Archive for November, 2013

TOT ทุ่ม 2 หมื่นล้านปีหน้า เสริมศักยภาพ 3G

TOT ทุ่ม 2 หมื่นล้านปีหน้า เสริมศักยภาพ 3G

ทีโอที เตรียมลงทุนการตลาด ประชาสัมพันธ์ 2 หมื่นล้านบาท พร้อมขยาย 3จี ให้ครอบคลุม ขณะที่ทุ่ม 2 แสน เปิดโครงการทีวายซี บูรณาการแผนซีเอสอาร์ใหม่ทั่วประเทศ…

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 56 นางสมจิตต์ ธีระชุติกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักการตลาด สายงานการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2556 รายได้ของทีโอที อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) รายได้จากโทรศัพท์ด้วยเสียง (วอยซ์) และรายได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทีโอที 3จี ส่วนแผนการตลาดของทีโอทีในปี 2557 นั้น จะลงทุนเพิ่มอีก 2 หมื่นล้านบาท เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการที่ดีกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น การให้ความช่วยเหลือลูกค้า เพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการตลาดถึงผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น และพัฒนาโครงข่ายสามจีให้ครอบคลุมมากที่สุด

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักการตลาด สายงานการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีโอที กล่าวต่อว่า ในปี 2557 จะร่วมกับ กองบังคับการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยการให้ความร่วมมือในการติดตั้งกล้องซีซีทีวี ภายไต้ชื่อโครงการ มิราเคิลอาย (Miracle Eye) ส่วนปัญหาและอุปสรรคในปีหน้านั้น จะมีเรื่องของสัญญาสัมปทานที่สิ้นสุดลงของเอไอเอส ที่จะทำให้รายได้หายลงไป อีกทั้งต้องรอการประกาศจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ชัดเจนกว่านี้ ด้วยเหตุนี้ ต้องนำเสนออะไรใหม่ๆ ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

นางสมจิตต์ กล่าวอีกว่า โครงการทีวายซี เด็กไทยมีดี ใช้ไอที เพื่อชุมชน ที่ชุมชนบางเพรียง จ.สมุทรปราการ นั้น ใช้งบประมาณจัดงานอยู่ที่ 2 แสนบาท และถือเป็นปีแรกที่บูรณาการแผนซีเอสอาร์ใหม่ทั่วประเทศ โดยในโครงการนี้ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลบางเพรียง สนับสนุนเด็กและเยาวชน ให้ใช้ไอซีทีให้เกิดประโยชน์กับชุมชน และสังคมมากขึ้น เพราะเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน มีความรู้ความสามารถด้านไอทีอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้นำศักยภาพของตนเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ดังนั้น โครงการนี้จะเป็นการสร้างเยาวชนให้เป็นคนเก่งและคนดี ต่อยอดเยาวชนให้ได้เรียนรู้บริบทของชุมชน และการนำความรู้ด้านไอทีมาสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน

นอกจากนี้ ทีโอที ยังสนับสนุนชุมชนในด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยใช้โครงข่ายของทีโอทีส่งสัญญาณ ออกอากาศทางไกลผ่านดาวเทียม และโครงการกรีนไอซีที ที่เป็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และโครงการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน พิษภัย และการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกต้องปลอดภัย และสำหรับผู้ที่สนใจ หรืออยากเข้ามาให้กำลังใจ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเด็กไทยมีดี ใช้ไอซีที เพื่อชุมชน สามารถเข้าชมได้ที่?Facebook.com/TOTyoungclubpage

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, , , , ,

กฟน.เสนอเทคโนโลยีสถานีชาร์จรถยนต์ หวังหนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้า

กฟน.เสนอเทคโนโลยีสถานีชาร์จรถยนต์ หวังหนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้า

การไฟฟ้านครหลวง นำเอาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (MEA EV Charging Station) มาแสดงให้ประชาชนชมในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2013 สนองการริเริ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในกิจการ ปูทางสู่การผลักดันให้มีสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในเชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรกของประเทศ…

นายรัตนโรจน์ ทวีสิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าโดยให้ความสำคัญ ในการพัฒนาระบบจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้มีความมั่นคง ตลอดจนส่งเสริมเทคโนโลยี ที่ช่วยในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงได้มีการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า มาตั้งแต่ปี 2553 ตราบจนปัจจุบัน ได้มีการเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (MEA EV Charging Station) แล้วที่การไฟฟ้านครหลวงสำนักงานใหญ่ เพลินจิต พร้อมการจัดหารถยนต์มาใช้ในกิจการรวม 20 คัน และก่อสร้างสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 10 แห่ง ตามการไฟฟ้านครหลวงเขต ต่าง ๆ

