Archive for March, 2012

‘ดีลิงค์’ เปิดโซลูชั่น 3 กลุ่มคลาวด์ รองรับไลฟ์สไตล์ดิจิตอล

'ดีลิงค์' เปิดโซลูชั่น 3 กลุ่มคลาวด์ รองรับไลฟ์สไตล์ดิจิตอล

ดี-ลิงค์ เปิดตัวโซลูชั่น mydlinkTM Cloud Services พร้อมกัน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมประกาศเปิดฉากรุกตลาดผู้ใช้คลาวด์เต็มตัว…

นายแซม หว่อง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ดีลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า บริษัทก้าวเข้าสู่ธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้งตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มคลาวด์ชื่อมายดีลิงค์ เพื่อให้บริการแบบเรียลไทม์ สร้างความเปลี่ยนแปลงในการใช้กล้องไอพี โดยผู้ใช้สามารถเข้ามาดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น จากที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โซลูชั่น มายดีลิงค์ คลาวด์ เซอร์วิส ที่เปิดตัวในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น คลาวด์แคม คลาวด์เราเตอร์ และ คลาวด์ สตอเรจ ของดี-ลิงค์ ก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อเว็บพอร์ทัล และแอพพลิเคชั่นมายดีลิงค์ได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่าที่ซับซ้อนใดๆ ใช้งานง่าย และสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เครือข่ายของตนได้เพียงไม่กี่คลิกจากระยะไกล

ล่าสุด โซลูชั่น มายดีลิงค์ คลาวด์ เซอร์วิส ได้รวมนวัตกรรมที่แตกต่างเพื่อสร้างความสอดคล้องและตอบรับกับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่บ้านและออฟฟิศและยังเข้าถึงข้อมูลต่างๆ จากทุกที่ทุกเวลา ดังนั้น ดี-ลิงค์ จึงเปิดตัวพร้อมกัน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งคลาวด์แคม คลาวด์เราเตอร์ และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายคลาวด์ หรือ คลาวด์ สตอเรจ

สำหรับโซลูชั่น มายดีลิงค์ คลาวด์ เซอร์วิส ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่ม ได้แก่ คลาวด์แคม จำนวน 5 รุ่น?คลาวด์ เราเตอร์ 1 รุ่น และ คลาวด์ สตอเรจ 1 รุ่น ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ?กล้องไอพีพื้นฐานดิจิตอลซูม 4 เท่าพร้อมไมโครโฟนในตัว กล้องไอพีที่เพิ่มคุณสมบัติ LED อินฟราเรดสามารถดูภาพในเวลากลางคืนได้ไกลถึง 5 เมตร รวมถึงอุปกรณ์ NVR (Network Video Recorder) แบบสแตนอโลน ที่ใช้จัดเก็บภาพและควบคุมการทำงานของกล้องไอพีแบบเรียลไทม์ เป็นต้น

นายหว่อง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเราก้าวเข้าสู่ยุคของคลาวด์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นหัวใจของชีวิตดิจิตอล การขยายตัวของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และการเชื่อมต่อแบบไร้สายทำให้ความต้องการเข้าถึงคลาวด์ส่วนตัวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และตลอด 25 ปี ของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบเครือข่าย นวัตกรรม มายดีลิงค์ คลาวด์ เซอร์วิส คือความพยายามล่าสุดของดี-ลิงค์ในการยกระดับการใช้งานและการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายในระดับผู้ใช้งาน.

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, , , ,

ยืดเยื้อ ถกร่างครอบงำกิจการโทรคม ยังไม่ได้ข้อสรุป

ยืดเยื้อ ถกร่างครอบงำกิจการโทรคม ยังไม่ได้ข้อสรุป

คณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม เผยถกแก้ไขประกาศฯครอบงำกิจการ ใกล้ยุติ คาดเสนอบอร์ด กทค. ก่อนสงกรานต์นี้…

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, ,

‘ดีแทค’ ส่งแคมเปญกระตุ้นยอดสมาร์ทโฟน พ่วงของสะสมคอลเลกชั่นใหม่

'ดีแทค' ส่งแคมเปญกระตุ้นยอดสมาร์ทโฟน พ่วงของสะสมคอลเลกชั่นใหม่

ดีแทค เปิดแคมเปญ “ซัมเมอร์ สเปเชียล” ให้ส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท สำหรับซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยม ชูจุดเด่นไม่มีสัญญาไม่มีค่าปรับ หวังเพิ่มความร้อนแรงให้ตลาดมือถือ…

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค จัดโปรโมชัน “ดีแทค ซัมเมอร์ สเปเชียล” ต้อนรับหน้าร้อน ด้วยแคมเปญความผูกพันระยะยาวแต่ไม่ผูกมัด ไม่มีสัญญา ไม่มีค่าปรับ พร้อมมอบส่วนลดรวมสูงสุด 10,000 บาท และผ่อน 0% นาน 6 เดือน เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นที่ร่วมรายการทั้ง iPhone 4S , Samsung Galaxy Note และ HTC Sensation XL

โดยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทครายเดือน เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนที่ร่วมรายการและสมัครแพ็กเกจ สมาร์ทโฟน 899 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย.2555 โดยลูกค้าที่มีอายุการใช้งาน 1 ปีขึ้นไปและมีค่าใช้บริการรายเดือนที่เรียกเก็บแล้วในเดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. หรือ เม.ย. 2555 เดือนใดเดือนหนึ่งในจำนวน 1,200 บาทขึ้นไป จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องในวันแรกสูงสุด 3,520 บาท โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า และรับส่วนลดค่าโทร.เพิ่มอีก 6,480 บาท (ส่วนลดเดือนละ 360 บาท นาน 18 เดือน) ทั้งนี้ลูกค้าดีแทคทุกหมายเลขและลูกค้าใหม่สามารถใช้สิทธิพิเศษนี้ได้ โดยจะได้รับส่วนลดรวมสูงสุด 6,250 บาท โดยทุกเครื่องไม่มีการทำสัญญา

