง ?เด็กหัวใส… ฉลาดใช้ไอซีที? เป้าหมายหลักคือ การสร้างเครือข่ายส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง สามารถ ?สร้าง? และ ?ใช้? ไอซีที ได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์
พ.ญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า ไอซีทีเป็นเรื่องวัฒนธรรมของชาติ ที่ทุกคนต้องเข้าถึงได้ ภาครัฐต้องเตรียมความพร้อมทั้งส่วนของคน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก และโครงสร้างพื้นฐาน และต้องจัดการความรู้ ต้องมีการศึกษาและวิจัย ต้องรับฟังสังคมว่าต้องการอะไร เพื่อสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน
?จริงๆ แล้วทั่วโลกมีปัญหาเหมือนกัน เช่น การใช้งานไอซีทีมากเกินจำเป็น การใช้ในเชิงการพนัน, การใช้ในเชิงไม่เหมาะสมทางเพศ ซึ่งต้องกำหนดกฎกติกา และแสดงให้เห็นว่าการใช้งานในทางที่เป็นประโยชน์ก็มีเช่นกัน? พ.ญ.พรรณพิมล กล่าว
สื่อทางเลือก สร้างชุมชน
งานสัมมนาดังกล่าวได้มีกลุ่มเยาวชนที่ ใช้งานไอซีทีเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมและต่อกลุ่มที่ตัวเองสนใจเข้าร่วม เช่น กลุ่มเธิร์ด คลาส ซิติเซ่น (Third Class Citizen) ที่ก่อตั้งขึ้นประมาณ 9 เดือน จัดฉายหนังสั้นและหนังอิสระ ที่มุ่งจัดกิจกรรมให้คนดูและคนที่มาพบปะพูดคุย และได้อาศัยบล็อก www.exteen.com เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์จนเกิดเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบหนังสั้นเหมือนๆ กันขึ้น
นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มบอกว่า กลุ่มเยาวชนอาจไม่ได้มีเงินทุนมากมาย และสิ่งที่ทำอยู่ก็ไม่ได้อยู่ในกระแสหลักที่ผู้ใหญ่จะสนใจ การมีไอซีทีเป็นเครื่องมือ ช่วยให้สามารถเผยแพร่ผลงานได้ ได้รู้จักเพื่อนที่มีความคิดเหมือนกัน และทำให้รู้แนวทางใหม่ๆ หากสนใจสามารถเข้ามาดูผลงานได้ที่ http://thirdclasscitizen.exteen.com
ในกลุ่มผู้ใช้งานไอซีทีระดับเยาวชน มีกลุ่มดูโอคอร์ ที่ผลิตรายการไอที รายงานข่าวสารในวงการและเปิดโอกาสให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมนำเสนอข่าวสารด้านไอ ทีด้วยตัวเองผ่านเว็บ www.duocore.tv เปิดให้มีการถกเถียง เสนอความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพราะเห็นว่า เนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ สื่อหลักไม่สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วน จึงเสนอสื่อทางเลือกผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นความรู้อีกช่องทางหนึ่ง
เครื่องมือเผยแพร่งานสร้างสรรค์
กลุ่มซูม (Zoom) ที่เกิดจากเด็กมัธยมปลายโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ได้ผลักดันให้เกิดหนังสั้นในโรงเรียน นำเสนอมุมมองที่เป็นการรณรงค์เรื่องต่างๆ เช่น การใช้ห้องน้ำ, การเก็บขยะ ออกมาในทิศทางที่ต่างออกไป และได้เผยแพร่ผลงานผ่านเว็บไซต์ www.youtube.com เป็นการใช้พื้นที่ที่เป็นอิสระในโลกไซเบอร์ แสดงจุดยืนและความคิด ผู้สนใจค้นหาจากคำว่า bcc156
