3BBเอาใจชาวเน็ต เปิดให้ซื้อชั่วโมงไวไฟ ผ่านตู้ATM ธ.กรุงเทพ
Posted by admin on
August 31, 2012
ลูกค้า 3BB WiFi? ซื้อแพคเกจเหมาจ่ายรายเดือน 99 บาท ผ่านช่องทางตู้เอทีเอ็ม และ บริการ บัวหลวง iBanking ของธนาคารกรุงเทพ พร้อมทั้งยังเพิ่มชุดบริการลูกค้าด้วย การเปิดช็อปแห่งใหม่ล่าสุด 3BB Shop@ CDS? ที่ชั้น 2 เซ็นทรัลลาดพร้าว…
บริษัททริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)? ประกาศถึงการเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่ใช้บริการไวไฟของ 3BB (3BB WiFi ) จึงได้เพิ่มช่องทางการจำหน่าย? 3BB WiFi เพิ่มขึ้นอีก 1 ช่องทาง คือ ผ่านช่องทางตู้เอทีเอ็ม และ บริการ บัวหลวง iBanking ของธนาคารกรุงเทพ? โดยลูกค้า 3BB WiFi สามารถเลือกชำระค่าบริการผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพของตนเองได้อย่างสะดวกสบายและง่าย กับแพคเกจรายเดือน 99 บาท (ไม่รวม Vat.) ใช้งานได้ 30 วันนับจากวันที่ซื้อ โดย 3BB WiFi มีช่องทางจำหน่าย แพคเกจมากมาย เช่น แพคเกจ 99 บาท อายุการใช้งาน 30 วันนับจากวันที่สมัคร เพียงพิมพ์? A? ส่ง SMS มาที่เบอร์ 4825358 (AIS, DTAC), ตู้บุญเติม แพคเกจรายวัน 39 บาท รายเดือน 106 บาท, ช่องทาง e-pay แพคเกจ 200 บาท 5,000 นาที กับรายเดือน 106 บาท และช่องทางการซื้อบัตรพรีเพด? 3BB WiFi มีจำหน่ายที่ ซีเอ็ดบุ๊ค, ร้าน 108 SHOP, Family Mart, S&P, Dunkin Donuts, Au Bon Pain, Sport City, ร้านหอแว่น, ฯลฯ และร้านค้าที่ร่วมเป็นพันธมิตรอีกหลายแห่ง
นอกจากนี้ ทริปเปิลที บรอดแบนด์ยังได้เปิดช็อปแห่งใหม่ล่าสุด 3BB Shop@ CDS? เซ็นทรัลลาดพร้าว บริเวณชั้น 2 หลังจากที่เปิดไปแล้วถึง 17 แห่งในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ? สามารถให้บริการแบบครบวงจร อาทิ ขอติดตั้งบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ชำระค่าบริการรายเดือนของลูกค้า 3BB และขอใช้บริการเสริมต่างๆรวมทั้งการอัพเดตโปรโมชั่นใหม่ของห้างผ่านจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ นอกจากนี้เพื่อเป็นการตอบสนองไลพ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการติดต่อสื่อสารตลอดเวลา 3BB ได้ให้บริการไวไฟความเร็วสูง (Super Wifi) บริเวณช็อปอีกด้วย? และยังมีจอสาธิตบริการ 3BB-IPTVHD เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสิทธิภาพของความบันเทิงรูปแบบใหม่ผ่านจอโทรทัศน์ที่คมชัดสมจริงในระดับ Hi-Definition อีกด้วย
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดช็อปแห่งใหม่นี้? 3BB ได้มอบของสมนาคุณมากมายแก่ลูกค้า? เช่น ลูกค้าติดตั้งใหม่ทุกแพ็กเก็จ?รับของแถม Panda Cloud Antivirus ?ฟรี 1 ปี เสื้อเพิ่มคุณค่า?1 ตัว บัตรชมภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ และ EGV? ?จำนวน 1 ที่นั่ง 3BB WiFi? จำนวน 1,500 นาที ลูกค้าชำระค่าบริการล่วงหน้า 6-12 เดือน รับฟรี บัตรชมภาพยนตร์? 1 ที่นั่ง? ?และบัตรโยนโบว์ลิ่งฟรี? หรือ บัตรร้องเพลงคาราโอเกะฟรี? ?1 ??ใบ ส่วนลูกค้าชำระค่าบริการตามปกติ รับฟรี? บัตรโยนโบว์ลิ่งหรือ บัตรคาราโอเกะ? 1 ใบ แวะใช้บริการ 3BB แบบครบวงจรที่ 3BB Shop @ CDS เซ็นทรัลลาดพร้าวและรับของสมนาคุณมากมายตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคมนี้หรือจนกว่าของจะหมด.