นอกจากนี้ แฮปปี้จากดีแทคยังเปิดตัวของสะสมคอลเลกชั่นใหม่ “แฮปปี้โมเมนต์” ด้วยลวดลายดีไซน์สนุกของกราฟิกบนโทนสีขาว-ดำบนสินค้าต่างๆ อาทิ เสื้อยืดเด็กและผู้ใหญ่ ผ้าพันคอ กระเป๋าช็อปปิ้ง กระเป๋าสะพาย ซองซิป ร่มพับ ซองใส่สมุดบัญชี ซองใส่นามบัตร แก้วน้ำ แก้วกาแฟ สมุดโน้ตขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ชุดดินสอ เคสใส่ iPhone 4/4S แฟลชไดรฟ์ (Flash Drive) 4GB และที่บังแดดในรถ ราคาตั้งแต่ 39-530 บาท.

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, ,

โลกาภิวัตน์ 30/03/55

โลกาภิวัตน์ 30/03/55

ผ่าตัดเปล่ียนใบหน้าท้ังหน้า
ภาพถ่ายที่นำออกแสดง ในการแถลงข่าว การผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าคนไข้อุบัติเหตุ จนใบหน้าเสียโฉม ให้เห็นใบหน้าทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด ทำที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ของสหรัฐฯ เมื่อต้นสัปดาห์นี้ คณะแพทย์กล่าวว่า เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้าทั่วทั้งใบหน้าครั้งแรกของโลก.

คนไข้วัณโรคปีละ1แสนราย
คนไข้วัณโรครายหนึ่งของอินเดีย ซึ่งมีผู้ป่วยอยู่ในปัจจุบัน มากถึงประมาณ ปีละ 100,000 ราย.

เทคโนโลยีการป้องกัน
หน้ากากออกซิเจนแบบใหม่ รวมทั้งหุ่นยนต์แปลงโฉมและเครื่องหลังแบบกระจายน้ำหนัก ในงานแสดงอุปกรณ์ป้องกันภัยแบบใหม่ ที่กรุงลอนดอน เมื่อเร็วๆนี้.

ยิงจรวดปล่อยควันสี
องค์การอวกาศสหรัฐฯ? ยิงจรวดติดกันเป็นชุด 5 ลูกด้วยกัน ขึ้นสู่กึ่งวงโคจร ระยะสูงจากพื้นดิน 104 กิโลเมตร แต่ละลูกปล่อยควันสี เพื่อการศึกษากระแสลมบนทางวิทยาศาสตร์.

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
,

ซีเกทพัฒนา’HAMR’ เทคโนโลยีใหม่ จุ1TBต่อตร.นิ้ว

ซีเกทพัฒนา'HAMR' เทคโนโลยีใหม่ จุ1TBต่อตร.นิ้ว

ซีเกทบรรลุเป้าหมายในด้านความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูล บนฮาร์ดไดรฟ์ถึง 1 เทราบิตต่อตารางนิ้ว พร้อมการสาธิตเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแห่งอนาคต (HAMR) ทำให้จุข้อมูลได้มากกว่าเดิมถึง 55%…

บริษัทซีเกท เป็นผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายแรกที่สร้างประวัติศาสตร์โดยการเพิ่มความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลเป็น 1 เทราบิต (หนึ่งล้านล้านบิต) ต่อตารางนิ้ว และสาธิตเทคโนโลยีที่ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความจุในการจัดเก็บข้อมูลของฮาร์ดไดรฟ์รุ่นปัจจุบันเป็นสองเท่าซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายทศวรรษนี้? ทำให้ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้วมีความจุสูงขึ้นเป็นพิเศษถึง 60 เทราไบต์ตลอดระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า?? ในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ จำนวนบิตที่อยู่ในพื้นที่ดิสก์ขนาดหนึ่งตารางนิ้ว มีจำนวนมากกว่าดวงดาวในทางช้างเผือก ที่นักดาราศาสตร์บอกว่ามีจำนวนประมาณ 200,000 ล้านถึง 400,000 ล้านดวง