ผช.ผู้ว่าการ กฟน. กล่าวต่อว่า ทาง กฟน. จึงได้นำเสนอเทคโนโลยีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (MEA EV Charging Station) ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 Thailand International Motor Expo 2013 โดยนำสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้า มาแสดงเพื่อประชาสัมพันธ์ทิศทางการเติบโต และการบริหารจัดการของยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle Technology) โดยปัจจุบันการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะหน่วยงานที่จำหน่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้ริเริ่มการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในกิจการ พร้อมผลักดันให้มีสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ เป็นแห่งแรกของประเทศ และขอเชิญชวนประชาชนและผู้ที่สนใจ มาร่วมศึกษาและสัมผัสเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนลุ้นรับของที่ระลึกจากบูธของการไฟฟ้านครหลวง ณ งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 Thailand International Motor Expo 2013 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. ? 10 ธ.ค. 2556 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1 ? 3 เมืองทองธานี.

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
,

มาแล้ว Ragnarok Mobile ชาวแอนดรอยด์เล่นก่อนใคร 9 ธ.ค.นี้

มาแล้ว Ragnarok Mobile ชาวแอนดรอยด์เล่นก่อนใคร 9 ธ.ค.นี้

เพลย์พาร์ค ชวนเกมเมอร์สัมผัสกับ Ragnarok Mobile เกม MMORPG เกมแรกบนมือถือ มันส์ได้ทุกที่ เปิดทดสอบลองเล่นในวันที่ 9 ธ.ค.2556 และเปิดเต็มรูปแบบ iOS และ Android 19 ธันวาคมนี้…

เพลย์พาร์ค ในเครือ เอเชียซอฟท์ ประกาศชวนเกมเมอร์ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของการสานต่อตำนานบทใหม่ กับโมบายล์เกมตัวล่าสุด “Ragnarok Mobile” ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 3 ล้านครั้ง !! พร้อมแล้วใน เวอร์ชั่นภาษาไทย ที่จะเปิดให้ทดสอบเกม (สามารถล็อกอินเข้าเกมด้วย PlayID หรือ Facebook ID) ได้ตั้งแต่ วันที่ 9 -11 ธ.ค. 2556 บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android โดยสามารถดาวน์โหลดได้จาก Google PlayStore และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งบน iOS และ Android วันที่ 19 ธ.ค. นี้

“Ragnarok Mobile” สุดยอดเกม MMORPG โดยมีเนื้อเรื่องในเกมอ้างอิงมาจากเกมออนไลน์ชื่อดัง Ragnarok Online ตำนานที่ครองใจคนทั้งโลกที่เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี โดย Ragnarok Mobile สามารถเล่นออนไลน์คนเดียว หรือเล่นเป็นกลุ่มปาร์ตี้กับเพื่อนๆ เพื่อผ่านภารกิจต่างๆ และผจญภัยไปกับเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน, ตามล่าไอเทม และเครื่องประดับเพื่อนำมาตกแต่งอัพเกรดตัวละคร, โดยมีสัตว์เลี้ยงและพาหนะคู่ใจ ร่วมเดินทางไปในโลกของ Ragnarok

ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินไปกับระบบเกม MMORPG เต็มรูปแบบที่เล่นออนไลน์ และเจอกับเพื่อนๆ ในเกมแบบ Real time ให้ทุกคนสามารถแชต เก็บเลเวล ล่าบอสกันได้อย่างสนุกสนานบนโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ เกมเมอร์จะสามารถเล่น Ragnarok Mobile ได้ทุกที่ทุกเวลาไม่จำกัดอยู่เพียงหน้าคอมพิวเตอร์อีกต่อไป.