Tags: 3BBเอาใจชาวเน็ต, ธ.กรุงเทพ, ผ่านตู้ATM, เปิดให้ซื้อชั่วโมงไวไฟพระวัดป่าขู่รวมชื่อถอดถอน ‘กสทช.’ จี้ทบทวนร่างจัดสรรคลื่น
Posted by admin on
August 31, 2012
ภาพจากแฟ้มข่าว
เจ้าอาวาสวัดป่า จ.กำแพงเพชร ออกโรงจี้ “กสทช.” ทบทวนร่างประกาศจัดสรรความถี่ ชี้กระทบรายการวิทยุธรรมะ หลังเคยยื่นหนังสือแล้วแต่ไม่เป็นผล…
พระครูอรรถกิจนันทคุณ กรรมการมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคณะพระลูกศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว) ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หลายครั้ง รวมทั้งเข้าชี้แจงกับกรรมการและเลขานุการ กสทช.ให้ทราบเหตุผลของการร้องขอให้ทบทวนร่างประกาศคณะกรรมการ กสทช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระเสียงที่ไม่เป็นธรรมในการจัดสรรคลื่นความถี่ซึ่งขัดแย้งต่อ บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ว่าส่งผลเสียหายต่อสถานีวิทยุเพื่อสังคมที่ทุ่มเททำประโยชน์สาธารณะโดยไม่แสวงกำไรในทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีวิทยุเพื่อสาธารณะด้านพระพุทธศาสนาอันเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงทางศาสนา ซึ่งเป็นสถาบันหลักหนึ่งของประเทศ เพราะทำให้ขอบเขตการกระจายเสียงลดลง เป็นผลให้พระป่าสายปฏิบัติรับฟังหลักธรรมคำสอนจากสถานีวิทยุเหล่านี้ไม่ได้หรือรับฟังไม่ชัดเจน และประชาชนจำนวนมหาศาลที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนชรา คนเจ็บไข้ ต้องสูญเสียโอกาสรับฟังธรรมะซึ่งอาจเป็นโอกาสสุดท้ายของชีวิตแล้วก็เป็นได้
พระครูอรรถกิจนันทคุณ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาแม้จะพยายามร้องขอ ทักท้วง ตักเตือน คัดค้าน ก็ไม่เคยใส่ใจ ยังดื้อรั้นฝ่าฝืนต่อกระแสของประชาชนอย่างไม่มีหิริโอตตัปปะ ทั้งที่การกระทำเช่นนี้จัดเป็นการสร้างกรรมหนักในทางธรรม อย่างไรก็ตามทางเราจะให้เวลาและโอกาส กสทช. ได้ทบทวนอีกครั้ง และหาก กสทช. ยังฝ่าฝืนต่อกระแสประชาชนถึงขั้นออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ ถ้าเช่นนั้นก็ชัดเจนว่า กสทช. มีเจตนาอย่างแรงกล้าที่จะบังคับใช้ประกาศฉบับนี้ และสิ่งนี้จะเป็นต้นเหตุแห่งกรรมอันหนักในพระพุทธศาสนาและยังกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของประชาชน ซึ่งย่อมถึงเวลาอันควรที่จะมีการรวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเข้าชื่อ ร้องขอต่อประธานวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 เพื่อถอดถอนกสทช.ทั้งคณะต่อไป.
Tags: กสทช., จี้ทบทวนร่างจัดสรรคลื่น, พระวัดป่าขู่รวมชื่อถอดถอนไอซีทีคาดซื้อโปรแกรมจัดการแท็บเล็ตสัปดาห์หน้า อัด’บุญยอด’สร้างกระแส
Posted by admin on
August 31, 2012
ที่ปรึกษา รมว.ไอซีที คาดเซ็นสัญญาซื้อโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพา ติดตั้งลงแท็บเล็ต ป.1 สัปดาห์หน้า ก่อนติดตั้งลงเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ได้ ธ.ค.55 หลังเลื่อนเพราะติดปัญหาเอกสาร…
จากกรณีนายบุญยอด ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปปัตย์ กล่าวหา น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไม่มีความชัดเจนในการทุ่มงบประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างให้บริษัท เอส เอ พี (SAP) ผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ จัดทำโปรแกรมป้องกันการเข้าเวปไซต์ไม่เหมาะสม หรือเว็บไซต์ลามกอนาจารบนเครื่องแท็บเล็ต ป.1 นั้น
นางโสรัฐฎา ภุมวิภาชน์ ที่ปรึกษาด้านโปรแกรมประยุกต์โครงการ OTPC ของรมว.ไอซีที กล่าวว่า การว่าจ้างบริษัท เอส เอพี (SAP) นั้นเป็นไปตามขั้นตอนของการดำเนินงานทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการตรวจสอบแอพพลิเคชั่นควบคุมสิทธิ์ในเครื่องแท็บเล็ต ป.1 จากบริษัทต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ที่ห้องทดลองของบริษัท ROCKSHIP ซึ่งเป็นผู้ผลิตซีพียู ให้กับบริษัทสโคป พบว่าหลายบริษัทที่นำซอฟท์แวร์มาเสนองานต้องสามารถทำงานร่วมกันได้กับระบบ Learning System (LSystem) ได้ ซึ่ง LSystem เป็นระบบที่เก็บข้อมูลการใช้งานเนื้อหาต่างๆ ของทาง สพฐ.ภายในตัวเครื่องแท็บเล็ต ระบบดังกล่าวสามารถประเมินผลและวิเคราะห์ข้อมูล และพฤติกรรมการใช้งานของนักเรียน ป.1 ทั้งประเทศ (เก็บ Log File การใช้งานทั้งหมด) รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการขยายโครงข่ายที่ทางกระทรวงไอซีที และกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายเพื่อรองรับการใช้งานเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญและหาคำตอบให้กับผู้บริหารรัฐ มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาชนทั่วไป ประกอบการวิจัยในเชิงปริมาณในการนำข้อมูลต่างๆ ทั้งนี้ พร้อมเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างกว้างขวาง เพื่อตอบโจทย์กับประชาชนทั่วประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม เกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทยได้