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย กลุ่มบูรพาอาสา จากจังหวัดชลบุรี ผลิตผลงานรณรงค์เรื่องสัตว์เลี้ยง ผ่านเว็บไซต์ www.moralmedia.net เพื่อรณรงค์ไม่ให้ผู้เลี้ยงนำสัตว์มาปล่อย โดยใช้สุนัข เป็นพิธีกร เพื่อสื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงความรู้สึกของสัตว์เลี้ยง ซึ่งแนวคิดการใช้สัตว์เป็นตัวเดินเรื่อง เกิดจากข้อจำกัดทางเทคนิคจนกลายเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นมา
เมื่อรับฟังแนวคิดและมุมมองจากเด็กและ เยาวชนที่มาร่วมสัมมนา จะเห็นได้ว่าการใช้งานไอซีทีในเชิงสร้างสรรค์มีอยู่ไม่ได้น้อยไปกว่าแง่ลบ ที่เกิดขึ้น หนทางแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงลดผลเชิงลบที่ปรากฎ แต่ต้องเร่งเพิ่มผลงานในเชิงบวก โดยต้องมีความรู้มาจัดการและเริ่มแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Tags: ict, เด็ก, ไอซีทีtags: ict, เด็ก, ไอซีที
No Comments
5 อาการคุกคามชมรมคนบ้างาน
Posted by admin on
October 24, 2008
สำหรับมนุษย์งานเกือบทั้งหมดของชีวิตมีแต่คำว่า “งานประชุม อีเมล ลูกค้า” คงไม่ผิดหรอกที่หลายคนภาคภูมิใจกับความสำเร็จของงานที่เกิดจากความทุ่มเทของ ตัวเองแต่อย่าลืมว่าแม้ใจยังสู้
แต่ร่างกายเราไม่ใช่เครื่อง จักร?ย่อมมีวันที่เหนื่อยและอ่อนล้า?ถ้ามัวแต่เลือกงานแล้วมองข้ามตัว เอง?เชื่อแน่ว่าร่างกายไปก่อนแน่ๆ?แต่ถ้ายังอยากสนุกกับงานไปได้อีกนานๆ?ก็ ลองให้เวลาตัวเองสักนิด?หันกลับมาสำรวจความผิดปกติของร่างกาย?จะได้รู้ว่า ร่างกายของเราส่งสัญญาณเตือนภัยแล้ว?ให้หันมาใส่ใจดูแลตัวเองได้แล้ว?ก่อน ที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไข
ประเสริฐศรีอุฬารพงศ์ ผู้บริหาร”ไลฟ์เซ็นเตอร์”?ไลฟ์สไตล์ มอลล์ที่รวมทั้งศูนย์การแพทย์คลินิกเชี่ยวชาญเฉพาะทาง?กล่าว ว่า?กว่า?10?เปอร์เซ็นต์ของคนเมือง?มีภาวะเสี่ยงต่อการเป็น?โรคออฟฟิศซินโด รม-Office?Syndrome?ซึ่งมีสาเหตุมาจากอายุมากขึ้นและมลพิษต่างๆที่ สำคัญ?พฤติกรรมการทำงาน?ก็นับว่าเป็นปัจจัยให้เกิดความเสี่ยงสูงที่สุดด้วย สภาพการทำงานที่ต้องรีบเร่ง?ล้วนมีส่วนทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป?ทั้งการ ใช้คอมพิวเตอร์วันละหลายชั่วโมง?การอดอาหาร?อดหลับอดนอนเพื่อทำงานให้ เสร็จ?ทำให้ร่างกายของเราต้องแบกรับภาวะความตึงเครียด?ปราศจากการผ่อน คลาย?ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว
โดย5?อันดับโรคที่คนเมืองเป็นมากที่สุด?คือ?”ไมเกรน?โรคปวดศีรษะเรื้อรัง มักจะพบในช่วงอายุ?10-50?ปี?อัตราเฉลี่ยเพศหญิง?ร้อยละ?18?และเพศชายร้อย ละ?6?วิธีการดูแลให้ห่างไกลจาก?”ไมเกรน”?ก็สามารถทำได้ง่ายๆเช่น?พักผ่อนให้ เพียงพอ?อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท?ไม่ร้อนจนเกินไป?บริหารกล้ามเนื้อบริเวณ บ่าและคอให้มีการยืดหยุ่นอยู่เสมอเพื่อเลี่ยงการเกร็งตัวของกล้าม เนื้อ?เปลี่ยนอิริยาบถในการนั่งทำงานเพื่อลดการเกร็งตัวสะสมของกล้าม เนื้อ?หรือปรึกษาแพทย์อายุรเวท?(แผนไทยประยุกต์)?เพื่อทำการกดจุด สลาย?Trigger?Point?บริเวณกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย
ต่อด้วย”สภาวะเสียสมดุล”?โดยผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า?ปกติร่างกายของ มนุษย์ถูกออกแบบขึ้น?เพื่อรองรับภาวะรบกวนต่างๆ?จากสิ่งแวดล้อม?พร้อมขจัด และปรับระบบให้สามารถทำงานได้อย่างปกติมีประสิทธิภาพสูงสุด?โดยมีสาเหตุหลัก มาจากการนั่งทำงานในออฟฟิศผิดวิธี?หรือทำงานในลักษณะซ้ำๆ?ตลอดทั้งวัน