ล่าสุด ซีเกท บรรลุเป้าหมายในด้านความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูล ด้วยเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบเอชเอเอ็มอาร์? (Heat-Assisted? Magnetic Recording (HAMR)) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลรุ่นถัดไป? ส่วนเทคโนโลยีของฮาร์ดไดรฟ์ในปัจจุบัน คือ การจัดเก็บข้อมูลแม่เหล็กในแนวตั้งฉาก (Perpendicular Magnetic Recording (PMR))ถูกนำมาใช้เพื่อบันทึก ข้อมูลดิจิตอลที่หลากหลาย ตั้งแต่ เพลง ภาพนิ่งและวิดีโอที่ถูกจัดเก็บไว้ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปภายในบ้านจนถึงข้อมูลทางธุรกิจที่ถูกจัดเก็บไว้ในศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ??? บนแผ่นดิสก์แบบหมุนที่อยู่ภายในฮาร์ดไดรฟ์ทุกตัว?? เทคโนโลยีพีเอ็มอาร์ถูกเปิดตัวในปี 2549 เพื่อใช้แทนที่การจัดเก็บข้อมูลในแนวนอน (longitudinal recording) ซึ่งเป็นวิธีการที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่มีการเริ่มมีการใช้ฮาร์ดไดรฟ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์เมื่อปี 2499 และคาดว่าจะมีความจุสูงถึงขีดจำกัดด้านความจุในระดับใกล้เคียงกับ 1 เทราบิตต่อตารางนิ้วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นายมาร์ค เร รองประธานอาวุโส? ฝ่ายวิจัยและพัฒนาหัวอ่านและมีเดียบันทึกข้อมูลของซีเกท กล่าวว่า การเติบโตของสื่อสังคมออนไลน์ (Social media) เซิร์ชเอ็นจิน (Search engines) คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud computing)? ริช มีเดีย (Rich media) และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่ต้องการพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลสูง ยังคงเพิ่มปริมาณความต้องการความจุในการจัดเก็บข้อมูลที่สูงขึ้น นวัตกรรมใหม่สำหรับฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์อย่างเช่น เอชเอเอ็มอาร์จะนำมาซึ่งการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่ต้องจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในอนาคต? และเพิ่มวิธีการที่ธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลก ใช้ จัดการและจัดเก็บข้อมูลดิจิตอล

รอง ปธ.อาวุโส ฝ่ายวิจัยและพัฒนาหัวอ่านและมีเดียบันทึกข้อมูล ซีเกท กล่าวต่อว่า ผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์เพิ่มความหนาแน่นและความจุในการจัดเก็บข้อมูลด้วยการทำให้บิตของข้อมูลที่อยู่ในแพล็ทเตอร์มีขนาดเล็กลง เพื่อจัดเก็บข้อมูลมากขึ้นภายในพื้นที่ดิสก์แต่ละตารางนิ้ว? นอกจากนี้ พวกเขายังบีบอัดตำแหน่งของข้อมูล ที่เป็นวงกลมมีจุดศูนย์กลางอยู่บนพื้นผิวของดิสก์ ยึดติดอยู่กับบิตต่าง ๆ? หัวใจของการเพิ่มความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลคือการทำทั้งสองอย่างโดยไม่ทำให้วงจรแม่เหล็กของบิตเกิดการสะดุด อันเป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้ข้อมูลบิดเบือน? จากการใช้เทคโนโลยีเอชเอเอ็มอาร์ ที่เพิ่มความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลได้ประมาณ 2 ล้านบิตต่อตารางนิ้ว โดยครั้งหนึ่งเคยคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้? ส่งผลให้มีความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลสูงกว่า 1 ล้านล้านบิต หรือ? 1 เทราบิตต่อตารางนิ้ว สูงกว่าความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลสูงสุดในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 620 กิกะบิตต่อตารางนิ้ว? ถึงร้อยละ 55

ความจุสูงสุดของฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้ว รุ่นปัจจุบัน คือ 3 เทราไบต์ (ทีบี) ซึ่งมีความหนาแน่นประมาณ 620? กิกะบิตต่อตารางนิ้ว ในขณะที่ไดรฟ์ขนาด 2.5 นิ้ว มีความจุสูงสุด 750 กิกะไบต์ (จีบี) หรือมีความหนาแน่นประมาณ 500?? กิกะบิตต่อตารางนิ้ว?? ไดรฟ์เอชเอเอ็มอาร์รุ่นแรก ซึ่งมีความหนาแน่นสูงกว่า 1 เทราบิตต่อตารางนิ้ว น่าจะเพิ่มความจุเหล่านี้ให้สูงถึงกว่าสองเท่า นั่นคือ 6 เทราไบต์สำหรับไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้วและ 2 เทราไบต์สำหรับรุ่นที่มีขนาด 2.5 นิ้ว? เทคโนโลยีนี้ทำเสนอการเพิ่มขึ้นของความจุที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยทฤษฏีขีดจำกัดของความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่ 5 ถึง 10 เทราบิตต่อตารางนิ้ว นั่นคือ ความจุ 30 เทราไบต์ถึง 60 เทราไบต์สำหรับไดรฟ์ขนาด 3.5 นิ้วและความจุ 10 เทราไบต์ถึง 20 เทราไบต์สำหรับไดรฟ์ที่มีขนาด 2.5 นิ้ว

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, ,

ไอบีเอ็มแชมป์เซิร์ฟเวอร์องค์กรอาเซียนไตรมาส4ปี54

ไอบีเอ็มแชมป์เซิร์ฟเวอร์องค์กรอาเซียนไตรมาส4ปี54

ไอดีซี ระบุในไตรมาส 4 ปี 2554 ไอบีเอ็ม ครองส่วนแบ่งตลาดรายได้เซิร์ฟเวอร์โดยรวมอันดับ 1 ในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์? ในแง่ของรายได้ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 40% มากกว่าเอชพีที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 9 จุด…

ไอบีเอ็มยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรของอาเซียน ในไตรมาส 4 โดยครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ได้อย่างแข็งแกร่ง ตามข้อมูลจากรายงานตลาดเซิร์ฟเวอร์รายไตรมาสในเอเซียแปซิฟิคของไอดีซี ระบุว่า ไอบีเอ็มครองอันดับ 1 ในอาเซียนในแง่ของรายได้ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 40% มากกว่าเอชพี หรือ ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด (HP) ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 9 จุด โดยมาจากความสำเร็จของ IBM Power Systemsและ System z servers โดยสำหรับประเทศไทย ไอบีเอ็มเป็นผู้จำหน่ายเซิร์ฟเวอร์อันดับ 1 โดยครองส่วนแบ่งตลาดในแง่ของรายได้เซิร์ฟเวอร์โดยรวมสูงถึง 52.1% มีส่วนแบ่งรายได้จากตลาดเซิร์ฟเวอร์โดยรวมสูงกว่าคู่แข่งที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 29.6% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554

นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 สำหรับ ตลาดเซิร์ฟเวอร์องค์กรระดับไฮเอนด์ (เซิร์ฟเวอร์ระดับราคา 250,000 ดอลลาร์ขึ้นไป) ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 79.8% (สูงกว่าคู่แข่งที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 59.6 จุด) ตลาดเซิร์ฟเวอร์ RISC/EPIC ด้วยส่วนแบ่งรายได้ 49.6% (สูงกว่าคู่แข่งที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 18.1 จุด)

ส่วนแบ่งตลาดในแง่ของรายได้จากยูนิกซ์เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ใช่สถาปัตยกรรม x86 อยู่ที่ 64% (สูงกว่าคู่แข่งที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 39.7 จุด) และ ส่วนแบ่งตลาดในแง่ของรายได้จากลีนุกซ์เซิร์ฟเวอร์ อยู่ที่ 36.2% (สูงกว่าคู่แข่งที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ราว 7.9 จุด)

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การที่เรารั้งตำแหน่งผู้นำอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากการลงทุนในระบบที่หลากหลายและเทคโนโลยีชั้นนำ โดยเรามุ่งมั่นผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรม การเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับขนาด และการปรับปรุงประสิทธิภาพ? ไอบีเอ็มยังคงมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างจริงจังเพื่อค้นหาหนทางใหม่ๆ ในการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ลูกค้า เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือลูกค้า เราจึงพยายามที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ปรับขนาดได้อย่างเหมาะสม ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงาน เพื่อสร้างความแตกต่างให้แก่ลูกค้าและเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขัน

ด้าน นายพง เทเลอร์ รองประธานกลุ่ม System and Technology Groupไอบีเอ็มอาเซียน กล่าวว่า ไอบีเอ็มรู้สึกภูมิใจในการเป็นผู้นำตลาดครั้งนี้ ด้วยคุณค่าของ Smarter Computing ที่รวมเอาความแข็งแกร่งของ Big Data การวิเคราะห์ข้อมูลOptimize System และคลาวด์ คอมพิวติ้ง มาเป็นสถาปัตยกรรมอัจฉริยะที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึก เพิ่มขีดความสามารถทางด้านไอที และนำเสนอบริการใหม่ๆ ได้รวดเร็วกว่า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ? เพื่อให้องค์กรต่างๆ ได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และสมรรถนะ โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า?

ไอบีเอ็มมั่นใจว่า ในยุคใหม่ของระบบคอมพิวติ้ง ที่ไอบีเอ็มกำลังพัฒนาออกมา จะเป็นการรวบรวมเอาเซิร์ฟเวอร์รุ่นต่างๆ มาพัฒนารวมเรียกว่า เป็น ระบบบูรณาการอัจฉริยะ (Integrated Expertise) ที่จะเป็นการติดตั้งที่รวมเอา ไอบีเอ็มเซมิคอนดัคเตอร์ การวิจัย และบริการ ที่ทำให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายทางด้านไอที ลดคนดูแลระบบ นอกจากเป็นการช่วยลดทรัพยากรการดูแลระบบแล้ว ยังทำให้การบริหารจัดการ และการลงทุนไอทีทำได้ถูกต้องตรงจุด? ด้วยการใช้คลาวด์ ในการจัดการกับเวิร์คโหลดได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:

จ็อบสตรีทเผย ‘เด็กจบใหม่’ไม่สู้งาน-ไม่กระตือรือร้น

จ็อบสตรีทเผย 'เด็กจบใหม่'ไม่สู้งาน-ไม่กระตือรือร้น

จ็อบสตรีทดอทคอมเผยคุณลักษณะบัณฑิตใหม่ที่องค์กรต้องการ เผยเด็กยุคใหม่ไม่สู้งาน ขาดทักษะภาษา-การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนเด็กใหม่ชี้ปัญหาในที่ทำงาน พบถูกเอาเปรียบ การปรับตัว ระยะเวลาเรียนรู้งาน ขณะที่งานรัฐวิสาหกิจและราชการเนื้อหอม เด็กจบใหม่รุมตอม…

จ็อบสตรีทดอทคอมเผยคุณลักษณะบัณฑิตใหม่ที่องค์กรต้องการจากผลสำรวจ ?มุมมองนายจ้างที่มีต่อบัณฑิตจบใหม่และองค์กรแบบไหนที่บัณฑิตใหม่ยี้ที่สุด? เพื่อเตรียมความพร้อมให้บัณฑิตใหม่สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาการว่างงานของเด็กจบใหม่ พร้อมสร้างความเข้าใจความต้องการของบัณฑิตใหม่เพื่อให้องค์กรสามารถรักษาคนดี คนเก่งเอาไว้ได้ แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะมีสัดส่วนประชากรว่างงานน้อยลง แต่จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อเดือน ส.ค.2554 น่าสังเกตว่า จำนวนคนว่างงานนั้นเป็นกลุ่มบัณฑิตใหม่ในระดับอุดมศึกษาที่มีมากถึง 110,000 คน? เนื่องจากในแต่ละปี มีบัณฑิตจบใหม่เข้าสู่ตลาดงานเป็นจำนวนมาก