นางโสรัฐฎา กล่าวต่อว่า โครงการจัดซื้อระบบควบคุมสิทธิ์ในเครื่องแท็บเล็ต ทาง น.อ.สุรพล ที่ปรึกษา รมว.ไอซีที ชี้แจงว่าได้ประสานงานโดยมีการร่างเป็นโครงการตั้งแต่เดือน ก.พ.55 ที่ผ่านมา? และบริษัท SAP ได้นำระบบดังกล่าวเข้ามานำเสนองานอย่างเป็นขั้นตอนถูกต้อง พร้อมกับบริษัทต่างๆ และระบบมีความสอดคล้องตอบสนองนโยบายของรัฐได้ โดยระบบดังกล่าวมีชื่อว่า Afaria ซึ่งสามารถแสดงรายชื่อโปรแกรมที่มีการติดตั้งที่มีอยู่ใน Tablet PC เพื่อป้องกันการถอดการติดตั้งโปรแกรม ของโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้ สามารถแสดงโปรแกรมที่ต้องการติดตั้ง โดยมีการจัดสร้างเป็น Enterprise Application Store และสามารถเลือกติดตั้งลงในแท็บเล็ตได้ทันที การกำหนดโปรแกรมที่อนุญาต ลงในที่เก็บโปรแกรมเฉพาะของกระทรวง (Enterprise Application Store) ให้มีผลต่อการติดตั้งในแท็บเล็ต จัดทำการบริหารอุปกรณ์ในลักษณะแบ่งเป็นกลุ่มได้ ซึ่งจะช่วยให้ทางกระทรวงกำหนดการจัดการไปสู่แต่ละโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้แต่ละโรงเรียนสามารถจัดการได้เองผ่านนโยบายกลุ่ม(Policy) การตรวจสอบพิกัดและสถานที่ ที่มีการเปิดใช้แท็บเล็ต เมื่อมีการสูญหาย และสามารถตรวจสอบพิกัดสุดท้ายที่ส่งข้อมูลเข้ามาก่อนทำการปิดเครื่องได้ (off) สามารถล็อกเครื่องแท็บเล็ตจากส่วนกลาง และกำหนดให้มีพาสเวิร์ด (Password) ก่อนเข้าเครื่องทุกครั้ง สามารถกำหนดรูปแบบพาสเวิร์ดที่ซับซ้อนได้ ผู้รับผิดชอบต่างๆ สามารถเข้าดูรายละเอียดคุณสมบัติ (Device Diagnostic) ในแท็บเล็ต แต่ละเครื่องในโครงการได้ สามารถตรวจสอบและติดตามแท็บเล็ตทั้งหมดในโครงการได้ โดยมีการบริหารจัดการที่ส่วนกลางเพียงที่เดียวสามารถบันทึกรายงานและสถิติการใช้งานของแต่ละเครื่อง เพื่อวิจัยการใช้งานต่อไปได้สามารถอัพเดทเนื้อหา หรือสื่อการเรียนการสอนที่เป็น APK ไฟล์จากระบบ ไปยังแท็บเล็ตในโครงการได้ทันที
“ระบบ Afaria ไม่ใช่ แค่การจัดการจัดทำโปรแกรมป้องกันการเข้าเวปไซต์ไม่เหมาะสมเท่านั้นตามที่ ส.ส.บุญยอด ได้กล่าวหา แต่อย่างใด จึงขอความร่วมมือเพื่อทำความเข้าใจ และศึกษาข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้อง ก่อนที่จะเผยแพร่ด้วยคำพูดผ่านสื่อมวลชน ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างและภาพพจน์โดยรวมทั้งหมด ของ ส.ส.บุญยอดเอง เมื่อข้อมูลที่เปิดเผยไม่เป็นความจริงเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา” นางโสรัฐฎา กล่าว
ด้าน น.อ.สุรพล กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีจะสามารถเซ็นสัญญาซื้อโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาสำหรับติดตั้งลงเครื่องแท็บเล็ต ป.1 ตามโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) จำนวนกว่า 800,000 เครื่อง ได้ในสัปดาห์หน้า ด้วยมูลค่าสัญญา 120 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหลังเซ็นสัญญา 90 วันจะต้องส่งมอบโปรแกรม ดังนั้นจะสามารถติดตั้งโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาลงแท็บเล็ต ป.1 ได้ในเดือน ธ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เอสเอพี ซีสเต็มส์ แอพพลิเคชั่นส์ แอนด์ โปรดักส์อิน ดาต้า โปรเซสซิ่ง (ไทยแลนด์) เจ้าของโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาของซอฟต์แวร์อะฟาเรีย (Afaria) ซึ่งใช้เทคโนโลยีไซเบส (Sybase) ได้นำตัวอย่างโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพามาจัดแสดง โดยเทคโนโลยี เอสพีเอ ไซเบส โมบิลิตี้ (SAP Sybase Mobility) ทำตลาดมากว่า 14 ปีแล้ว ทั้งในสหรัฐฯ ไต้หวัน และยุโรป โดยในประเทศไทยมีหน่วยงานภาครัฐที่ใช้งานอยู่ มาร่วมในงานแถลงผลการดำเนินงานตลอด 1 ปีของ รมว.ไอซีที ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ อาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถ.แจ้งวัฒนะ
ทั้งนี้ จากการสอบถามวิศวกรที่มาแนะนำโปรแกรมในบูธ กล่าวว่า ตัวโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาที่จะใช้ในแท็บเล็ต ป.1 กระทรวงไอซีทีให้จัดทำทั้งหมด 9 โซลูชั่น อาทิ ใช้เพื่อควบคุมการติดตั้งโปรแกรมในแท็บเล็ต ป.1 รายงานการใช้แท็บเล็ตว่าเข้าใช้งานเว็บไซต์และโปรแกรมอะไรบ้าง ป้องกันการเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม โดยเบื้องต้นฐานข้อมูลของเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมนำมาจากกระทรวงไอซีที และกำหนดสิทธิ์ของผู้ใช้งาน ใช้พื้นที่หน่วยความจำทั้งหมด 2.33 เมกะไบต์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้า กระทรวงไอซีทีระบุว่าจะเซ็นสัญญาซื้อโปรแกรมบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาวันที่ 31 ส.ค.นี้ แต่ได้เลื่อนวันเซ็นสัญญาซื้อโปรแกรมไปสัปดาห์หน้า เนื่องจากเอกสารยังไม่พร้อม.