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, , , , ,

เวิลด์ออฟแท็งค์ ร่วมงาน WCG 2013 พร้อมการอัพเดตแพทช์ 8.10

เวิลด์ออฟแท็งค์ ร่วมงาน WCG 2013 พร้อมการอัพเดตแพทช์ 8.10

เวิลด์ ออฟ แท็งค์ ระดมพลรถถังแดนอาทิตย์อุทัย ในอัพเดท 8.10 ส่งรถถังสัญชาติแดนปลาดิบ และรถถังพรีเมี่ยมเคลื่อนทัพสู่สมรภูมิออนไลน์ ที่มีการพัฒนาแสงและเงา รวมถึงกราฟิกใหม่ พร้อมทั้งเข้าร่วมอย่างเป็นทางการในงาน WCG 2013 ที่มีนักกีฬา 16 ประเทศร่วมชิงชัยเพื่อเกียรติยศ และเงินรางวัล…

นายไมค์ ซีเวต โปรดิวเซอร์ของ เวิลด์ ออฟ แท็งค์ บริษัท วอร์เกมมิ่ง (Wargaming) กล่าวว่า เป้าหมายของเรากับเกมเวิลด์ ออฟ แท็งค์ คือ เพื่อรักษาระบบการเล่นผ่านการอัพเดตปกติ และอัพเดตแพทช์ใหม่ 8.10 ที่จะเพิ่มรถถังแบบใหม่ๆ และเราตื่นเต้นจนแทบจะรอไม่ไหวที่จะให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์นี้ สายการผลิตใหม่ มีรถถังญี่ปุ่น 14 คัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย รถถังเบา 4 คัน มีรถถังเทียร์สูงสุด คือ Type 5 Ke-Ho และรถถังกลาง 9 คัน มีรถถังเทียร์สูงสุดคือ STB-1 รวมถึงรถถังกลาง แบบพรีเมียม Type 3 (Chiu Nu-Kai) สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบความสมจริง เตรียมตัวให้พร้อมกับการยกเครื่องระบบแสงของเกม ที่สร้างขึ้นเพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่สุดยอด ทั้งระบบแสงและเงา ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งจะเพิ่มระดับความสมจริงของเกมให้มากขึ้น

นอกจากนี้ เกมเวิลด์ ออฟ แท็งค์ ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการจาก WCG 2013 (World Cyber Game 2013) ให้จัดแข่งในวันที่ 28 พ.ย.- 1 ธ.ค. 2556 ที่เมืองคุนซาน สาธารณรัฐประชาชนจีน วอร์เกมมิ่ง ได้คัดเลือกสุดยอดผู้บัญชาการที่ดีที่สุดในโลก จะมาทำการแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ระดับนานาชาติ ชิงเงินรางวัล 35,000 USD 21,000 USD และ 7,000 USD เหรียญสหรัฐฯ สำหรับสามทีมที่ดีที่สุดตามลำดับ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยทั้ง 16 ทีมชาติ จะเข้าแข่งขันในรอบแกรนด์ ไฟนอล และทุกรอบการแข่งขันจะมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์และในปีนี้ ทีม MiTH.Front Mission ได้สิทธิ์ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าชิงชัยในศึกครั้งนี้ด้วย

นายจองยุค บัค ผู้อำนวยการฝ่ายอีสปอร์ตระดับโลกของวอร์เกมมิ่ง กล่าวว่า การรับชมเวิลด์ ออฟ แท็งค์ ในการแข่งขันอีสปอร์ต ระดับโลก น่าตื่นเต้นอย่างมาก การได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการในปีนี้ของ WCG เป็นข้อพิสูจน์ ให้เห็นว่า เวิลด์ ออฟ แท็งค์ ไม่เพียงแค่เป็นที่นิยมทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ในการจัดการแข่งขันเกม.

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, , , , ,

สื่ออาเซียนเผยคนนิยมเสพข่าวผ่านโซเชียลมีเดียมากสุด

สื่ออาเซียนเผยคนนิยมเสพข่าวผ่านโซเชียลมีเดียมากสุด

ตัวแทนสื่อจากประเทศอาเซียนยอมรับ เฟซบุ๊ก เป็นโซเชียลมีเดีย อันดับหนึ่ง คนใช้เสพข่าว ชี้รวดเร็ว เข้าถึงทุกสถานการณ์?

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 56 นางสาวสุธิดา มาไลยพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิตอลมีเดีย บริษัท โพสต์ พับลิชชิง ผู้บริหารเว็บไซต์ www.bangkokpost.com กล่าวในงานสัมมนาประจำปี เรื่อง สื่อสังคมออนไลน์กับการกำหนดวาระข่าวสารในสื่อกระแสหลัก ในการเสวนาเรื่อง อิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์และการนำมาประยุกต์ใช้กับห้องข่าว จัดโดย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ว่า ในประเทศไทย นักข่าวมีการนำข้อความในทวิตเตอร์ของนักการเมือง เข้ามาในโพสต์ต่อในทวิตเตอร์ของตัวเอง หากไม่ตรวจสอบให้ดี อาจเกิดผลเสียตามมาได้ นอกจากนี้ กลุ่มสื่อยังใช้ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก แสะอินสตาแกรม ในการโฆษณาแบรนด์ของตัวเอง คือ ทำให้แบรนด์ของสื่อกระแสหลัก เข้ามาแข่งขันโดยผ่านสื่อออนไลน์