จ็อบสตรีทดอทคอมจึงได้ทำการสำรวจคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบัณฑิตใหม่ขึ้น พร้อมทั้งสำรวจถึงความต้องการและความเห็นของเด็กจบใหม่ที่มีต่อองค์กร เพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มความต้องการของแรงงานระดับอุดมศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาการศึกษาและตลาดแรงงานไทย โดยแบบสำรวจความคิดเห็นนี้สำรวจจาก องค์กรจำนวน 305 องค์กร และบัณฑิตจบใหม่จำนวน 1,085 คน พบว่า 96% ขององค์กรที่ตอบแบบสอบถามเปิดรับบัณฑิตจบใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน หลายๆ องค์กรต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดจากพนักงานใหม่เหล่านั้น ทั้งเรื่องการปรับตัว ความรับผิดชอบ และทัศนคติในการทำงาน

นางสาวฐนาภรณ์ สถิตพันธุ์เวชา ผู้จัดการสาขาประเทศไทย บริษัท จ็อบสตรีท (ประเทศไทย) จำกัด? กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่องค์กรส่วนใหญ่ให้โอกาสเด็กจบใหม่ได้แสดงศักยภาพ และเข้าสู่บทบาทของคนทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนจากองค์กรที่ร่วมทำแบบสำรวจ เห็นว่าปัญหาหลักที่พบ คือ บัณฑิตใหม่เหล่านี้ไม่สู้งาน ย้ายงานหรือเปลี่ยนงานบ่อย และขาดความรับผิดชอบ นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องทักษะ การใช้ภาษาอังกฤษ ขาดทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และ ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน สำหรับลักษณะไม่พึงประสงค์อื่นๆ ที่ตัวแทนฝ่ายนายจ้างระบุ อาทิเช่น การเรียกเงินเดือนที่สูงเกินไป ขาดวินัย ไม่รักษาเวลา ขาดความเคารพนบนอบ? ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รับผิดชอบ และมั่นใจในตัวเองมากเกินไป

ผจก.สาขาประเทศไทย บ.จ็อบสตรีท กล่าวต่อว่า แต่ในทางกลับกัน จากมุมมองของบัณฑิตใหม่ ปัญหาที่บัณฑิตใหม่มักพบจากการทำงานแรกคือ ปัญหาเรื่องการได้รับมอบหมายงานที่ไม่ตรงกับหน้าที่ การถูกเอาเปรียบจากเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า เรื่องของการได้รับสวัสดิการ หรือเงินเดือนไม่ตรงตามที่ตกลงไว้ ปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรไม่ได้ และปัญหาเรื่องการเรียนรู้งานทั้งปัญหาที่เกิดจากการทำงานที่ไม่ตรงกับสายที่เรียน ผู้สอนงาน และระยะเวลาในการเรียนรู้งาน นี่อาจจะสะท้อนให้หน่วยงานและองค์กรเองให้ความสำคัญกับการสอนงานพนักงานให้มากขึ้น

?จากการสำรวจความคิดเห็นฝ่ายนายจ้างเพิ่มเติม เราพบว่าคุณลักษณะที่ฝ่ายนายจ้างต้องการมากที่สุดในส่วนของ ความสามารถเชิงวิชาการ (hard Skill) คือ ความสามารถในการนำความรู้ที่ได้ศึกษามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้ นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าบัณฑิตใหม่จะสามารถวิเคราะห์ ตีความได้อย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปแก้ปัญหาในการทำงานได้อย่างเหมาะสม สำหรับด้านคุณธรรม จริยธรรมนั้น คุณสมบัติที่เป็นสิ่งที่นายจ้าง ต้องการมากที่สุด คือ ความตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต รองลงมาคือเรื่องของความมีวินัย ตรงเวลา รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ในด้านความสัมพันธ์กับบุคคลและความรับผิดชอบนั้น ฝ่ายนายจ้างให้ความสำคัญกับความสามารถในการปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด รองลงมาคือ ความรอบคอบในการปฏิบัติงาน ไม่ละเลยต่อหน้าที่จนเกิดงานคั่งค้าง? นางสาวฐนาภรณ์ กล่าว

ผจก.สาขาประเทศไทย บ.จ็อบสตรีท กล่าวอีกว่า เมื่อมองจากมุมของเด็กจบใหม่ เราพบว่าปัจจัยสำคัญที่บัณฑิตใหม่ระบุว่ามีผลต่อการตัดสินใจสมัครงานนั้น 48% ระบุว่าจะเลือกหน่วยงานรัฐวิสาหกิจก่อน? รองลงมาคืออยากทำงานในหน่วยงานราชการ และ เลือกที่จะสมัครงานในบริษัทที่มีชื่อ เสียง เป็นลำดับต่อไป และเมื่อถามต่อไปว่าหากเลือกได้ อยากอยู่องค์แบบใด คำตอบที่ได้รับการโหวตสูงสุดคือ องค์กรที่มีความมั่นคง รองลงมาคือองค์กรที่มีฐานเงินเดือนสูง และเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ตามลำดับ ส่วนลักษณะขององค์กรที่บัณฑิตจบใหม่ ยี้ ที่สุด คือ องค์กรที่เอาเปรียบพนักงาน รองลงมาคือองค์กรที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและองค์กรที่ผู้บริหารไม่รับฟังความคิดเห็นของพนักงาน

นางสาวฐนาภรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสิ่งที่บัณฑิตใหม่คาดหวังว่าจะได้รับจากองค์กรสำหรับงานแรกนั้น 3 อันดับแรก คือประสบการณ์, ความก้าวหน้าในอาชีพ และค่าตอบแทนที่ดี ในขณะเดียวกันสิ่งที่บัณฑิตจบใหม่คาดหวังว่าจะสามารถให้คืนกลับไปยังองค์กรแรกของเขาได้ 3 อันดับแรก คือ ความรับผิดชอบในการทำงาน, ความทุ่มเท และความซื่อตรงต่อหน้าที่ จากผลสำรวจนี้ทำให้ได้ทราบถึงแนวโน้มตลาดแรงงานได้อย่างหนึ่งว่า เด็กรุ่นใหม่ให้ความสนใจในการทำงานกับองค์กรที่มีความมั่นคง จึงทำให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานราชการเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่บัณฑิตใหม่ต้องการร่วมงานด้วย

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
,

เฟดเอ็กซ์รุกเข้าสมาร์ทโฟน เปิดตัวแพลตฟอร์มแอนดรอยด์

เฟดเอ็กซ์รุกเข้าสมาร์ทโฟน เปิดตัวแพลตฟอร์มแอนดรอยด์

เฟดเอ็กซ์ เปิดตัว เฟดเอ็กซ์ โมไบล์ แอพพลิเคชั่นเต็มรูปแบบ ให้บริการบนหลายแพลตฟอร์ม เสริมบริการสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการนอกสถานที่ ทั้งตรวจสอบค่าบริการ ติดตามพัสดุ ตรวจสอบสถานะการขนส่งเดินทาง…

เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส บริษัทในเครือเฟดเอ็กซ์ คอร์ป? และผู้ให้บริการขนส่งด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศเปิดตัวชุดอุปกรณ์ ใหม่และขยายชุดแอพพลิเคชั่นเฟดเอ็กซ์ บนโทรศัพท์มือถือที่ทำให้การขนส่ง สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาและง่ายขึ้นกว่าที่ผ่านมาด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่อง ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการขนส่งในระดับสากล เว็บไซต์เฟดเอ็กซ์ โมบายล์ (FedEx Mobile) ได้ขยับขยายครอบคลุมถึง 206 ประเทศและ 25 ภาษา โดยสามารถใช้งานได้ในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 30 ประเทศ นอกจากนั้น ผู้ใช้งานแท็บเล็ต แอปเปิล ไอแพด?และสมาร์ทโฟน ที่ใช้กูเกิล แอนดรอยด์?ยังสามารถใช้งานแอพเฟดเอ็กซ์ โมบายล์ผ่านอุปกรณ์ดังกล่าวได้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปอีกด้วย? การปรับปรุงเพิ่มเติมครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับชุดโซลูชั่นบนโทรศัพท์มือถือครั้งสำคัญ นอกเหนือไปจากที่เคยครอบคลุมแอพเฟดเอ็กซ์ โมบายล์สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนประเภทไอโฟน?ไอพอด ทัช และแบล็คเบอร์รี่ อยู่แล้ว

นายเดวิด แอล คันนิงแฮม จูเนียร์ ประธานบริษัทเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า เนื่องจากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปเป็น 347 ล้านคนภายในปี?2558 เฟดเอ็กซ์จึงตระหนักถึงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วโลกในการ เข้าถึงสินค้าและการบริการของเราที่มีสูงขึ้น ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดหรือใช้อุปกรณ์สื่อสารใดก็ตาม ในขณะนี้ เราจึงเสนอชุดโซลูชั่นบนโทรศัพท์มือถืออย่างเต็มรูปแบบเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น

ลูกค้าของเฟดเอ็กซ์สามารถใช้บริการ ผ่านโซลูชั่นของเฟดเอ็กซ์บนสมาร์ทโฟน ได้แก่ ตรวจสอบอัตราค่าบริการ?? รับอัตราค่าบริการที่ถูกต้องแม่นยำและน่าเชื่อถือ การติดตามสถานะการขนส่ง?? เข้าถึงรายละเอียดล่าสุดของสถานะการขนส่งพัสดุผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณ ทั้งระหว่างการขนส่ง แวะเปลี่ยนเครื่อง และในขณะส่งมอบพัสดุ กำหนดเวลารับพัสดุ?? เพียงคุณกรอกที่อยู่และข้อมูลพัสดุของคุณ เฟดเอ็กซ์ก็จะมารับพัสดุของคุณถึงที่ตามต้องการ และ ค้นหาสถานที่ตั้ง?? ใช้ฟังก์ชั่น ?ค้นหาใกล้บ้าน? เพื่อค้นหาเฟดเอ็กซ์ ดรอป บ็อกซ์ ศูนย์บริการเฟดเอกซ์ เวิลด์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ หรือเฟดเอ็กซ์ ออฟฟิศ ใกล้บ้านคุณ โดยยึดจากตำแหน่งของคุณบนจีพีเอส

ขณะนี้ แอพพลิเคชั่นเฟดเอ็กซ์ โมไบล์สามารถใช้งานได้ผ่านไอแพด ไอโฟน และไอพอด โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากแอพ สตอร์ใน 118 ประเทศและ 11 ภาษา? ผู้ใช้แอนดรอยด์สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเฟดเอ็กซ์ โมบายล์จากแอนดรอยด์ มาร์เก็ตTM?ได้ใน 120 ประเทศโดยใช้งานเป็นภาษาอังกฤษ? สำหรับประเทศและภาษาอื่นๆสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์นั้นจะมีเพิ่มให้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า? นอกจากนั้นแอพเฟดเอ็กซ์ โมบายล์ยังสามารถดาวน์โหลดเพื่อใช้งานผ่าน สมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี่ได้จากแบล็คเบอร์รี่ แอพ เวิลด์?ใน 139 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เว็บไซต์บนโทรศัพท์มือถือจะใช้งานได้เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีนดั้งเดิม ภาษาจีนประยุกต์ ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น และภาษาไทย? ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเฟดเอ็กซ์ โมไบล์ได้จากแอพ สโตร์ แอนดรอยด์ มาร์เก็ต?และแบล็คเบอร์รี่ แอพ เวิลด์