Tags: อัดบุญยอดสร้างกระแส, ไอซีทีคาดซื้อโปรแกรมจัดการแท็บเล็ตสัปดาห์หน้า‘ดีแทค’ ยอมถึง14ก.ย. ให้ลูกค้ารับสิทธิ์ชดเชยเหตุเครือข่ายล่ม
Posted by admin on
August 31, 2012
ดีแทค ประกาศขยายเวลา ลูกค้าติดต่อรับสิทธิ์โทรฟรี-เน็ตฟรีถึงวันที่ 14 ก.ย. ย้ำโทรได้ 24 ชั่วโมง หลังเกิดปัญหาด้านอุปกรณ์จนเป็นเหตุให้บริการขัดข้องเมื่อ 28 ส.ค. ในหลายพื้นที่…
ภายหลังเกิดเหตุผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายดีแทค พบปัญหาการใช้งานหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมเวลากว่า 65 นาที ซึ่งภายหลังดีแทคได้ชี้แจงว่า เกิดปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของอุปกรณ์ MPLS Signaling Router หนึ่งเครื่อง ที่ใช้งานอยู่ที่ศูนย์ Switching Center รังสิต
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (30 ส.ค.) ได้มีคำชี้แจงจาก นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค โดยมีข้อความระบุว่า “ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เราได้ติดตามสถานการณ์การให้บริการแก่ลูกค้าของเราที่ได้รับผลกระทบจากเหตุขัดข้องด้านบริการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทฯ จะสามารถให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าทุกท่าน
ในวันนี้เป็นที่ปรากฏว่ายังคงมีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่โทรฯ ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่องยังหมายเลขบริการลูกค้า เพื่อขอรับบริการโทรฯ ฟรี ซึ่งการที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก โทรฯ เข้ามาดังกล่าว ทำให้ลูกค้าหลายท่านไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร
ดังนั้น บริษัทจึงตัดสินใจที่จะยืดระยะเวลา เปิดให้มีการโทรฯ เข้าหมายเลขบริการลูกค้าดังกล่าว ออกไปอีกเป็นเวลาสองสัปดาห์ นับตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555 เพื่อให้แน่ใจว่า เราจะสามารถให้บริการแก่ลูกค้าของเราได้อย่างทั่วถึง
ผมอยากจะขอให้ลูกค้าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุขัดข้องเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมาทุกท่าน โปรดโทรฯ เข้าหมายเลขบริการลูกค้าของเราตามเวลาที่ท่านสะดวก สายของเราจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงวันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555 ท่านไม่ต้องรีบเร่งแต่อย่างใด ผมขอรับรองว่า ลูกค้าทุกท่านที่โทรฯ เข้ามา ระหว่างวันนี้จนถึงอีกสองสัปดาห์ จะได้รับการบริการอย่างทั่วถึงทุกท่าน
ทั้งนี้ ผมขอย้ำว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัทฯ คือการมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เรายึดมั่นในคำสัญญาของเรา พร้อมที่จะรับฟังลูกค้า และพร้อมเสมอที่จะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
ในนามของพนักงานดีแทคทุกคน ผมต้องกราบขออภัยสำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และเราสัญญาที่จะพัฒนาบริการของเราให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป”
สำหรับการชดเชยจากดีแทคที่มอบให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถทำได้โดยลูกค้ารายเดือน กด *1737 เพื่อรับสิทธิ์โทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที นาน 30 วัน หรือใช้อินเทอร์เน็ตไม่จำกัด 7 วัน และลูกค้าเติมเงิน กด *10250 รับสิทธิ์โทรฟรี 80 นาที ภายในเครือข่าย.
Tags: ดีแทค, ยอมถึง14ก.ย., ให้ลูกค้ารับสิทธิ์ชดเชยเหตุเครือข่ายล่มคณะอนุคุ้มครองผู้บริโภค บี้’ดีแทค’ ชดเชยลูกค้า2เท่า
Posted by admin on
August 31, 2012
คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค บี้มาตรการเยียวยาลูกค้า ดีแทค จี้จ่าย 2 เท่า ให้ลูกค้าทั้งเติมเงินและรายเดือนโดยอัตโนมัติ เล็งชง กทค.เร็วๆ นี้…
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม ในการกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า จากกรณีมาตรการเยียวยาลูกค้า ของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ในครั้งนี้ไม่สามารถรับมาตรการนี้ได้ เนื่องเหตุการณ์นี้เป็นครั้งที่ 5 ดังนั้น ดีแทค ควรดำเนินการเยียวยาความเสียหายให้ลูกค้าจำนวน 23.5 ล้านเลขหมายโดยอัตโนมัติทันที โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องโทรเพื่อขอรับสิทธิ์ และไม่ควรผลักภาระให้กับผู้บริโภค รวมทั้งชดเชยค่าเสียหายเป็น 2 เท่าของระยะเวลาที่เสียหายเป็นจำนวน 130 นาที ภายในระยะเวลา 30 วัน ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน และไม่จำกัดการโทรเฉพาะภายในเครือข่าย
ประธานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวต่อว่า มาตรการของดีแทค สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน โทรฟรี 80 นาที ในเบอร์ดีแทค 5 ทุ่ม ถึง 5 โมงเย็น ใช้นาน 7 วัน ส่วนลูกค้ารายเดือนโทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที ใช้ได้นาน 30 วัน หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด? 7 วัน ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานที่ต่างจากการเยียวยาแบบเดิม และไม่รวดเร็วเหมือนครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการ จะดำเนินการลงมติที่ได้หารือกันเสนอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เพื่อพิจารณา พร้อมสนับสนุนสำนักงาน กสทช.ที่พิจารณาค่าปรับของดีแทค โดยคำนวณความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และดำเนินการอย่างเคร่งครัดในการคิดค่าปรับ พร้อมเตรียมเสนอให้ทบทวนไม่คิดค่าใช้จ่ายในการโอนย้ายเลขหมาย เพื่อให้ผู้บริโภคมีสิทธิ์ใช้บริการ
Tags: คณะอนุคุ้มครองผู้บริโภค, ชดเชยลูกค้า2เท่า, บี้ดีแทคICT ตีปี๊บ ‘ขยายบรอดแบนด์-แท็บเล็ต’ ผลงานเด่น 1 ปี
Posted by admin on
August 31, 2012
รมว.ไอซีที เผยผลงานรอบ 1 ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชูโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วถึงประชาชน และแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาผลงานเด่น ปัดให้คะแนนตัวเอง รับโครงการ 3จีทีโอทีอืดสุดแต่ไม่นิ่งนอนใจ…?