นายจอห์น แนรี่ รองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ เดลี่ อินไควเออร์ ประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า คนฟิลิปปินส์ใช้สื่อออนไลน์ในการบริโภคข่าวสารมากเป็นอันดับหนึ่งและโตเร็วมาก โดยเฟซบุ๊กมียอดกด Like 3 แสนกว่าคน ทวิตเตอร์ประมาณ 4 แสนคน ขณะที่ เฟซบุ๊ก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ประมาณ 1 ล้าน Like เป็นของดารา นักแสดง ไม่ใช่สื่อ และจากการสำรวจล่าสุด ในเดือน พ.ย. 56 ของสหรัฐฯ พบว่า 64% ใช้อินเทอร์เน็ตรับข่าวสารจากเฟซบุ๊ก ดังนั้น บริษัทจึงสามารถเพิ่มยอดคนอ่านได้จากเฟซบุ๊กมากกว่าทวิตเตอร์ จึงพยายามศึกษาสังคมออนไลน์ในลักษณะเป็นแหล่งข่าว และเผยแพร่ข่าว ขณะเดียวกัน มีคนเคยพูดว่า ทวิตเตอร์ จุดประกายข่าวขึ้นมา แต่ที่ผ่านมา มีหลายข่าวที่มีการรายงานผ่านทวิตเตอร์ก่อนขึ้นเว็บไซต์ข่าว ซึ่งนั่นคือ เบรกกิงนิวส์ จึงคิดว่า การมีเบรกกิงนิวส์ ก็ควรทำก่อนขึ้นเว็บไซต์

รองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ เดลี่ อินไควเออร์ กล่าวต่อว่า บรรณาธิการรายหนึ่งเคยพูดว่า เวลาจะตอบทวิตเตอร์ ควรตอบภายใน 5 นาที เพราะนั่นคือ อายุของทวิตเตอร์ หมายความว่า ถ้ามีคนอ่านแล้วต้องการสื่อสารกับเรา ต้องสื่อสารภายใน 5 นาที ดังนั้น จึงต้องทวีตซ้ำๆ ไม่ให้ข้อความนั้นตายไป นอกจากนี้ สื่อยังสามารถพัฒนาได้ 3 ระดับ คือ สื่อมาตรฐานโซเชียลมีเดีย เช่น เว็บไซต์ต่างๆ และพัฒนาการด้านสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย

นางสาวเหวียน เตียน ฮุย รองผู้อำนวยการ พีเพิล เดลี่ ออนไลน์ ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า การใช้โซเชียลมีเดียในเวียดนาม เฟซบุ๊ก ได้รับความสนใจมากที่สุด ส่วนทวิตเตอร์รองลงมา แต่ละแพลตฟอร์มถูกใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน สำหรับการใช้งานในกองบรรณาธิการมีหลายอย่าง นักข่าวเริ่มใช้เป็นที่มาของข่าว และเมื่อไม่นานมานี้ มีนายพลท่านหนึ่งเสียชีวิต ส่วนตัวทราบเรื่องนี้จากเฟซบุ๊กในเวลาเพียง 5 นาที เฟซบุ๊กเป็นแหล่งกระจายข่าว ไม่ใช่องค์กรสื่อ ซึ่งการรับรู้ข้อมูลรวดเร็วนี้เอง ทำให้สามารถสั่งงานได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ โซเชียลเน็ตเวิร์ก ยังเป็นตัวเชื่อมนักข่าวกับคนอ่าน ซึ่งในยุคก่อน หนังสือพิมพ์สื่อข่าวทางเดียว แต่เมื่อมีสื่อออนไลน์เข้ามา จะเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสื่อกับผู้อ่าน ขณะเดียวกันก็มีความท้าทายอยู่จากความรวดเร็ว ซึ่งในฐานะนักข่าว จะสร้างความรวดเร็วกับความถูกต้องได้อย่างไร

