เลิก พรก.ฉุกเฉินวันนี้
Posted by admin on
September 14, 2008
“สมชาย”รุดหารือ”อนุพงษ์”เตรียมยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช้าวันอาทิตย์นี้เนื่องจากแนวโน้มมีเหตุการณ์รุนแรง โดยมอบ”พัชวาท” ดูแลความสงบหากเกินกำลังก็สามารถร้องขอทหารช่วยได้ ด้านพันธมิตรฯ ประกาศไม่เอา 3 ส.อ้างมีปัญหาทั้ง 3 คน 17 ก.ย. เสนอเข้าสภาฯ มีปัญหาแน่ เรียกร้อง รัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลสมานฉันท์แก้ปัญหา สร้างการเมืองใหม่หลังเลือกตั้ง ถ้าไม่ได้ตามนี้ชุมนุมยืดเยื้ออีกร้อยวันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต
พบถุงยางลอยเกลื่อนทำเนียบฯ
ความคืบหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 13 ก.ย. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯช่วงเช้า เป็นวันที่เงียบเหงามาก เพราะฝนได้ตกต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนติดต่อกันสามวันสามคืน ทำให้ผู้ชุมนุมบางตามากแม้ว่าจะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม รวมทั้งการชุมนุมที่ยืดเยื้อและสภาพ อากาศที่แปรปรวนผู้ชุมนุมจำนวนมากต้องกลับไป พักผ่อนที่บ้านหลายวัน เนื่องจากมีอาการป่วยส่วน ใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจ ซึ่งวันนี้มีผู้ชุมนุมได้รับยาจากเต็นท์พยาบาลตลอดทั้งวัน รวมทั้งการปราศรัยบนเวทีก็ยังไม่มีการเปิดประเด็นใหม่ มีเพียงการนำข่าวมาเล่าและการพูดจาเหน็บแนมด่าทอรัฐบาลของนางสาวอัญชลี ไพรีรักษ์ พิธีกรบนเวทีตลอดช่วงเช้า สำหรับเวทีมัฆวานฯ ไม่มีการจัดกิจกรรมใด ๆ ทำให้ผู้ชุมนุมที่ปักหลักได้แต่นอนพักผ่อนตามเต็นท์ และสังเกตเห็นว่าบริเวณท่อระบายน้ำหน้าประตูทำเนียบฯ ประตู 8 มีถุงยางอนามัยใช้แล้วลอยเกลื่อนขึ้นมาเพราะน้ำระบาย ไม่ได้
ต้องเปลี่ยนระบบการเมือง
ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ แถลงข่าวย้ำจุดยืนว่า แม้ว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธ มิตรฯ ที่มาบุกยึดทำเนียบเป็นเวลา 17 วันแล้วก็ตาม ก็ยังจะปักหลักชุมนุมฯ ที่ทำเนียบฯ ต่อไป จนกว่ารัฐบาลชุดนี้จะลาออกทั้งคณะ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเป็นคนในพรรคพลังประชาชน หรือพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม ก็จะไม่ยุติการชุมนุมฯ เพราะการชุมนุมฯ ที่ผ่านมา 112 วัน ทำให้ประชาชนได้เข้าใจว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลงระบบการเมือง และเรียนรู้ในเรื่องการเมืองใหม่ที่ดีกว่าการเมืองเก่าอย่างแน่นอน จะเห็นได้จากประเด็นที่รัฐบาลพยายามทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้องเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงประชาชนเลย
การเมืองใหม่ยึดทำเนียบฯได้
พล.ต.จำลอง กล่าวว่าให้ประชาชนเปรียบเทียบดูระหว่างการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เราพยายามเสียสละเพื่อประชาชน หาทางออกให้กับบ้านเมือง แตกต่างจากรัฐบาลล้วนแต่สร้างความเสียหายให้เกิดกับบ้านเมืองเพียงเพื่อผล ประโยชน์ของตนเอง รัฐบาลที่ผ่านมาของการเมือง เก่ามีแต่ทำให้บ้านเมืองล่มจมแต่นักการเมืองร่ำรวยขึ้นกันถ้วนหน้า เราจะปล่อยให้บ้านเมืองอยู่กับนักการเมืองขี้โกงอย่างนี้ไม่ได้ จะต้องมีระบบสรรหาที่เอาคนดีมีความรู้ในสาขาอาชีพต่าง ๆ เช่น ผู้นำกรรมการ ผู้นำแรงงาน เข้ามาในสภาให้มากขึ้น เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ ตนไม่อยากพูดอะไรมากเรื่องนี้เพราะไม่ใช่หน้าที่ของพันธมิตรฯ ที่จะเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะ ขณะนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองหลายฝ่ายก็เห็นด้วยกับการเมืองใหม่ เรามีหน้าที่ชุมนุมเรียกร้องก็ต้องชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้การเมืองใหม่และ ไล่รัฐบาลชุดนี้ออกไปได้ ซึ่งการมาบุกยึดทำเนียบฯ นี่ก็เป็นการเมืองใหม่ที่ประชาชนมีส่วน ร่วมในการปกครองการบริหารประเทศ ประชาชนสามารถเข้าไปได้ทุกสถานที่