“การดูแลและป้องกันนั้น?มีวิธีง่ายๆ?ทำได้ด้วยตัวเองทุกวัน?โดยคืน ความสมดุลให้แก่โครงสร้างร่างกาย?เช่น?การยืดหยุ่นร่างกายไม่อยู่ในท่าใดท่า หนึ่งนานเกินไป?เพื่อลดอัตราการเกร็งกล้ามเนื้อ?หรือไม่ทำให้กล้ามเนื้อต้อง ทำงานหนักมากเกินไป?หรือเพิ่มการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณกระดูก สันหลัง?ทั้งเดิน?ยืน?นั่ง?นอน?เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ”
นอกจากนี้ยังมีโรคกระดูกสันหลังคดงออาการปวดหลังเรื้อรัง?ที่หนุ่ม สาวชาวออฟฟิศสมัยใหม่?ที่ทำงานนั่งอยู่กับโต๊ะ?ใช้ชีวิตคร่ำเคร่งอยู่หน้าจอ คอมพิวเตอร์เกือบวันละ?8?ชั่วโมง?ใส่ร้องเท้าส้นสูงบ่อยๆ?เคยลองสังเกตไหม ว่าร่างกายสะสมความอ่อนเพลียและเมื่อยล้าไว้มากขนาดไหน?และรู้หรือเปล่าว่า นั่นคือสาเหตุเริ่มต้นของโรคปวดหลังเรื้อรัง?โดยค่าเฉลี่ย?80?เปอร์เซ็นต์ มักจะเคยมีอาการปวดหลังสักครั้งในชีวิต?และกว่า?20%?จะพบว่ามีอาการปวดหลัง แบบเรื้อรัง?มาจาก?กระดูกสันหลังคดงอ
“ปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ”?เอ็นกล้ามเนื้อต้นคออักเสบ?อีกโรคที่ คุกคามอย่างเงียบๆ?ที่กำลังขยายวงกว้างในกลุ่มคนที่ต้องนั่งทำงานกับ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ?โดยสาเหตุหลักเกิดจากการใช้ข้อมือในการยึดจับสิ่ง ของ?หรือเมาส์คอมพิวเตอร์ในท่าเดิมๆ?เป็นระยะเวลานาน?ทำให้กล้ามเนื้อกดทับ เส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบและเกิดพังผืดยึดจับบริเวณนั้นเป็นจำนวน มาก?วิธีปฏิบัติง่ายๆ?ในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณมือและข้อมือ ทุก?15-20?นาที
สุดท้ายคือ’หูดับ?โรคประสาทหูเสื่อมโดยปกติประสาทหูจะเริ่มเสื่อม ทีละน้อยๆ?ในช่วงอายุประมาณ?30-50?ปีขึ้นไป?แต่ในปัจจุบันความก้าวหน้าด้าน เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของคนเมืองมากขึ้น?สังเกตได้จากค่านิยมใน การใช้มิวสิกโฟนผ่านทางมือถือและเครื่องเอ็มพี?3?การใช้โทรศัพท์มือถือ นานๆ?ก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคประสาทหูเสื่อมได้
และนี่เป็นเพียง5?อันดับโรคยอดฮิตเรียกน้ำย่อยสำหรับคนเมือง?พ.ศ. นี้?แต่ความเป็นจริงยังมีโรคภัยอีกมากมายที่คืบคลานเข้ามาหาตัวเรา?ถ้าเรา ยังเลือกทำแต่งาน?แล้วมองข้ามสุขภาพตัวเอง…ใส่ใจตัวเองสักนิด?หาความสมดุล ให้แก่ชีวิต?แล้วจะรู้ว่าชีวีตที่มีสุขเป็นอย่างไร
ที่มา : http://www.komchadluek.net/2008/10/24/x_soc_s001_227439.php?news_id=227439
Tags: คนบ้างาน, อาการ คนบ้างานtags: คนบ้างาน, อาการ คนบ้างาน
1 Comment
ฟอสซิลไดโนเสาร์150 ล้านปีที่กาฬสินธุ์
Posted by admin on
October 24, 2008
พบฟอสซิลไดโนเสาร์แห่งใหม่ ใกล้เทือกเขาภูพาน จ.กาฬสินธุ์ อายุราว 150 ล้านปี นักธรณีวิทยาระบุเป็นไดโนเสาร์ชนิดกินทั้งพืชและเนื้อ
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : จักรพงษ์ ระวิวรรณ
นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำทีมงานสำรวจแหล่งขุดค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์และซากสัตว์โบราณ ที่บริเวณภูน้อย ติดกับเขตเทือกเขาภูพาน บ้านโคกสนาม ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขุดค้นและสำรวจอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่จากกรม ทรัพยากรธรณี