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
,

ทรู-ยูนิเวอร์ซัล ผุด’เอช มิวสิค’เสิร์ฟคอนเทนต์เพลงชั้นนำ

ทรู-ยูนิเวอร์ซัล ผุด'เอช มิวสิค'เสิร์ฟคอนเทนต์เพลงชั้นนำ

ทรู ผนึกกำลัง ยูนิเวอร์ซัล เปิดแอพฯ “เอช มิวสิค” ให้ฟัง โหลด แชร์เพลง และติดตามความเคลื่อนไหวศิลปินในค่ายได้เรียลไทม์ พร้อมตั้งเป้าธุรกิจมือถือเติบโตไม่ต่ำกว่า 9-10% ในปีนี้…

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข ผู้อำนวยการบริหาร ธุรกิจโมบายล์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากบริการนอนวอยซ์ประมาณ 25% ของรายได้จากธุรกิจโมบายล์? โดยมีลูกค้าในระบบโพสเพด (รายเดือน) ประมาณ 2-2.2 ล้านราย และพรีเพด (เติมเงิน) 17 ล้านราย โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตในสายธุรกิจโมบายล์ไว้ที่ 9-10% โดยมีเครือข่ายทรูมูฟ เอช เป็นปัจจัยสนับสนุน หลังเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศไทยเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่

จากลูกค้า 1 ล้านรายในระบบโพสเพดของทรูมูฟ เอช พบว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการฟังเพลง ล่าสุด บริษัทร่วมกับ บริษัท ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค จำกัด เปิดตัว เอช มิวสิค (H Music) ประสบการณ์ทางดนตรีรูปแบบใหม่ ให้ฟังเพลง ดูเอ็มวี โดยสามารถแบ่งปันและเก็บไว้บนเทคโนโลยีคลาวด์ซึ่งเปิดให้จัดเก็บได้ไม่จำกัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงได้พูดคุยกับผู้ที่ชื่นชอบดนตรีหรือศิลปินคนเดียวกัน และลุ้นรับสิทธิพิเศษ อาทิ บัตรคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง เป็นต้น

“บริษัทมีบริการทรู มิวสิค สำหรับการฟังและดาวน์โหลดเพลงอยู่แล้ว แต่ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และเป็นครั้งแรกที่บริษัทร่วมมือกับค่ายเพลงชั้นนำระดับโลก คาดว่าลูกค้าในระบบทรูมูฟ เอชจะเข้ามาใช้งานเอช มิวสิคอย่างแน่นอน เนื่องจากตรงกับไลฟ์สไตล์ชอบฟังเพลง” นายอติรุฒม์ กล่าว

นายยู มิง ลู รองประธาน ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่บริษัทต้องการให้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงเพลงและใกล้ชิดกับศิลปินที่ชื่นชอบ โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 4 รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

ทั้งนี้? ลูกค้าทรูมูฟ เอช สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเอชมิวสิคได้ฟรี ผ่านแอพ สโตร์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการไอโอเอส และกูเกิล เพลย์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือใช้บริการจากเว็บไซต์ทรูไลฟ์ (www.truelife.com/hmusic).

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, ,

กูรู ชี้ โซเชียลมีเดียเขี้ยวเล็บ บทบาทใหม่กับการรายงานข่าว

กูรู ชี้ โซเชียลมีเดียเขี้ยวเล็บ บทบาทใหม่กับการรายงานข่าว

นายก ส.นักข่าวฯ ชี้ นักข่าวต้องเข้าใจการใช้งานโซเชียลมีเดียก่อน ป้องต่อต้าน ด้าน “ก่อเขต” ระบุใช้สื่อโซเชียลมีเดียรายงานสถานการณ์ต้องระวังสิ่งที่จะตามมา-มีความรับผิดชอบเสมอ ในเวทีโซเชียลมีเดีย ทางเลือกใหม่? ของการรายงานข่าวในภาวะวิกฤติ

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ภาควิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอทีพีซี) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาในโครงการ JR วิชาการครั้งที่ 4 ในหัวข้อ Social Media ทางเลือกใหม่ของการรายงานข่าวในภาวะวิกฤติ 09.00-16.00 น. ณ อาคารคอนเวนชั่นฮอลล์ อาคารศูนย์การเรียนรู้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

นายฐิติชัย อัฏฏะวัชระ รองประธานชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ทวิตเตอร์ @popclub_ceo กล่าวว่า วันนี้ ถือว่าโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้คนบริโภคข่าวสารได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน โซเชียลมีเดียไม่ใช่พระเอกหลัก ในการบริโภคข่าวสาร แต่จะเป็นตัวจุดประกายให้คนบริโภคช่าวสารให้มากขึ้น

ทั้งนี้ การเชื่อมโยง หรือปรับให้ข่าวไปถึงผู้รับสาร ทั้งที่แต่ละคนมีรูปแบบแตกต่างกัน เป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งการรายงานข่าว ต้องมีการตรวจสอบสื่อออกไปแล้วมีผลกระทบกับมวลชนหรือไม่ โดยมีกระบวนการรายงานข่าวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กจะเป็นตัวเชื่อมโยง