ยืนยันจะไม่รับตำแหน่งใด ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากหัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์มาเป็นนายกรัฐมนตรี พันธมิตรฯ จะออกจากทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.จำลอง ทำท่าอ้ำอึ้งสักพัก ก่อนที่จะกล่าวว่าเราต้องทำตามสถานการณ์ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีการประชุมประเมินสถานการณ์ อีกครั้ง ยังบอกไม่ได้ว่าจะออกจากทำเนียบฯ หรือไม่ เพราะมาตรการต่าง ๆ เราต้องถามประชาชน หากไม่มีประชาชนมาร่วมชุมนุมกับเราก็คงอยู่มาไม่ได้ถึงตอนนี้ ชอบพูดกันเสมอว่ามีรัฐบาลใหม่เดี๋ยวพวกเราก็ออกมาไล่อีก แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่ดี มีคุณธรรมก็คงไม่มีพวกเรา พวกเราชุมนุมมาสร้างประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมากมายซึ่งวันนี้เศรษฐกิจ แย่ก็ต้องยอม หากในวันหน้าประเทศชาติดีขึ้น ตน ชุมนุมมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่ไม่เคยหวังผลประโยชน์ส่วนตัวหากมีการเมืองใหม่ตน จะไม่รับตำแหน่งใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนแกนนำอีก 4 คนตนไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
คาดมีเหตุวุ่นวายก่อน 17 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่แกนนำพันธมิตรฯระบุว่าในช่วง 5 วัน เป็นวันอันตรายอาจจะมีมาตรการเป่านกหวีด นายสมศักดิ์ กล่าวว่าต้องหาข่าวประเมินสถานการณ์ก่อน และมาวิเคราะห์กันว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือมีมาตรการอย่างไร เพราะช่วงนี้จนถึงวันที่ 17 ก.ย. ที่รัฐบาลจะต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดทั้งการหาตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ศาลอาญาแผนกคดีอาญานักการเมืองจะตัดสินคดีที่ดินรัชดาของนายใหญ่ ซึ่งจะต้องมีลิ่วล้อออกมาสร้างสถานการณ์อีกมากมาย เป็นช่วงที่พันธมิตรฯ ต้องระวังและต้องประชุมหารือวางมาตรการรับมือกันอย่างไรต่อไปหากมีการ เปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ๆ ทางการเมืองให้ประชาชนช่วยกันจับตาดู อาจจะมีการขน นปช. มาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในช่วงที่น้องเขยทักษิณ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นรักษาการนายกฯ
เชื่อรัฐบาลอยู่ได้อีกไม่นาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตรการขับไล่รัฐบาลได้อย่างเด็ดขาดหรือไม่ แม้แต่โดนศาลพิพากษาทั้งคณะแล้วก็ยังไม่ยอมลาออก นายสมศักดิ์ กล่าว ว่าประเทศไทยโชคร้ายที่สุดที่มีรัฐบาลหน้าด้าน หาก เป็นประเทศอื่นลาออกไปนานแล้ว แต่ทุกวันนี้รัฐมนตรีใน ครม.ชุดนี้ลองไปเดินตลาดดู หากไม่โดนแม่ค้าขว้างหน้าเอาให้มาด่าพันธมิตรฯ ได้ เชื่อ ว่ารัฐบาลจะอยู่ได้อีกไม่นานต้องลาออกทั้งคณะแน่นอน เพราะสภาพตอนนี้รัฐบาลถือว่าเป็นกบฏ ต้องโดนข้อหากบฏมากกว่าพันธมิตรฯ เพราะทำผิดกฎหมายทั้งอาญาและกฎหมายรัฐธรรมนูญหากยังบริหารประเทศต่อไปก็ยิ่ง มีความผิดมากขึ้น
ระวังผู้อ้างชื่อพลังธรรมเรี่ยไร
เมื่อเวลา 14.15 น. พล.ต.จำลอง ศรี เมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาลประกาศไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบริจาคเงินให้กับกลุ่ม ที่อ้างชื่อว่ากลุ่มพระร่วมพลังธรรม ที่แจกใบปลิวให้เชิญชวนผู้ชุมนุมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย โดย สามารถบริจาคได้ที่เลขบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เป็นการแอบอ้างชื่อพลังธรรมเท่านั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เคยขอรับบริจาคแบบนี้ ที่ผ่านมาจะมีการตั้งจุดรับบริจาคอยู่แล้ว อย่าไปทำจะเป็นการเสียเงินเปล่า
หลังจากนั้น เมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักเช่นทุกวัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่างพากันหลบฝนในเต็นท์ ขณะที่มีน้ำท่วมในจุดต่าง ๆ จากเศษขยะที่ไปอุดในท่อระบายน้ำส่งกลิ่น เหม็นไปทั่วบริเวณ
เยาวชนกู้ชาติตั้งโต๊ะล่าชื่อ