นางสาวธิดา แสนยะมูล หัวหน้าหน่วยสำรวจธรณีวิทยา กล่าวว่า?จากการสำรวจพื้นที่โดยรอบ เบื้องต้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ชนิดกินพืชและกินเนื้อ นอกจากนี้ยังพบซากกระดูกของจระเข้ ฟันปลาฉลามน้ำจืด ปลาโบราณจำนวนมาก คาดว่ามีอายุมากกว่า 150 ล้านปี
อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการขุดสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงจะสามารถระบุได้ว่าการฟอสซิลไดโนเสาร์มีความสมบูรณ์มากน้อยขนาดไหน เป็นกระดูกในยุคสมัยใด และเป็นฟอสซิลของสัตว์อะไรบ้าง ส่วนฟอสซิลที่สามารถขุดพบได้ในขณะนี้ก็จะส่งไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธสิรินธร ก่อน เนื่องจากต้องการเครื่องมือที่ทันสมัยทำความสะอาดและเก็บรักษา
ด้านนายเดชา?กล่าวว่า การค้นพบฟอสซิลแห่งนี้ถือเป็นการขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์จำนวนมากแห่งใหม่ ของ จ.กาฬสินธุ์ รองจากหลุมขุดค้นพบภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ ทางจังหวัดจะหารือกับกรมทรัพยากรธรณี และจะรอการสำรวจอย่างละเอียดว่า ฟอสซิลมีความสมบูรณ์และมีจำนวนมากหรือไม่
หากพบว่ามีจำนวนมากและสมบูรณ์ต่อไป ทางจังหวัดจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในการขุดค้นพบแห่งที่ 2 ของจังหวัด ซึ่งจะสามารถเชื่อมไปยังแหล่งพบต้นไม้กลายเป็นหินที่ภูปอ บ้านคำสมบูรณ์ ต.นาบอน อ.คำม่วง อีกด้วย
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/23/news_305866.php
Tags: กาฬสิน, ฟอสซิลtags: กาฬสิน, ฟอสซิล
No Comments
แย่แล้ว..แฮมเบอร์ทำพิษ..อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ท่าจะป่วย
Posted by admin on
October 24, 2008
วิกฤติการเงินทั่วโลก ดึงอุตฯฮาร์ดดิสก์โตลดลงเหลือไม่ถึง 10% จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 14% หวังอานิสงค์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์-ธุรกิจบริการผ่านดาต้าเซ็นเตอร์-กระแสเน็ต บุ๊ค หนุนความต้องการตลาดรวมฟื้นใน 2 ปี
กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : นายโจแอล ไวส์ ประธานสมาคมสำหรับอุตสาหกรรมฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลก (ไอดีมา) กล่าวว่า ผลกระทบจากวิกฤตการเงินอาจส่งผลกระทบยอดซื้อต่อตลาดรวม ทำให้การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ลดลงเหลือไม่ถึง 10% ในปี 2552 จากเดิมเคยมีประมาณการณ์ว่าตลาดจะขยายตัวระดับ 14% ต่อเนื่องตลอด 5 ปี ขณะที่ ปีนี้คาดว่าตลาดจะยังอยู่ที่ 565 ล้านยูนิตทั่วโลก
พร้อมกันนี้ คาดว่าจะไม่มีการปรับลดจำนวนพนักงาน ในส่วนของฐานการผลิตที่อยู่ในประเทศไทย แต่จะไม่รับคนเพิ่ม
รายงานข่าว กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทย ถือเป็นฐานผลิตฮาร์ดดิสก์อันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งผู้ผลิตแถวหน้าเข้ามาตั้งโรงงาน ได้แก่ เวสเทิร์น ดิจิตอล, ฮิตาชิ, ซีเกท, ฟูจิตสึ โดยเมื่อปี 2550 มียอดผลิตรวมประมาณ 200 ล้านยูนิต สร้างมูลค่าส่งออก 5 แสนล้านบาท