นางสาวอศินา พรวศิน ประธานชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ ทวิตเตอร์ (@lekasina) กล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังคือการทวีตข้อความออกไปทุกอย่าง แต่ส่วนตัวจะไม่ทวีตอารมณ์ จะทวีตเรื่องไอทีเป็นหลัก เพราะเป็นนักข่าวสายไอที ส่วนการแบ่งเวลาใช้งานโซเชียลมีเดีย การเลือกแชร์ หรือไม่แชร์ บนทวิตเตอร์ ต้องแยกก่อนว่าเป็นนักข่าว หรือส่วนตัว นอกจากนั้น ยังต้องดูว่าข้อความจะมีผลกระทบกับคนอื่นหรือไม่

?การทวีตไม่ได้เป็นวิบากกรรม ไม่ได้แบ่งเวลาทวีต แต่ด้วยหน้าที่นักข่าวรู้ว่ามีคนรอ ถ้าคุณเลือกที่จะแชร์ ทวีตไปแล้ว ต้องมีความลึกและแตกต่างจากเรื่องที่ทวีตออกไป แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วไป ต้องดูว่าแชร์ไปแล้วจะมีผลกระทบต่อคนอื่นหรือป่าว แต่ก่อนเราเหมือนเด็กน้อย ให้ประสบการณ์สอนเรา ลองผิดลองถูกอย่างน้อยมันเกิดผลลบอยู่แล้ว แต่ต้องให้มันเกิดผลลบน้อยที่สุด? นาวสาวอศินา กล่าว

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ทวิตเตอร์ (@Chavarong) หัวหน้าศูนย์ข้อมูล และบรรณาธิการเว็บไซต์ กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กล่าวว่า สิ่งที่เห็นความแตกต่างในแง่มุมการใช้ข่าว ส่วนตัวคิดว่าอะไรที่เป็นข่าวแล้วเกี่ยวข้องกับเรา บางครั้งไปงานแล้วไม่มีใครสนใจ ก็จะพยายามสรุปประเด็นแล้วทวีตออกไป เพราะอยู่ในวงการสื่อด้วย ส่วนเรื่องการเมือง หากทวีตออกไปมีผลกระทบมาก แต่ส่วนตัวในการใช้ คือ ไม่ได้ตอบโต้

ส่วนหัวข้อคนข่าวต้องปรับตัวอย่างไร ในการปรับตัวใช้โซเชียลมีเดีย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวเข้าใจว่าองค์กรข่าวอยู่ช่วงลองผิดลองถูก แม้แต่ในเครือเนชั่น แต่ทั้งนี้คิดว่าคนในเครือเนชั่นก็ต้องปรับ แต่จะทำอย่างไรให้เป็นประโยชน์?

ขณะที่ไทยรัฐออนไลน์ ก็ยังมีนโยบายที่ใช้โซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ ยังคิดว่าองค์กรสื่อทั้งหลาย คงมีการปรับรูปแบบให้เข้ากับสื่อ รวมทั้ง ไทยพีบีเอส ด้วย ซึ่งผู้บริหารต้องรีบตัดสินใจว่า จะมีทิศทางไปทางไหน เพราะไม่เช่นนั้น คนที่อยู่ในองค์กรจะสับสน อย่างไรก็ตาม นักข่าวต้องเข้าใจการใช้งานโซเชียลมีเดียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดการต่อต้าน แต่ถ้าเข้าใจแล้วจะรู้ว่าไม่ใช่การนำข่าวสารของเราออกไปเท่านั้น แต่จะเป็นแหล่งของข่าวที่ออกไป

นอกจากนี้ การรายงานข่าวผ่านทวิตเตอร์ ต้องมีการใส่เวลากำกับเสมอ เพราะเมื่อมีผู้อื่นมารีทวีตเวลาจะเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะอุบัติเหตุ แต่หากใส่เวลากำกับคนอ่านก็จะรู้??

นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ทวิตเตอร์ (@doveartist) กล่าวว่า ส่วนตัวใช้ทวิตเตอร์ทำข่าวอย่างเดียว ทั้งนี้ มุมมองส่วนตัวคิดว่า ในโลกของสังคมออนไลน์ ใครก็ตามที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในการสื่อสาร หรือรายงานต้องมีวิธีการหรือหลักคิดวิธีหนึ่ง เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ติดตามคุณอยู่ แล้วคุณเล่าเหตุการณ์นั้นออกไป คุณคือ ผู้สื่อสารในโซเชียลทันที นอกจากนี้ การใช้โซเชียลมีเดียรายงานสถานการณ์ ต้องระวังสิ่งที่จะตามมา และต้องมีความรับผิดชอบเสมอ

นายณรงค์ศักดิ์ ศรีทานันท์ อาจารย์ภาควิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทวิตเตอร์ (@narongsaksritan) กล่าวว่า ขณะนี้ นักศึกษาที่เรียนวารสารศาสตร์ กำลังวิ่งตามโซเชียลมีเดีย แต่วิ่งตามเพื่อความเป็นส่วนตัวมากกกว่า ซึ่งการกระทำแบบนี้ ถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง แต่ก็พยายามบอกให้โพสต์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมองว่าโซเชียลมีเดียที่มีอยู่ขณะนี้ เนื้อหาการเรียนการสอนอยู่กับที่ไม่ได้แล้ว คงต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้ไปสู้กับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น?

?คิดว่าตำราเรียนควรปรับเปลี่ยน รูปแบบเดิมคงใช้ไม่ได้ 100% คงต้องมาประยุกต์ ซึ่งยอมรับว่า ม.กรุงเทพ ที่ปรับการเรียนการสอนใหม่ ได้มาจากเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นการช่วยให้เข้าถึงนักศึกษามากขึ้น? อาจารย์ภาควิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทวิตเตอร์ กล่าว.

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, , ,