ส่วนที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ในช่วงบ่าย มีกลุ่มเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติ (Young PAD) ออกมาจัดกิจกรรมเพื่อปลุกระดมให้นักเรียน นักศึกษา ออกมาขับไล่รัฐบาล โดยได้ตั้งโต๊ะลงรายชื่อของนักศึกษาที่มาร่วมชุมนุมจากสถาบันต่าง ๆ เพื่อรวบรวมรายชื่อให้เป็นเครือข่ายเดียวกัน นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรม นำผ้าขาว 2 ผืน กว้างผืนละ 1 เมตร โดยบนผ้าขาวได้มีข้อความที่นักเรียน นักศึกษาได้เขียนแสดงความคิดเห็นในการขับไล่รัฐบาล วางยาวที่พื้นจากเวทีมัฆวานฯ ไปสิ้นสุดที่ อนุสาวรีย์ฯ ที่ชื่อว่า ?จุดยืนของคนรักชาติ? สูงประมาณ 4 เมตร โดยมีลักษณะเป็นโครงเหล็กที่พันด้วยผ้าสีเหลือง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับหน้ากระทรวง ศึกษาธิการเป็นจุดเด่น และทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีนักศึกษาเริ่มทยอยมาร่วมทำกิจกรรมกันมากขึ้น
นักวิชาการระบุ พธม.ล้ำเส้น
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเวลา 14.00 น. มีการเสวนาบทบาทนักศึกษาในสถานการณ์วิกฤติการเมือง โดยคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อดีเบต 4 ขั้ว ประกอบด้วย นายศตวรรษ อินทรยุทธ ตัวแทนสาธิตมัฆวาน (Young PAD) นายธนากร สัมมาสาโก ตัวแทนสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นายอนุธีร์ เดชเทวพร ตัวแทนองค์กรการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ (อมธ.) นายกฤติกร วงศ์สว่างพานิช ตัวแทนกลุ่มประชา ธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก (กปก.) โดย สนนท. อมธ. และ กปก. เห็นว่าการกระทำที่ผ่านมาของพันธ มิตรฯ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่อารยะขัดขืนโดยแท้จริง พร้อมทั้งเรียกร้องให้แกนนำทั้ง 9 คนมอบตัว แล้วต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้พันธมิตรฯ เคารพกติกา และการชุมนุมเรียกร้องโดยสร้างความรู้ความเข้าใจ กับประชาชนโดยไม่ควรล้ำเส้น เพื่อไม่ให้เกิดการ เผชิญหน้าทั้ง 2 ฝ่ายดังเช่นที่ผ่านมา ซึ่งอยากจะเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมควรกลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็น ในระบอบประชาธิปไตยโดยไม่ใช้ความรุนแรง
ด้านตัวแทนจากสาธิตมัฆวาน กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นักศึกษาที่ยังไม่ได้เลือกข้าง ออกมาเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทางการเมือง อย่ามัวแต่ไปเล่มเกมไร้สาระอยู่ ไม่ว่านักศึกษาจะเลือกข้าง พธม. หรือ นปช. ก็ยังเป็นการแสดงออกที่ดี ว่าคนรุ่นใหม่สนใจในบ้านเมือง ทั้งนี้โดยส่วนตัวเห็น ว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ เป็นอารยะขัดขืนต่อความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล การที่แกนนำ ทั้ง 9 คนยังไม่เข้ามอบตัว เพราะยังไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
เตือน นศ.อย่าเป็นเครื่องมือ
ส่วน นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สังคมเรามีความคิดที่แตกต่างหลายฝ่าย ซึ่งตนมี ความเป็นห่วงและคิดว่าการต่อสู้กับรัฐบาลที่มาจาก การเลือกตั้ง แต่ใช้อำนาจฉ้อฉล จะต้องกำหนดวิธี การและเป้าหมายให้แตกต่างจากการต่อสู้รัฐบาลทรราชในอดีต และควรทิ้งกรอบการต่อสู้แบบ 15 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 เนื่องจากพื้นฐานสังคม เปลี่ยนไปแล้ว สำหรับนักศึกษามีจุดเด่นที่สติปัญญา อย่าไปติดกับดัก รับเคลื่อนไหวให้กลุ่มการเมืองใด โดยนักศึกษาต้องเป็นผู้นำทางการเมือง ไม่ใช่ผู้ตาม อย่าไปเล่นการเมืองน้ำเน่า ต้องช่วยกันคิดว่าจะปฏิรูปให้หลุดจากการเมือง 2 ขั้วอย่างไร สำหรับตนมองการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ว่าเป็นปัญหาต่อเสถียรภาพทางการเมือง และสวนทางต่อประชาธิปไตย เพราะพันธมิตรฯ มุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองคือเจตจำนงของประชาชนทั้งหมด ทั้งที่พันธมิตรฯ เป็นเพียงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชน หากพันธมิตรฯ ต้องการเริ่มต้นการเมืองใหม่ ต้องยอมถอยเพื่อให้การเมือง กลับเข้าสู่ระบบเดิม และมีกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550