นายซอย สุเพียบ กรรมการผู้จัดการ DAP-news.com ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า การบริโภคข่าวสารของชาวกัมพูชา เฟซบุ๊ก มาเป็นอันดับหนึ่ง จากกรณีที่สมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชาสวรรคต ไม่มีนักข่าวคนไหนสามารถเก็บภาพได้ แต่เฟซบุ๊ก ทำให้เจ้าหน้าที่จากกัมพูชาส่งภาพออกมาได้ โดยใช้สมาร์ทโฟน ไอแพดถ่ายภาพ และโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก ซึ่งบางภาพถูกใช้ จึงทำให้คนในวงการสื่อเริ่มคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นนักข่าว ที่สามารถส่งข่าวได้ ขณะเดียวกัน ก็จำได้แม่นว่า ในช่วงแห่พระศพ ทุกคนจ้องแต่เฟซบุ๊ก เพื่อติดตามข่าวสาร และพอเว็บไซต์ข่าวล่ม เฟซบุ๊กก็กลายเป็นสื่อกระจายข่าวสารแทน

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กก็ถูกใช้ในทางการเมือง และทำได้เป็นอย่างดี โดยถูกฝ่ายค้านใช้งาน ทำให้การเลือกตั้งดีกว่าในอดีตของฝ่ายค้าน แม้พรรครัฐบาลจะได้เสียงข้างมาก แต่ก็เสียที่นั่งไปหลายที่ ซึ่งรัฐบาลก็ออกมาบอกให้เคารพการใช้โซเชียลมีเดีย แต่ไม่ได้ปิดกั้น

กรรมการผู้จัดการ DAP-news.com กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีปราสาทพระวิหาร พวกเราจำเป็นต้องมีความเข้าใจในการกระจายข่าว เพราะเฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานมากในกัมพูชา และไม่ต้องการให้คนทั้งไทยและกัมพูชาเกลียดกัน จึงต้องระมัดระวังอย่างสูง นอกจากนี้ กัมพูชา ยังกำลังวางโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวถ้าต้องการข่าวประเทศไทยในอดีต ต้องรอหนังสือพิมพ์ถึง 1 วัน แต่ตอนนี้มีเว็บไซต์ข่าว ทำให้เรียนรู้ข่าวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งล่าสุด อ่านเจอข่าวว่า ประเทศไทยสูญเสียนักท่องเที่ยวกว่า 3 แสนคนแล้ว จากสถานการณ์ทางการเมือง

?

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:

อย่าประมาท กสทช.เผยสถิติไอโฟนบึม 3ครั้งสังเวย1ศพ

อย่าประมาท กสทช.เผยสถิติไอโฟนบึม 3ครั้งสังเวย1ศพ

กสทช. เผยสถิติอุบัติเหตุสมาร์ทโฟนไอโฟนระเบิด 3 ครั้ง คร่าชีวิตผู้ใช้งานไปแล้ว 1 ราย กำชับผู้นำเข้าต้องผ่านการรับรองมาตรฐานก่อนใช้งาน พร้อมเอาผิดผู้ฝ่าฝืน ชี้มีโทษปรับ ไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ…

?

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)? กล่าวถึงการระเบิด ของโทรศัพท์ทำให้มีผู้เสียชีวิตว่า ากการตรวจสอบเบื้องต้นของสำนักงาน? กสทช. พบว่า เครื่องดังกล่าวไม่ใช่ไอโฟนของจริง แต่เป็นของปลอมที่ผลิตขึ้นมา และคาดว่าไม่ได้รับการรับรองจาก กสทช. ซึ่งล่าสุดได้ส่งหนังสือไปที่ สภ.แกลง จ.ระยอง เพื่อขอเครื่องมาตรวจสอบที่ศูนย์รับรองมาตรฐานอุปกรณ์โทรคมนาคม ของสำนักงาน กสทช. แล้ว? โดยคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 วัน จึงจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับ หน้าที่ของศูนย์รับรองมาตรฐานฯ นั้น เริ่มจาก ผู้ที่มีความประสงค์จะนำเข้าอุปกรณ์มายังประเทศไทย ต้องขออนุญาตโดยนำเครื่องมาตรวจสอบที่ กสทช. ก่อน จากนั้น จะดูว่าได้มาตรฐานตามที่ที่กสทช.กำหนด หรือ มาตรฐานระดับสากลหรือไม่ และเมื่อได้รับรองการรับรองเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถผลิต หรือนำเข้าโทรศัพท์ได้ ส่วนเครื่องโทรศัพท์ที่ได้รับรองมาตรฐานจาก กสทช. จะมีสติกเกอร์ติดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ตัวเครื่องด้านนอก หรือตัวเครื่องด้านใน