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี รัฐบาลน.สงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินการนำนโยบายสู่การปฏิบัติผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ ได้แก่ การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ผ่านโครงการถวายพระพรออนไลน์ รวมทั้งการสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ในโลกอินเทอร์เน็ต โดยจัดตั้ง Cyber Security Operation Center หรือ ศูนย์ CSOC การจัดตั้งเครือข่ายผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเทิดทูนและพิทักษ์สถาบันพระมหา กษัตริย์ เพื่อให้เครือข่ายภาคประชาชนมีส่วนร่วมโดยใช้หลักการ ?น้ำดีไล่น้ำเสีย การประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศเพื่อระงับ การเผยแพร่ภาพและเนื้อหาที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และโครงการลูกเสือบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Cyber Scout) โดยการสร้างอาสาสมัคร Cyber Scout เพื่อพ่อหลวง จำนวน 102,082 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าระวังสิ่งที่ไม่เหมาะสมและภัยในอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ ยังมีโครงการจัดทำศูนย์บริการประชาชนไอซีที (One Stop Service) โครงการพัฒนาโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงให้ครอบคลุม ทั่วถึง เพียงพอ มีคุณภาพ ด้วยราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม โครงการฟรีไวไฟ โดยวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะซึ่งในปี 2555 ติดตั้งให้บริการจำนวน 30,000 จุดในปี 2555 และในอนาคตจะขยายบริการทั่วประเทศ 250,000 จุด พร้อมทั้ง พัฒนาเครือข่ายสื่อสารข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ (GIN) การวางระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ การจัดทำสมาร์ทการ์ดแอพลิเคชั่น การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านไอซีที โดยจัดทำกรอบมาตรฐานวิชาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านไอซีที การจัดตั้งคณะกรรมการผู้บริหารไอซีทีระดับสูงภาครัฐ การยกระดับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ การวางแนวทางดำเนินการภายหลังการสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน และปรับปรุงโครงสร้างของรัฐวิสาหกิจในกำกับ การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน
และกระทรวงฯ ยังได้ดำเนินนโยบายสมาร์ทไทยแลนด์ ใน 3 ด้าน คือ 1. สมาร์ทเน็ตเวิร์ก ดำเนินการศึกษาเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จัดทำแผนปฏิบัติการ IPv6 เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านการใช้งานจาก IPv4 ไปสู่ IPv6 และการทดสอบเทคโนโลยี 4G Thailand The First 100 Mbps 2. Smart Government ได้ดำเนินการขยายการเชื่อมโยงเครือข่ายสื่อสารข้อมูลหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network : GIN) การจัดทำโครงการ Government Cloud Service และโครงการพัฒนาระบบข้อมูลสำหรับเด็กและสตรีในประเทศไทย (MICS : Multiple Indicator Cluster Survey) 3. Smart Business ดำเนินการป้องกันภัยคุกคามด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภายใต้ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) การจัดทำ e-CERTIFICATE เพื่อการรับรอง Print out การส่งเสริมการดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และผลักดันการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการปรับปรุงกฎหมายที่ เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรองรับการทำการค้าระหว่างประเทศ
ด้านการดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายนั้น ได้ดำเนินการในเรื่อง การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนให้เกิดความยั่งยืน การพัฒนาและส่งเสริมผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส การรักษาตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมของประเทศไทยการพัฒนาบุคลากรซอฟต์แวร์ร่วมกับ มหาวิทยาลัย 26 แห่ง การส่งเสริมการนำโปรแกรมโอเพนซอร์สไปใช้ในการพัฒนาโปรแกรมต่อยอดของผู้ ประกอบการซอฟต์แวร์และผู้ใช้ซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรม การส่งเสริมให้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อผู้พิการ โครงการส่งเสริมและพัฒนาตลาดสำหรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนต์
นอกจากนั้น ยังดำเนินการตามบัญชานายกรัฐมนตรี และมติคณะรัฐมนตรี โดยร่วมดำเนินการกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ติดตามการป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จัดตั้ง Emergency Call Center ใช้เลขหมายโทรศัพท์ 192 ดำเนินการแจ้งเตือนภัยผ่านระบบส่งข้อความสั้น พัฒนาระบบการพยากรณ์อากาศและเตือนภัยธรรมชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการพยากรณ์อากาศและการเตือนลักษณะอากาศร้าย
สำหรับโครงการอื่นๆ ที่กระทรวงฯ ริเริ่มขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายนั้น ได้ดำเนินการ 2 โครงการ คือ โครงการสมาร์ทโพรวินซ์ ในจังหวัดนครนายก ซึ่ง กสท? ได้ร่วมดำเนินการขยายโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วขนาด 48 Core ระยะทาง 60 กิโลเมตร เพื่อให้ครอบคลุมทุกตำบลในพื้นที่จังหวัดนครนายก ขณะที่ สรอ. ได้ร่วมสนับสนุนการนำร่องการบริหารงานราชการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้เข้าถึงประชาชนในระดับหมู่บ้าน และ ซิป้า ได้ดำเนินการจัดทำซอฟต์แวร์สนับสนุน เพื่อให้สามารถใช้งานระบบจังหวัดอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอีกหนึ่งโครงการ คือ การจัดทำหลักสูตร CIO โดยพัฒนาหลักสูตรการวางแผนและการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและเตรียมความพร้อม ของผู้เรียนสู่ตำแหน่ง CIO ขององค์กร ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า จากนี้โครงการที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ การติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบนด์ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 80% ในปี 2558 ขณะที่ โครงสร้างพื้นฐานขณะนี้ที่ครอบคลุมทั่วประเทศเพียง 87% แต่มีประชาชนที่เข้าถึงได้เพียง 37% ซึ่งจะต้องคุณภาพดี ราคาถูก ส่วนนโยบายเร่งด่วน คือ การจัดหาแท็บเล็ตให้แก่นักเรียน ชั้นป. 1ทั่วประเทศ และนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะเดียวกัน ได้ส่งมอบแท็บแล็ตลอตแรกให้กระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ.แล้ว ส่วนกรณีทุ่มงบประมาณจำนวน 120 ล้านบาท เพื่อบล็อกเว็บไซต์ลามกอนาจารนั้นเป็นการวางระบบส่วนกลางให้สามารถดูแลควบ คุมแท็บเล็ตที่มอบให้เด็ก รวมถึงการบรรจุเนื้อหาต่าง ๆ ลงในแท็บเล็ตที่สามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลจากส่วนกลางได้อีกด้วย
ต่อข้อถามถึงการให้คะแนนตนเอง รมว.ไอซีที กล่าวว่า ไม่กล้าให้คะแนน หรือประเมินตนเอง แต่รู้สึกพอใจกับการทำงานร่วมกับข้าราชการของกระทรวงไอซีที แม้ว่าจะเป็นกระทรวงที่เล็ก และงบประมาณน้อย แต่สามารถผลักดันให้เกิดโครงการต่างๆ ตามนโยบายที่เคยให้ไว้กับประชาชน อีกทั้ง ยอมรับว่า ไม่พึงพอใจในส่วนการบริหาร การจัดการของบางหน่วยงาน ที่มีความล่าช้า ยกตัวอย่างเช่น โครงการ 3จี ของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งส่วนตัวไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมลงไปวางแผนงานร่วมกับข้าราชการผู้เกี่ยวข้อง และตั้งยุทธศาสตร์ เพื่อเร่งให้การทำงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้นแล้ว
?