นายประจักษ์ กล่าวอีกว่า ถ้าอยากจะออกจากทางตันของการเมืองน้ำเน่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญ 2550 การที่แกนนำพันธมิตรฯ ออกมาเสนอการเมืองใหม่ ยื่นเงื่อนไขแตกหัก 70/30 ทั้งที่ตัวเองยังไม่รู้หน้าตาของการเมืองใหม่ที่ตัวเอง เสนอว่าจะเป็นอย่างไร และกลับยัดเยียดให้คนอื่น ยอมรับ ถือว่าเป็นสิ่งอันตรายมาก เพราะสังคมจะไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ กับการต่อสู้ครั้งนี้
ด้าน นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ตนยืนยันขอเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ มอบตัว ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกยิงทิ้งระหว่างทาง เพราะถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง จะยิ่งสะท้อนให้ประชาชนเห็นถึงความชัดเจนของระบบนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการต่อสู้ของขบวนการพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัติ บุญงาม อนันต์ หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังการรัฐประหาร ได้นำสติกเกอร์เบื่อพันธมิตรฯ และสติกเกอร์รณรงค์ให้ร่วมกันปลดความรุนแรงมาแจกที่หน้าห้องเสวนาด้วย
ศพ ?ณรงค์ศักดิ์? กลับบ้านเกิด
ส่วนที่วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประมาณ 300 คน ได้เคลื่อนศพ นายณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสงค์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ ผ่านมา โดยตั้งขบวนรถกว่า 20 คัน รถติดเครื่องขยายเสียงออกจากวัดเสมียนนารี ไปตามถนนประชาชื่น เลี้ยวขวาเข้าถนนสามเสน ผ่านหน้า รพ. วชิระ สน.ชนะสงคราม เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินไปวนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 3 รอบ และหยุดบีบแตร เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ดวงวิญญาณของนายณรงค์ศักดิ์ จากนั้นจึงเคลื่อนขบวนย้อนกลับไปตามถนนราชดำเนินกลาง ขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า มุ่งหน้าไปยังวัดใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อันเป็นบ้านเกิดของนายณรงค์ศักดิ์ เพื่อไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ศพ ?ณรงค์ศักดิ์? ถึงวัดท่าทุ่งนาฯ
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ขบวนศพ นายณรงค์ศักดิ์ ได้เดินทางถึง วัดท่าทุ่งนาฤทธาราม หมู่ 2 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมีผู้มาร่วมส่งศพประมาณ 300 คน โดยที่หน้าประตูวัดมีป้ายเขียนข้อความ แด่วีรชนผู้กล้ารักษาประชา ธิปไตย นางชบา สิงหกลางพล อายุ 70 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่าจะทำพิธีสวดพระอภิธรรมต่ออีก 3 วัน จากนั้นจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 20 ก.ย. นี้ เวลา 14.00 น. เนื่องจากตนไม่มีเงินพอที่จะสวดหลาย ๆ วัน จึงอยากขอให้ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่รักของผู้ตายมาร่วมงานศพ และออกค่าใช้จ่ายให้ด้วย เพราะเงินที่ได้รับมาแสนกว่าบาท ก็เหลือไม่พอดำเนินการแล้ว
รถไฟสายใต้เริ่มวิ่งให้บริการ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นต้นทางขบวนรถไฟสายใต้ ที่เริ่มต้นจากสถานีสุไหง โก-ลก ไปตามสถานีต่าง ๆ จำนวนถึง 14 ขบวน แยกเป็นขบวนท้องถิ่นหรือรถไฟฟรี 8 ขบวน รถดีเซลราง รถเร็ว หรือรถด่วนอีก 6 ขบวน หลังจากที่หยุดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. นั้น ล่าสุดเช้าวันนี้ รถไฟบางขบวนได้เริ่มทยอยวิ่งออก ให้บริการประชาชนอีกครั้ง แต่ยังให้บริการไม่ครบเนื่องจากต้องรอขบวนรถไฟจากสุราษฎร์ธานี นคร ศรีธรรมราช และกรุงเทพฯ มายังสถานีสุไหงโก-ลก โดยคาดว่าในวันที่ 14 ก.ย. รถไฟทั้ง 14 ขบวนจะออกวิ่งให้บริการครบทุกขบวน ซึ่งรถไฟขบวนแรกผู้โดยสารค่อนข้างน้อย เนื่องจากผู้โดยสารยังไม่ทราบว่ารถไฟเริ่มวิ่งให้บริการแล้วนั้นเอง
?สุริยะใส? ชี้ไม่ต้องนิรโทษกรรม