ขณะเดียวกัน สันนิษฐานว่า เครื่องที่ระเบิดล่าสุด อาจไม่ใช่เครื่องไอโฟนแท้ และไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกสทช.ซึ่งอาจลักลอบนำเข้ามาจำหน่าย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม 2498 กำหนดให้เครื่องโทรศัพท์จะต้องได้รับอนุญาตให้มีการนำเข้าโดยถูกต้องจากสำนักงาน กสทช. และมาตรา 32 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 กำหนดให้เครื่องโทรศัพท์จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากสำนักงาน กสทช. ก่อน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายฐากร กล่าวต่อว่า ข้อสังเกตเบื้องต้นสำหรับการตรวจสอบเครื่องโทรศัพท์มือถือว่าผ่านการรับรองมาตรฐานหรือไม่ว่า เครื่องโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจะต้องมีเครื่องหมายแสดงการรับรองมาตรฐานเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ ที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. ซึ่งจะระบุหมายเลขการรับรอง เลขปี ค.ศ. ที่รับรอง และรหัสประจำตัวของผู้ประกอบการ เช่น CLASS B NTC ID. AAAAAA-BB-XXXX โดยที่ AAAAAA หมายถึง หมายเลขรับรอง 6 หลัก BB หมายถึง เลขปี ค.ศ. ที่รับรอง ซึ่งจะเป็นเลขสองหลักสุดท้าย และ XXXX หมายถึง รหัสประจำตัวผู้ประกอบการ 4 หลัก ซึ่งเครื่องหมายนี้ ผู้ประกอบการต้องแสดงเครื่องหมายให้เห็นที่ตัวเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ ในลักษณะที่อ่านออกได้ และต้องแสดงเครื่องหมายในวัสดุที่ใช้ร่วมกับเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์นั้น เช่น บรรจุภัณฑ์ คู่มือการใช้งาน เป็นต้น

ส่วนกรณีอุปกรณ์เสริม เช่น ปลั๊ก สายชาร์จ แบตเตอรี่ หูฟัง และอื่นๆ หากนำเข้ามาพร้อมกับตัวเครื่องโทรศัพท์ สำนักงานกสทช. จะตรวจสอบให้ แต่ถ้านำเข้ามาแยกกัน หรือผลิตขึ้น อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จากสำนักงาน กสทช. แต่ต้องผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กระทรวงอุตสาหกรรม

เลขาฯ กสทช. กล่าวอีกว่า กรณีเครื่องโทรศัพท์มือถือที่มีปัญหาระหว่างปี 2555-2556 ในประเทศไทย? มีทั้งหมด 3 กรณี? ได้แก่ 1.โทรศัพท์มือถือแอปเปิล รุ่นไอโฟน 5 ระเบิด เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2556 ที่ จ.กรุงเทพฯ สาเหตุเกิดจาก พบน๊อตแปลกปลอมอยู่ในถาดรองแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่เกิดการกดทับและทำให้ช๊อตกันระหว่างเซลล์ของแบตเตอรี่ ความเสียหาย คือ โทรศัพท์ระเบิด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย ไม่สามารถระบุรุ่น ระเบิดเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556 ที่ จ.ระยอง โดยสำนักงาน กสทช. ได้ประสานไปยังบริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้ทางบริษัทฯ ตรวจสอบว่าเป็นเครื่องของบริษัทฯ หรือไม่ และเป็นรุ่นใด ความเสียหาย คือ มีผู้บาดเจ็บ ตาบอดทั้ง 2 ข้าง 1 ราย

และกรณีที่ 3 ตามข่าวที่ออกมาเป็นเครื่องโทรศัพท์มือถือ (น่าจะมาจากประเทศจีน) ที่ลอกเลี่ยนแบบไอโฟน 4s เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2556 ที่จ.ระยอง มีผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบ

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, ,

‘กสท.’ รับลงดาบทีวีดาวเทียมเลือกข้างไม่ได้

'กสท.' รับลงดาบทีวีดาวเทียมเลือกข้างไม่ได้

กสท. รับฟันทีวีดาวเทียมเลือกข้างไม่ได้ ขณะเตรียมทบทวนต่อไลเซ่นส์ช่องรายการทีวีดาวเทียมโฆษณาสินค้าไร้มาตรฐาน อย….