Tags: 1, ict, ขยายบรอดแบนด์-แท็บเล็ต, ตีปี๊บ, ปี, ผลงานเด่นtags: 1, ict, ขยายบรอดแบนด์-แท็บเล็ต, ตีปี๊บ, ปี, ผลงานเด่น
No Comments
ออราเคิลส่ง “Elastic Cloud 2.0″ หนุนเวอร์ชวลไลเซชั่นองค์กร
Posted by admin on
August 31, 2012
ออราเคิลเปิดตัว ?Elastic Cloud 2.0? ต่อยอดความสำเร็จ หลังเวอร์ชั่นแรกสามารถเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทได้ถึง 3 เท่าต่อปี ย้ำช่วยลดค่าใช้จ่าย และลดความซับซ้อนให้แก่ระบบไอทีขององค์กร…
นายแอนดรู เลา ผู้อำนวยการอาวุโส ด้าน Exalogic ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า Exalogic Elastic Cloud Software เป็น Engineered System เพื่อการประมวลผลแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจ ที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนให้แก่องค์กรบริษัทได้เป็นอย่างดี โดยหลังจากเปิดตัวเวอร์ชั่นแรกในปี 2010 มีลูกค้าจาก 43 ประเทศ ใน 22 กลุ่มอุตสาหกรรมเลือกใช้ และสามารถเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัทได้ 3 เท่าต่อปี ปัจจุบัน 40% ของการเติบโตเป็นผลมาจากลูกค้าที่เลือกใช้ Exalogic แทนโซลูชั่นจากคู่แข่งชั้นนำ รวมถึงระบบเมนเฟรม
?ด้วยตัวเลขการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ออราเคิลเร่งพัฒนา Exalogic Elastic Cloud เวอร์ชั่น 2.0 ขึ้นมา เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ โดยเวอร์ชั่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งที่สามารถขจัดความเสี่ยงในการติดตั้งแอพพลิเคชั่นและมิดเดิลแวร์ ด้วยการติดตั้งแบบอัตโนมัติเพียงคลิกเดียวสำหรับแอพพลิเคชั่นที่ซับซ้อน, เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุดถึง 10 เท่า เมื่อใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นของออราเคิล แอพพลิเคชั่น Java รวมถึงแอพพลิเคชั่นธุรกิจตัวอื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถจัดสรรแอพพลิเคชั่นได้เร็วกว่า 6 เท่า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไปอย่างฉับไวได้? ผอ.อาวุโส ด้าน Exalogic ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น กล่าว
นายแอนดรู กล่าวอีกว่า เพราะความที่เป็นเทคโนโลยีมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างจึงทำให้ ?Exalogic Elastic Cloud 2.0 รองรับการทำเวอร์ชวลไลเซชั่นสำหรับแอพพลิเคชั่นธุรกิจ โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการทำงานเครื่องเซิร์ฟเวอร์จริง เมื่อทำงานด้วยกันกับ Oracle VM เซิร์ฟเวอร์, มีความเสถียรสูง พร้อมความสามารถในการปรับขยายเพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการทางธุรกิจได้ และเชื่อมโยงส่วนประกอบต่างๆ ทั้งหมดของระบบ Oracle Exalogic เข้าด้วยกัน, รองรับการผนวกรวมหลายแอพพลิเคชั่นไว้บนระบบเดียวกันในรูปแบบของไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud) พร้อมทั้งขจัดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้วยการแยกแอพพลิเคชั่นออกจากกันอย่างสมบูรณ์
ผอ.อาวุโส ด้าน Exalogic ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น กล่าวด้วยว่า ตลาด Exalogic คือคนที่ใช้เครื่องเมนเฟรมมาก่อน โดยขณะนี้เมนเฟรมมีราคาเครื่อง และค่าบำรุงรักษาสูงกว่า รวมถึงบุคลากรที่จะเข้ามาให้บริการหลังการขายก็มีน้อยลง ทำให้หลายๆ องค์กรเริ่มเปลี่ยนมาใช้ Oracle Fusion Middleware ที่เป็น Exalogic Elastic Cloud มากขึ้น สอดคล้องกับผลวิจัยจากการ์ทเนอร์ ที่คาดการณ์ว่าในปี 2015 35% ของยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ จะเป็นเซิร์ฟเวอร์แบบ Integrated Systems ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับ Engineered System ของ Exalogic Elastic Cloud Software 2.0 จากออราเคิล.