ด้านนายจอห์น ริดนิ่ง ผู้อำนวยการวิจัย ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ไอดีซี) กล่าวว่า ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดขายฮาร์ดดิสก์ 152 ล้านยูนิต เพิ่มจากไตรมาส 4 ปีก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ภาวะความมั่นใจกับสถานการณ์อนาคต จะทำให้ยอดเติบโตรวมลดลงหลายไตรมาส และน่าฟื้นกลับมาแข็งแกร่งได้ปี 2553
ทั้งนี้ เขามองว่าแม้ปีหน้าตลาดจะเติบโตไม่ถึง 12-14% อย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่ก็น่าจะยังอยู่ที่ประมาณ 10% เนื่องจากฮาร์ดดิกส์จะได้รับผลกระทบน้อยว่าพีซี เพราะมีความต้องการการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลเพิ่มมาก ผู้บริโภคการจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่และวิดิโอมากขึ้น
ขณะเดียวกัน มีแนวโน้มของการเกิดกลุ่มผู้ให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่าเป็น “คลาวด์ คอมพิวติ้ง” ในหลายรูปแบบ และต้องเพิ่มการจัดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อให้บริการตลาดผู้ใช้องค์กรธุรกิจ จะกระตุ้นให้มีผู้ใช้อุปกรณ์โมบาย เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้บริการมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ “เน็ตบุ๊ค” ที่มีน้ำหนักเบา หน้าจอเล็กกว่า 10 นิ้ว ระดับราคาเฉลี่ย 200 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีทั้งแบบที่ใช้ฮาร์ดดิกส์และเอสเอสดี (Solid State Drive) โดยปัจจุบันมีกลุ่มที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ 65%
ขณะที่ ผลสำรวจความต้องการลงทุนไอทีขององค์กรทั่วโลก พบว่า 40% มีแผนตัดลดงบลงทุน โดยระบุว่าจะตัดลดงบส่วนของพีซี 50% ตามมาด้วยโมบาย ดีไวซ์ และวอยซ์โอเวอร์ไอพี ในสัดส่วนเท่ากันคือ 40% เครื่องแม่ข่าย 30% และมีเพียง 20% ระบุตัดงบด้านสตอเรจ
“วิกฤตที่เกิดขึ้นแตกต่างจากวิกฤติ เอเชียเมื่อปี 2541 และยุคฟองสบู่ดอทคอมในสหรัฐปี 2544 แต่ครั้งนี้ผลที่เกิดขึ้นรวดเร็วกระจายไปทั่วโลก โดยอาจไม่รุนแรงเฉียบพลันเหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา” นายริดนิ่งกล่าว
นายจอห์น คิม นักวิเคราะห์ บริษัท เทรนด์ โฟกัส กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทที่รับจ้างทำเอสเอสอี (เอสเอสดี โออีเอ็ม) มีมากกว่า 60 รายทั่วโลก จากตลาดรวมมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ เทียบกับฮาร์ดดิสก์ มีผู้ผลิต 7 รายหลัก รวมมูลค่าตลาด 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ดังนั้น จะเห็นว่าผู้ผลิตเอสเอสดียังมีจำนวนมากเกินไป และเชื่อว่าอนาคตจะเกิดการควบรวมเหมือนอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์
รวมทั้งมีคาดการณ์ว่า การใช้งานเอสเอสดี จะได้รับความนิยมในกลุ่มอุปกรณ์โมบาย ดีไวซ์ โดยปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนการใช้เอสเอสดี 92% และฮาร์ดดิสก์ 7% จากตลาดรวมโมบาย ดีไวซ์ 1.5 พันล้านเครื่อง และคาดว่าปี 2555 ตลาดรวมจะขยับเป็น 2.5 พันล้านเครื่อง โดยมีสัดส่วนที่ใช้เอสเอสดี 91%
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/24/news_305663.php
Tags: hamber, harddisk