ต่อมาเวลา 19.10 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เปิดแถลงข่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน เสนอกฎหมายนิรโทษกรรม 9 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหากบฏ และอดีตผู้บริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนให้พ้นความผิดว่า พันธมิตรฯ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง และ 5 แกนนำก็ต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อการเมืองใหม่ การเสนอนิรโทษกรรมเป็นเหมือนการเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งขณะนี้เราได้ให้ทนายความไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลให้ยกเลิกหมายจับแล้ว คาดว่าศาลอุทธรณ์จะยกเลิกหมายจับให้กับ 9 แกนนำในข้อหากบฏ ส่วน 111 คนของพรรคไทยรักไทย เป็นความผิดชัดเจน แต่เราต่อสู้เพื่อการเมืองใหม่ให้การเมืองดีขึ้น ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ แกนนำทั้ง 9 คนก็จะไม่หนีคดีและไม่หนีศาล เราจะต่อสู้จนถึงที่สุด
ไม่เอา 3 ส.เป็นนายกฯนอมินี
นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อ 3 ส. คือ นายสมชาย วงศ์ สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เราเห็นว่าทั้ง 3 คนต่างมีความไม่เหมาะสม เพราะ นพ. สุรพงษ์ มีคดีหวยบนดิน นายสมพงษ์ ก็มีคดีอยู่ที่ดีเอสไอ ส่วน นายสมชาย ก็เป็นคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้ง 3 คนจึงไม่มีใครสามารถปลดความหวาดระแวงของประชาชนได้ เนื่องจากเป็นรัฐบาลนอมินีอยู่ดี ส่วนที่พรรค ประชาธิปัตย์ ก็ออกมาสนับสนุน นายสมชายนั้น ก็เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ แต่พันธมิตร ไม่สามารถรับทั้ง 3 คนได้ เพราะเป็นนอมินีอยู่ดี ไม่ใช่ว่าเราดื้อดึงที่เสนอใครก็ไม่รับ แต่นี่เรารับไม่ได้ เพราะในเวลานี้ควรจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลสมานฉันท์ จะเรียก อะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ให้พรรคพลังประชาชนมายัดเยียดให้เราเช่นนี้
17 ก.ย.ยื่นชื่อ 3 ส.มีปัญหาแน่
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ก็ออกมาเตือนแล้ว ให้มอง ไกล ๆ ไม่ใช่เรื่องตำแหน่งเพียงอย่างเดียว การเสนอชื่อทั้ง 3 คน เราจึงรับไม่ได้ เราต่อสู้มาแล้วร้อยกว่าวัน จะต่อสู้ต่อไปอีกร้อยวันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร การเมืองใหม่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งใหม่ ต้องไม่ใช่รัฐบาลนอมินี เราพร้อม ที่จะคุยกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าพันธมิตรฯ จะเสนอเอง ใครจะเสนอก็ได้ ต้องช่วยกันหาทางออก เรา ไม่ได้ยัดเยียดแนวคิด เราพร้อมที่จะหารือเพื่อหาทางออก 3-4 แนวทาง ซึ่งหน้าตารัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่การรัฐประหาร ซึ่งพันธมิตรไม่เห็นด้วย กับการยึดอำนาจหรือฉีกรัฐธรรมนูญ เราต้องการเปลี่ยนการเมืองใหม่ จะทำ
?สมชาย? รุดหารือ ?อนุพงษ์?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 18.15 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่บ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1รอ.) เข้าพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบและมอบอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ ไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากหารือกันกว่า 1 ชั่งโมงได้ข้อสรุปว่า เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้มีแนวโน้มอยู่ในทางปกติไม่มีเหตุการณ์รุนแรง รวมถึงหากมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุน และกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
ยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ดังนั้นจึงมีความเห็นตรงกันว่า จะยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะใช้กฎหมายปกติใน การปฎิบัติควบคุมสถานการณ์ พร้อมมอบหมายให้ ผบ.ทบ. เป็นผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย มีหน้าที่รับผิดชอบรักษาความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งแนวทางการปฏิบัติจะมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความไม่สงบภายใน หากเกินกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถร้อง ขอกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือในลักษณะผู้ช่วย เจ้าพนักงาน ซึ่งในวันที่ 14 ก.ย. เวลา 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. จะร่วมแถลงข่าวยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่กองบัญชา การกองทัพไทย.