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
,

‘อนุดิษฐ์’ ห่วงม็อบชุมนุม กระทบการทำงานศูนย์เตือนภัย

'อนุดิษฐ์' ห่วงม็อบชุมนุม กระทบการทำงานศูนย์เตือนภัย

รมว.ไอซีที ห่วงศูนย์เตือนภัยฯทำงานไม่ได้ พร้อมเตรียมแบ็กอัพรับมือม็อบปักหลักยาว ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ วอนม็อบตรองผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตประชาชน…

?

วันที่ 28 พ.ย.56 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ที่ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของกระทรวงไอซีทีและหน่วยงานในสังกัด จนทำให้กระทรวงไอซีที สั่งข้าราชการหยุดการทำงานเมื่อช่วงเที่ยงของวานนี้ (27 พ.ย.) ทำให้ห่วงศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ไม่สามารถทำงานที่ศูนย์ราชการได้ และยอมรับว่าเครื่องมือของศูนย์เตือนภัยฯ ที่บางนา การทำงานไม่สมบูรณ์แบบ 100% จึงอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมช่วยพิจารณาถึงผลกระทบจุดนี้ด้วย เนื่องจากหน้าที่หลักของศูนย์เตือนภัยฯ คือการเตือนภัยพิบัติ ถือเป็นหน่วยงานสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า ขณะนี้ กระทรวงไอซีที เตรียมแผนรองรับระยะยาวไว้ สำหรับกรณีที่ไม่สามารถให้บริการได้ โดยหน่วยงานในสังกัดได้มีการเตรียมสถานที่ทำงานชั่วคราวรองรับไว้อยู่แล้ว โดยแต่ละหน่วยงานได้มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ (แบ็กอัพ) รองรับการทำงานอยู่แล้ว และยืนยันว่าการทำงานในโครงการของกระทรวงไอซีทีจะยังคงดำเนินงานตามปกติ แต่จะเป็นอุปสรรคกับเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงาน

ด้าน น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า แม้จะมีปัญหาในเรื่องของอุปกรณ์และระบบการทำงาน ระบบวิทยุเตือนภัย แต่ขณะนี้ ศูนย์เตือนภัยฯ อยู่ระหว่างเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อจัดระบบการทำงานใหม่ เพื่อให้ประสิทธิภาพของการเตือนภัยสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ไม่ขอเปิดเผย เพราะไม่อยากให้ม็อบเข้ามายึดพื้นที่อีก ในฐานะที่ตนเป็นผู้ดูแลและหน้าที่ที่ต้องดูแลทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน จะทำหน้าที่ตรงนี้อย่างเต็มที่และดีที่สุด

นายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. กล่าวว่า ช่วงที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบุกยึดสถานที่ราชการที่ผ่านมา มีหน่วยงานรัฐแจ้งความต้องการขอจัดเก็บสำรองข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กรอย่างเร่งด่วนทั้งสิ้น 3 หน่วยงาน คือ สำนักงบประมาณ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงไอซีที ซึ่ง สรอ.ได้ดำเนินการสำรองจัดเก็บข้อมูลได้เสร็จสิ้นทันก่อนเหตุการณ์บุกยึดสถานที่

นอกจากนี้ ในส่วนของอุปกรณ์เครื่องเซิร์ฟเวอร์เก็บข้อมูลที่ทำหน้าที่จัดเก็บเพื่อ เชื่อมโยงข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ยังอยู่ภายใต้การดูแลรักษาที่มีความปลอดภัยสูงสุด และจะกระจายไปยังสถานที่จัดเก็บต่างๆ ภายใต้การดูแลของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) แบ่งเป็น 3 ชั้นของการดูแล คือ เซิร์ฟเวอร์หลัก เซิร์ฟเวอร์สำรอง และเซิร์ฟเวอร์ชั้นลับสุดยอดซึ่งไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
, ,

กสท.รับฟันทีวีดาวเทียมเลือกข้างการเมืองไม่ได้

กสท.รับฟันทีวีดาวเทียมเลือกข้างการเมืองไม่ได้

กสท. รับไม่สามารถฟันรายการทีวีดาวเทียมได้ เพราะเลือกข้างได้ ขณะที่ เตรียมทบทวนต่อไลเซนส์ช่องรายการทีวีดาวเทียมโฆษณาสินค้าไร้มาตรฐาน อย.หลังพบการเอาเปรียบผู้บริโภคโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง…