Tags: 2.0, Cloud, Elastic, หนุนเวอร์ชวลไลเซชั่นองค์กร, ออราเคิลส่งทรูรุกตลาดออนไลน์ เปิด’ทรูสโตร์’ ให้ช็อป 24 ชั่วโมง
Posted by admin on
August 31, 2012
กลุ่มทรู ประกาศเปิดร้านค้าออนไลน์ใหม่ ?ทรูสโตร์? ชูเป็นช็อปใหญ่ใกล้มือบนโลกออนไลน์ที่เดียว ครบ คุ้ม ทันใจ วันเดียวได้ โดยจุดเด่นที่เป็นศูนย์รวมสมาร์ทโฟน และ Gadget ขนาดใหญ่ที่เปิด 7 วัน 24 ชั่วโมง พร้อมข้อเสนอโปรโมชั่นพิเศษ…
นายวรุตม์ ลีเรืองสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Web Business บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว ?ทรูสโตร์? จะเป็นหนึ่งในช่องทางจำหน่ายสินค้า-บริการ รวมถึงแพ็กเกจต่างๆ ของกลุ่มทรู ผ่านเว็บไซต์ http://store.truecorp.co.th ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการช็อปปิ้งอย่างสะใจ คุ้มค่า โดยจุดเด่นที่เป็นศูนย์รวมสมาร์ทโฟน และ Gadget ขนาดใหญ่ที่เปิด 7 วัน 24 ชั่วโมง ราคาพิเศษกว่าที่ซื้อในช็อป ไม่ต้องรอคิว ประหยัดทั้งเวลาและค่าเดินทาง ด้วยแนวคิด ?ทรูสโตร์…ช็อปทรูที่ใกล้ที่สุด คลิกที่เดียวครบ สั่งครั้งเดียวคุ้ม วันเดียวได้ของทันใจ? รับประกันสินค้าและการบริการหลังการขาย มั่นใจตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การช็อปปิ้งออนไลน์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ เริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 28 ส.ค. 2555 พร้อมโปรโมชั่นช่วงเปิดตัวสั่งซื้อสินค้า-บริการ จัดส่งฟรีทั่วประเทศจนถึง 31 ธันวาคมนี้
ทรูสโตร์ มีผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของกลุ่มทรู อย่างครบถ้วน ประกอบด้วย
? Shopping: ศูนย์รวมสมาร์ทโฟน และ Gadget หลากหลายแบรนด์ อาทิ Apple, Samsung, HTC, Blackberry โดยมีการรับประกันและบริการหลังการขายเสมือนซื้อสินค้าจากทรู ช็อป
? Package/Plan: ศูนย์รวมแพ็กเกจและโปรโมชั่น สินค้าและบริการต่างๆ ในเครือทรู ทั้งทรูออนไลน์ ทรูมูฟ เอช ทรูมูฟ โทรศัพท์บ้านพื้นฐานทรู และ ทรูวิชั่นส์
? True Digital Store: ศูนย์รวมของดิจิตอลคอนเทนต์ ทั้งเพลง ภาพยนตร์ และรายการสุดฮิตจากทรูวิชั่นส์
? Application: รวมแอพพลิเคชั่นที่ทุกไลฟ์สไตล์ต้องโหลดใช้ ทั้ง H Music, H TV, H Movie และอื่นๆ อีกมากมาย
ด้านนายกิตติณัฐ ทีคะวรรณ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทั้งนี้ กลุ่มทรู มั่นใจว่า ทรูสโตร์ จะเป็นช็อปที่สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการสั่งซื้อสินค้าบริการ โดยการันตีความมั่นใจด้านความปลอดภัยต่อการสั่งซื้อสินค้าในรูปแบบออนไลน์ และการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือได้ภายใน 1 วันเท่านั้น ซึ่งในการชำระค่าบริการ ลูกค้าสามารถเลือกชำระได้ทั้งผ่านบัตรเครดิต โอนเงินผ่านเอทีเอ็มทุกธนาคาร หรือเลือกผ่อนชำระด้วยโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน (เฉพาะธนาคารที่ร่วมรายการ) พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านทรูสโตร์ ได้แก่ Samsung Note 10.1 ราคา 21,900 บาท แถมฟรีฟิล์มกันรอย และ Memory Card 16GB ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2555 (100 ท่านแรกเท่านั้น).
?
Tags: 24, ชั่วโมง, ทรูรุกตลาดออนไลน์, เปิดทรูสโตร์, ให้ช็อปtags: 24, ชั่วโมง, ทรูรุกตลาดออนไลน์, เปิดทรูสโตร์, ให้ช็อป
No Comments
วีซ่าเอาใจร้านค้า เปิดตัว”mPOS” เครื่องรูดบัตรบนสมาร์ทโฟน
Posted by admin on
August 31, 2012
วีซ่าแนะนำการรับชำระเงินด้วยบัตรรูปแบบใหม่ แก่ร้านค้าถือ โดยเป็นหนึ่งในกลยุทธหลักในการเพิ่มจุดรับบัตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้บริโภคด้วย mPOS ที่เปลี่ยนอุปกรณ์มือถือต่างๆให้กลายเป็นจุดรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต…
วีซ่า (VISA) แนะนำการรับชำระเงินด้วยบัตรรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคและร้านค้าในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์การชำระเงินและรับชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่วีซ่ามุ่งมั่นให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การเือื้ออำนวยความสะดวกสบาย และเพิ่มจำนวนช่องทางการรับชำระเงินผ่านบัตรวีซ่าในประเทศ นอกจากนั้นร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ยังเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และโอกาสที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากความสะดวกสบาย ด้วยการชำระเงินผ่านเครื่องรับบัตรรูปแบบใหม่ (mPOS; Mobile Point-of-Sale) ที่เป็นเครื่องรับบัตร ที่เปลี่ยนอุปกรณ์มือถือต่างๆให้กลายเป็นจุดรับชำระเงิน (POS: point-of-sale) ซึ่งเครื่องรับบัตรดังกล่าว สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตได้โดยตรง เพื่อให้ร้านค้าสามารถให้บริการรับชำระเงินผ่านบัตรเครคิตและบัตรเดบิตได้ทุกที่ ทุกเวลา
หลายประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียอาคเนย์ ได้มีการใช้นวัตกรรมชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การชำระเงินผ่านอีคอมเมิร์ซ (eCommerce) หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless payments) ด้วยบัตรวีซ่าเพย์เวฟ (Visa payWave) และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ภาครัฐบาลในหลายๆ ประเทศยังให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบและรูปแบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศสิงคโปร์ ได้มีการจัดทำระบบการรับชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่าน (contactless payment) บัตรวีซ่าเพย์เวฟ (Visa payWave) ทั่วประเทศ ซึ่งมีร้านค้าเข้าร่วมกว่าหนึ่งหมื่นร้านค้า