tags: พรก, ยกเลิก พรก, ยกเลิกพรกฉุกเฉิน
No Comments
“สมัคร”ถอดใจ “ขอยุติทุกอย่างแค่นี้” อ้างรักษาประชาธิปไตยถึงที่สุดแล้ว ต่อไปโยนให้พรรคทำต่อ
Posted by admin on
September 13, 2008
” ท่านฝากบอก แมสเสจ สั้นๆว่า ได้ทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ ไป เป็นภาระของพรรคพปช.ที่จะดำเนินการต่อไป” … ” ท่านไม่ได้บอกอะไร ฝากให้แมสเสจมาแค่นี้ แต่นี้ไป ขอยุติทุกอย่าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรรคจะทำอย่างไร ท่านพูดมาแค่นี้ ”
P { margin: 0px; } “สมัคร”ถอดใจ ขอยุติทุกอย่างแค่นี้ ต่อไปให้พรรคทำต่อ ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์การเมืองล่าสุดว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 12 กันยายน หลังจากพรรคพลังประชาชน มีมติให้ 3 แกนนำพรรคมาเจรจากับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีว่า จะยังรับตำแหน่งนายกฯต่ออีกหรือไม่ ทำให้มีบรรดาสื่อมวลชนมาปักหลักทำข่าว ที่บ้านพักนายสมัคร หมู่บ้านโอฬาร ซอยนวมินทร์ 81 ย่านถนนนวมินทร์ จำนวนมาก จนกระทั่ง เวลา 18.30 น. นายธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวชได้ ออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเข้าหารือกับนายสมัครกว่า 1 ชั่วโมงเศษว่า “ท่านฝากบอก แมสเสจ สั้นๆว่า ได้ทำหน้าที่รักษาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุดแล้ว หลังจากนี้ ไป เป็นภาระของพรรคพปช.ที่จะดำเนินการต่อไป” ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำพรรค 3 คนมาหารือกับนายสมัครหรือยัง นายธีรพลกล่าวว่า “ท่านไม่ได้บอกอะไร ฝากให้แมสเสจมาแค่นี้ แต่นี้ไป ขอยุติทุกอย่าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรรคจะทำอย่างไร ท่านพูดมาแค่นี้” พปช.มีมติส่ง”สมชาย-สมพงษ์-เลี๊ยบ” ถก “สมัคร” ผู้สื่อข่าวรายงาน จากพรรคพลังประชาชน(พปช.) เมื่อเวลา 16.30 น. ว่า หลังจากที่กรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค ใช้เวลาหารือนานกว่า 4 ชั่วโมงเศษ ในที่สุด ได้มีมติว่า ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี 3 แกนนำคนสำคัญของพรรค ไปเจรจากับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีว่า จะยังนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ เมื่อได้คำยืนยันแล้ว จะเสนอให้ที่ประชุมพรรคอีกครั้งหนึ่ง ก่อนนำไปแจ้งให้กับ 5 พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อดำเนินการในการเสนอชื่อนายกฯต่อไป “เติ้ง”ให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล ยันไม่สลับขั้ว
เมื่อเวลา 15.30 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวกับสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่พรรคชาติไทยประจำปี 2551? ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่วันที่ 12 ก.ย. ว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 12 ก.ย. เป็นเรื่องที่ด่วนเกินไป ซึ่งพรรคชาติไทยมีจุดยืนว่า หากพรรคใดมีจำนวนส.ส.มากที่สุด พรรคชาติไทยจะเปิดโอกาสให้พรรคดังกล่าวจัดตั้งรัฐบาล แต่หากตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคที่มีคะแนนรองลงมาจึงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ? นายบรรหาร กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้พรรคชาติไทยจึงให้โอกาสพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล แต่ฝ่ายโจมตีก็บอกว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้นายสมัครพ้นจากนายกรัฐมนตรี เราก็หารือมาตลอดว่าจะทำอย่างไร พบว่าตอนนี้กระแสสังคม นักเรียน และนักศึกษาไม่เห็นด้วยกับการที่นายสมัครจะกลับเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง จากนั้น พรรคพลังประชาชนก็มาเชิญพรรคชาติไทยให้ร่วมรัฐบาลต่อไป ซึ่งเราก็ยินดี ขอยืนยันว่าเราจะไม่สลับขั้ว เพราะสลับอย่างไรคะแนนก็ไม่ถึง ? นายบรรหาร กล่าวต่อว่า คนที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ ถ้อยทีถ้อยอาศัย สมานฉันท์ และลดความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะไปไม่รอด จึงเห็นว่าควรขยายเวลาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป 3 – 4 วัน เพื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้ โดยให้คำนึงถึงความสงบสุขของประเทศ อันนี้จึงเป็นที่มาขององค์ประชุมไม่ครบ ? “ส่วนอีกพรรคหนึ่งไม่ต้องพูด ถึงคิดว่าหวานคอแร้ง มั่นใจว่าจะได้เป็นนายกฯ แน่ เกมต่อเกมก็ต้องแก้เกมกัน แต่ตอนนี้มันก็จบแล้ว ตอนนี้ผู้คนแตกแยกกันมาก บางเวทีก็ให้ข้อมูลที่ผิด ผมเคยพูดว่าวันนี้ประเทศชาติแย่อยู่แล้ว ในหลวงรับสั่งว่าบ้านเมืองใกล้ล้มจมแล้ว แต่ผมเชื่อในพระสยามเทวาธิราชว่ายังมีอยู่ อย่างไรเราก็ต้องช่วยกันกอบกู้ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืน ไม่ได้ทำอะไรหรอกแต่นั่งปรึกษาหารือกันว่าจะทำอะไร” นายบรรหาร กล่าว กลุ่มเพื่อนเนวินยังยืนกรานเสนอ “สมัคร” เป็นนายกฯ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.40 น. ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน จำนวน 20 คน นำโดย นายบุญจงค์ วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม แถลงประกาศเจตนารมย์ว่า จากเหตุการณ์ที่สภาไม่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบนั้น ส.ส.อีสานกลุ่มเพื่อนเนวิน จำนวน 83 คน ได้หารือร่วมกันและมีมติกลุ่มว่า ส.ส.ทุกคนในกลุ่มยังยืนยันที่จะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป นายบุญจงค์ กล่าวว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง ขอให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกสมัคร และหลังจากนี้การดำเนินกิจกรรมการทางการเมืองของกลุ่มจะเป็นบึกแผ่น ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนมีมติสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ถือว่าเป็นมติที่ใหญ่กว่ามติของกลุ่มเพื่อนเนวิน แต่ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาเราไม่เคยอ้างชื่อกลุ่มเพื่อทำการเคลื่อนไหว โดยเราฟังมติของพรรค แต่ในที่สุดเมื่อมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ส.ส.บางกลุ่มกลับไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ส่วนกรณีที่ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา และกลุ่มอื่นๆ รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมสภา ถือว่าเป็นการแสดงว่าไม่ยอมรับนายสมัครใช่หรือไม่นั้น นายบุญจงค์ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่มีความแตกแยก แต่เป็นเพียงความแตกแยกทางความคิด และเชื่อว่าถ้ามีการเสนอบุคคลอื่นแทนนายสมัคร ก็คงจะต้องมีการคุยกัน “จตุพร”บอกถ้าตกลงพรรคร่วมรบ.เหลว ก็ต้องยุบสภา
นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่มาร่วมประชุมเพื่อโหวตเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีว่า เป็นที่ชัดเจนว่าการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุมสภา เป็นการแสดงไมตรีจิตที่ดี ทำให้รู้ว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นอย่างไร ซึ่งขั้นตอนต่อไปภายในพรรคพลังประชาชน ก็คงต้องมีการปรึกษาหารือกันต่อไป ว่าจะตกลงกันอย่างไร “ถ้าสุดท้ายแล้วยังตกลงกันไม่ได้ ก็คงต้องให้วิธีการคืนอำนาจให้ประชาชนคือต้องยุบสภา สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก็เพราะมีนักการเมืองปล่อยข่าว ทำให้เกิดความไม่เข้าใจในตัวนายสมัคร” นายจตุพร กล่าว พปช.ชี้พรรคร่วมโดดเกรงมีปัญหาเหตุพรรคยังไม่ตกผลึก
เมื่อ เวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่าการที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมการประชุมสภาที่มีวาระสำคัญคือ เลือกนายกรัฐมนตรี จนทำให้สภาล่มนั้น ไม่น่าจะมาจากการที่พรรคเหล่านั้นไม่อยากเลือก นายสมัคร สุนทรเวช ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อาจจะเห็นว่าภายในพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นแกนของรัฐบาลยังมีความเห็นที่ แตกต่างกัน ยังไม่ตกผลึก เกรงว่าเลือกไปแล้วอาจจะมีปัญหา ดังนั้นภายในพรรคพลังประชาชนต้องคุยกันจนให้ได้ข้อสรุปก่อน โดยเฉพาะกับคนบางกลุ่มที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในเชิงไม่พอใจ ทั้งที่วานนี้ได้ประชุมไปถึง 2 ครั้งเพื่อทำความเข้าใจ โดยจะให้เสนอมาว่าต้องการอะไรกันแน่ นอกจากนี้ยังต้องนำเหตุการณ์ในวันนี้ไปถามนายสมัครด้วยว่ามีความรู้สึกอย่าง ไร
“หมัก”เข้าประชุมพรรค”กานต์” เผย 14ก.ย. รู้ตัวนายกฯ 99% ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่การประชุมสภาผู้แทนราษฏร ไม่สามารถประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ เนื่องจากไม่ครบองคประชุม เนื่องจาก พรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรค ไม่ได้เข้าร่วมประชุม พร้อมกับกลุ่มอีสานพัฒนา ในพรรคพลังประชาชนเอง ปรากฏว่า ทันทีที่ปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฏร?นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้เรียกประชุมด่วน ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในเวลา 10.30 น. ที่อาคารที่ทำการพรรค ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ? ข่าวแจ้งว่า ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค จากทุกกลุ่มทยอยเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการรมช.คมนาคม แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน แกนนำกลุ่มภาคเหนือ นายอนุชา สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม แกนนำกลุ่มนครปฐม นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธานส.ส.กทม.?? ? พ.ต.ท.กานต์? เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน คนใกล้ชิดนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนฯ? ให้สัมภาษณ์ ก่อนการประชุมว่า สำหรับการประชุมส.