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ขณะนี้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับช่องรายการทีวีดาวเทียมที่มีเนื้อหาเข้าข้างการเมืองชัดเจน เพราะทีวีดาวเทียมสามารถเลือกข้างได้อยู่แล้ว แต่อยู่ระหว่างการดำเนินการแผนการส่งเสริมใและกำกับดูแลกันเอง พ.ศ.2556-2559 เพื่อใช้กำหนดมาตรฐานการนำเสนอข่าวร่วมกันสำหรับทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ จำนวน 24 ช่องที่จะเกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการประมูล

กรรมการ กสท. กล่าวต่อว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ กสท. พิจารณาทบทวนการต่อใบอนุญาตช่องรายการ ในกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ (ทีวีดาวเทียม) ที่จะต่ออายุให้กับราบเดิมที่ได้รับไปก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยจะไม่ต่ออายุให้กับช่องรายการที่โฆษณาอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ทั้งนี้ กสท. ได้ดำเนินงานร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ สร้างเครือข่ายร้องเรียนการโฆษณาอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีลักษณะการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยจากผลสำรวจพบว่า ช่วงระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนธ.ค.2555-ก.พ.2556 มีการโฆษณาที่เข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยข้อความที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ให้ผลลัพธ์ทั้งสุขภาพร่างกาย ความสวยงามและลดความอ้วนถึง 102 ผลิตภัณฑ์ ส่วนโฆษณาที่ผิด อย. ดังกล่าว แยกเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ 60 ผลิตภัณฑ์ ยา 32 ผลิตภัณฑ์และอาหาร 10 ผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ ยังพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กาแฟ น้ำผักผลไม้ น้ำสมุนไพรสกัดและเครื่องดื่มลดน้ำหนักมีการโฆษณามากที่สุด และได้ส่งให้อย. พิจารณาแล้วว่าผิดกฎหมายใด เนื่องจาก กสท. ไม่มีอำนาจตัดสินได้ว่าผลิตภัณฑ์แบบใดเข้าข่ายผิดกฎหมาย และขอให้ผู้บริโภคที่รับชมสื่อท้องถิ่นโดยเฉพาะวิทยุชุมชน ที่เป็นสถานีหลุมดำหรือสถานีเถื่อน อย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์ที่มีสรรพคุณโอ้อวดเกินจริงว่าช่วยรักษาให้หายขาดได้.

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:

ส.ผู้ผลิตข่าวออนไลน์ แนะช่วงการชุมนุมให้เสพข่าวจากเว็บสื่อหลัก

ส.ผู้ผลิตข่าวออนไลน์ แนะช่วงการชุมนุมให้เสพข่าวจากเว็บสื่อหลัก

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เตือนนักข่าวตรวจข่าวข้อเท็จจริงก่อนโพสช่วงสถานการชุมนุมทางการเมือง หวั่นตกเป็นเครื่องมือฝ่ายตรงข้าม แนะปชช.เสพข่าวจากเว็บไซต์ข่าว…

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) กล่าวถึงการโพสต์ข้อความช่วงสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองว่า นักข่าวต้องรายงานความเคลื่อนไหว แต่ในสถานการการเมืองให้ช่างใจว่า แม้จะเป็นสิ่งที่เห็นด้วยตนเองแต่อาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด และอาจตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของอีกฝ่าย

“ในช่วงสถานการล่อแหลมให้นักข่าวช่างใจว่า แม้จะเป็นสิ่งที่เราเห็นแต่อาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด และให้คำนึงถึงเวลาที่โพสต์จะมีผลกระทบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเป็นเครื่องมือให้อีกฝ่าย” ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าว

นายชวรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่รับข่าวสาร อย่าเชื่อข่าวลือ ควรเสพข่าวให้หลากหลาย และเน้นการเสพข่าวจากเว็บข่าวเป็นหลัก เพราะเว็บข่าวเป็นมืออาชีพจะมีการกลั่นกรองมากกว่าเว็บอื่นๆ ที่มีการรายงานข่าว

นายมานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การใช้โซเชียลมีเดียรายงานข่าวผิด หรือปลุกระดมมวลชนช่วงสถานการณ์การเมือง ในฐานะสื่อมวลชนควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ใจก่อน และผู้บริโภคควรตรวจสอบ โดยใช้กาลามสูตร หรือวิธิปฏิบัติต่อสิ่งตนเองสงสัย ก่อนเผยแพร่หรือกระจายข่าวต่างๆ เพราะบางครั้งสิ่งที่กระจายไปอาจไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ถ้ากระจายไปแล้ว ตรวจสอบว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ต้องขอโทษ โดยเฉพาะนักข่าว เพราะเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด.

ที่มาของข้อมูลจาก
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ

Tags:
,