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเจริญเติบโต ของการใช้เว็บไซต์ อุปกรณ์มือถือและโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆได้หลอมรวมอยู่ในวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นวิธีการชำระเงิน หรือแม้กระทั่งการรับเงิน โดยวีซ่าก็เริ่มเห็นเทรนด์ รูปแบบเดียวกันเกิดขึ้นในประเทศไทย วีซ่ายืนยันว่าจะนำนวัตกรรมการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆมายังประเทศไทย เพื่อที่จะเพิ่มจุดรับบัตรพร้อมสร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยผ่านเครือข่ายของวีซ่าอย่างแน่นอน
ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย กล่าวต่อว่า ในประเทศไทย วีซ่าทำงานอย่างใกล้ชิดกับร้านค้า ผู้ประกอบการ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน และธนาคารให้บริการด้านการรับบัตรฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินให้กับผู้บริโภค โดยล่าสุดได้มีการเพิ่มการบริการเติมเงินสำรองค่าผ่านทางในบัตร Easy Pass สำหรับผู้ใช้ทางพิเศษทั่วกรุงเทพฯ การเติมเงินสำรองค่าผ่านทางในบัตรนี้ช่วยลดปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมด้วยเงินสดสำหรับผู้เดินทางสัญจรส่วนบุคคลหรือในรูปแบบบริษัท ทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคอีกด้วย
?วีซ่ามีความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับธนาคาร ร้านค้า ผู้ประกอบการและพันธมิตรอื่นๆซึ่งรวมไปถึง พันธมิตรด้านเทคโนโลยีและด้านเครือข่ายการสื่อสารเพื่อพัฒนาและขยายจุดรับชำระเงินผ่านบัตรฯ และเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและธุรกิจในประเทศไทย โดยร้านค้าหรือผู้ประกอบการมีทางเลือกเพิ่มในการรับชำระเงินผ่านอุปกรณ์มือถือ (mPOS) นอกเหนือจากประโยชน์ที่ได้รับจากการรับชำระเงินผ่านบัตรแบบเดิมแล้ว เครื่องรับบัตรผ่านอุปกรณ์มือถือ หรือ mPOS นี้เป็นระบบที่ใช้งานได้ง่าย สามารถเคลื่อนย้ายจุดชำระเงินได้และยังมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าสำหรับร้านค้า และเพื่อเป็นการสนับสนุนการเพิ่มทางเลือกการรับชำระเงินรูปแบบใหม่นี้ วีซ่าได้ร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆในประเทศไทยเพื่อให้แน่ใจว่าระบบการชำระเงิน mPOS นี้มีความปลอดภัยและเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างที่สุด? นายสมบูรณ์ กล่าว
?
Tags: วีซ่าเอาใจร้านค้า, เครื่องรูดบัตรบนสมาร์ทโฟน, เปิดตัวmPOSเลอโนโวฉลอง20ปี ThinkPad เปิดตัว ‘X1 Carbon’
Posted by admin on
August 30, 2012
เลอโนโวฉลอง ThinkPad ครบรอบ 20 ปี เปิดตัว ThinkPad X1 Carbon อัลตร้าบุ๊กรุ่นแรกสำหรับองค์กร กับจอขนาด 14 นิ้ว บางเฉียบที่สุดในโลก แต่แข็งแรงทนทานด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แบบเดียวกับที่ใช้ในทางทหาร พร้อมทั้งมีน้ำหนักเบาเพียง 1.36 กิโลกรัม…
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่กล่าวได้ว่าเป็นแบรนด์ระดับตำนาน และยังคงมีแฟนพันธุ์แท้ที่หลงใหลผลิตภัณฑ์กันอย่างต่อเนื่อง เราภูมิใจอย่างมากที่ ThinkPad ได้รับการตอบรับอันดี และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของ ThinkPad เลอโนโวเปิดตัว ThinkPad X1 Carbon ที่นับได้เป็นที่สุดแห่งนวัตกรรมล้ำสมัย ที่เรามุ่งสรรสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอัลตร้าบุ๊กที่บางเบาที่สุด และครบครันทั้งการออกแบบมาให้ดูทันสมัย ผสานกับเทคโนโลยี และประสิทธิภาพเหนือชั้น มุ่งตอบสนองสไตล์การทำงานของธุรกิจที่ต้องทำงานนอกสถานที่เป็นหลัก จึงอาจกล่าวได้ว่า ThinkPad X1 Carbon ถูกออกแบบมาเปรียบเสมือนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจได้อย่างลงตัว
กก.ผจก.ประจำประเทศไทย บ.เลอโนโว กล่าวต่อว่า ThinkPad X1 Carbon มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Hi-Resolution ขนาด 14 นิ้ว และมีน้ำหนักเพียง 1.36 กิโลกรัม น้อยกว่าขวดน้ำอัดลมขนาด 1.5 ลิตร เสริมความคล่องตัวในการเดินทาง ถึงแม้จะบางเบาแต่มีความแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง เนื่องด้วยโครงด้านในและตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทาน และผ่านการทดสอบคุณสมบัติของโน้ตบุ๊กสำหรับนำไปใช้ในทางการทหาร ซึ่งนับเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตระกูล ThinkPad ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน อีกทั้งรองรับการใช้งานยาวนานถึง 8 ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยี RapidCharge สำหรับร่นระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว จาก 0 ถึง 85% ภายในเวลาเพียง 35 นาที พร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ 3G ได้ทุกเครือข่าย และสามารถเป็น ไวไฟ Hotspot เพื่อตอบโจทย์ชีวิตออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา
นายจีรวุฒิ กล่าวด้วยว่า อัลตร้าบุ๊ก ThinkPad X1 Carbon มากับคีย์บอร์ด Backlit ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานคีย์บอร์ดในที่แสงน้อย รวมไปถึงการใช้งานตอนกลางคืน ที่ถือเป็นคุณสมบัติพิเศษของโน้ตบุ๊ก ThinkPad ที่เสริมความสะดวกสบายและความถูกต้องในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับทัชแพดบนพื้นผิวแก้วที่รองรับคำสั่งหลายทิศทาง กล้องเว็บแคมคมชัดระดับ HD พร้อมจุดจับโฟกัสหน้าแบบอัตโนมัติ ไมโครโฟน แบบ dual-array ที่สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้และระบบเสียงแบบ Dolby เพื่อเสียงที่คมชัดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมศักยภาพรองรับการเติบโตของธุรกิจด้วยสุดยอดเทคโนโลยี Intel vPro และการประมวลผลด้วย อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์และบริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน อาทิ Dock ในการเพิ่มพอร์ตใช้งาน แพ็คเกจบริการลูกค้ารูปแบบใหม่ที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น การอัพเกรดระยะเวลาการรับประกัน และขยายขอบเขตในการรับประกันจากอุบัติเหตุต่างๆ เป็นต้น.
?
Tags: Carbon, ThinkPad, X1, เปิดตัว, เลอโนโวฉลอง20ปี