ส.พรรคพลังประชาชน จะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือการประชุมรวมทั้งส.ส.และกรรมการบริหาร และการประชุมเฉพาะกรรมการบริหาร โดยในที่ประชุมกรรมการบริหาร นายสมัคร สุนทรเวช จะเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงข้อดีข้อเสียกันด้วยเหตุผล รวมถึงเรื่องคดีความที่เป็นภัยคุกคามที่แสนสาหัสของนายสมัครจะต้องเผชิญใน อนาคต จากนั้นจะให้เวลานายสมัครได้ตัดสินใจสักพัก ก่อนที่นายสมัครจะแจ้งต่อที่ประชุมใหญ่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่สมมุติว่า นายสมัครไม่รับตำแหน่งก็จะยังไม่มีการพูดคุยถึงตัวบุคคลที่จะขึ้นมาแทน ซึ่งในวันที่ 14 กันยายนนี้ จะตกผลึก 99 เปอร์เซ็นต์ก็น่าจะเห็นความชัดเจน ? พปช.ให้”เนวิน”ร่วมประชุม”หมัก”ขอบคุณพรรคร่วมที่ไม่มา
พ. ต.ท.กานต์? เทียนแก้ว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเช้าวันนี้เป็นเรื่องดีที่ทำให้ส.ส.พรรคพลัง ประชาชนมารักกันมากขึ้น วันนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ส.ส.กลับมาสามัคคีกันเหมือนเดิม และนายกรัฐมนตรีต้องมาจากพรรคพลังประชาชน แต่โดยหลัการณ์แล้วอันดับแรกต้องเสนอชื่อนายสมัคร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน? เพราะเหตุการณ์วันนี้ทำให้เห็นว่าถ้าต่างคนต่างเดินก็ไปไม่ได้ ต้องรับฟังความเห็นเพราะ 223 เสียงในพรรคทุกคนมีความหมาย ดังนั้น การบริหารพรรคต่อไปก็คงจะมีการปรับเปลี่ยนรับฟังส.ส.มากขึ้น? สัญญาณวันนี้มีแนวโน้มที่ดีมาก ทุกฝ่ายเริ่มหันหน้าเข้ามาพูดคุยและเข้าใจกันมากขึ้น ทั้งนี้นายสมัครเองได้ฝากไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขอขอบคุณพรรคร่วมที่ไม่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ เพราะพรรคพลังประชาชนยังมีการจับขั้ว
เมื่อถามว่า หากนายสมัคร ประกาศสู้ต่อกลุ่มส.ส.ภาคเหนือ จะดำเนินการเหมือนในวันนี้หรือไม่ พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า นายสมัคร จะประกาศอย่างไรเราจะต้องให้เกียรติซึ่งในวันนี้เมื่อทราบผลการตัดสินใจของ นายสมัคร เราก็จะมาพูดคุยกันต่อ ถ้าท่านประกาศสู้ต่อก็จะต้องมาดูว่านายสมัคร จะมีแนวทางการทำงาน การบริหารพรรค และจะดูแลส.ส.ในพรรคอย่างไร
เมื่อถามว่าจะเชิญนายเนวิน เข้าร่วมประชุมกรรมการบริหารด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ก็คงเชิญนายเนวินด้วย เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ถือเป็นการให้บทเรียน กับกลุ่มนายเนวินหรือไม่ พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เป็นบทเรียน แต่เป็นธรรมชาติของพรรคการเมือง ความที่คิดไม่มีอะไรก็จะเดินไปเรื่อย แต่เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมาปรับเปลี่ยน อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าวันนี้บ้านเมืองยังเดินหน้าต่อไป จึงยังไม่จำเป็นถึงขั้นที่จะเสนอให้มีการยุบสภา
ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1221198942&grpid=00&catid=01
Tags: พันธมิตร, สมัครtags: พันธมิตร, สมัคร
No Comments
สภาล่ม! ส.ส.แหยง ?หมัก? นั่งนายกฯ สั่งเลื่อนประชุม 17 ก.ย.
Posted by admin on
September 12, 2008
ส.ส.พรรคพลังประชาชน ตีรวนไม่ยอมเข้าร่วมประชุม ส่งผลให้สมาชิกมีเพียง 161 เสียงไม่ครบองค์ประชุม ไม่สามารถเสนอชื่อ ?สมัคร? ได้ทำให้การลงมติเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 17 ก.ย.นี้
วันนี้ (12 ก.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. ได้เริ่มส่อส่อเค้าวุ่นวายตั้งแต่เริ่มต้นการประชุม เมื่อ ส.ส.หลายคนจากพรรคพลังประชาชน ต่างแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า อยากให้เสนอเลื่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปจาก วันนี้ (12 ก.ย.) เพราะเห็นว่าชื่อของนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นไปตามมติของพรรคพลังประชาชนอาจก่อให้เกิดปัญหา และบอกว่าถ้าไม่มีการเลื่อนออกไป ส.ส.อาจใช้เอกสิทธิ์ระหว่างการโหวตคะแนนนายกรัฐมนตรี
หลังการนับสมาชิกองค์ประชุมปรากฏมีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 161 เสียง เนื่องจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้ใช้เอกสิทธิ์ไม่เข้าร่วมประชุม ส่งผลให้การประชุมวันนี้ไม่มีการเสนอนายสมัคร สุนทรเวช เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนับองค์ประชุมใหม่โดยวิธีขานชื่อแต่ถูก ส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลคัดค้าน ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งปิดการประชุมและให้เลื่อนไปประชุมใหม่ในวัน พุธที่ 17 ก.ย.นี้
ที่มา : http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000108158
Tags: พันธมิตร, สภา, สมัครtags: พันธมิตร, สภา, สมัคร
No Comments
?อี้ แทนคุณ? ร่วมเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ถวายฎีกาไม่เอา ?สมัคร? เผยทำเพื่อชาติ ต้านคนโกงไม่ให้กลับมาทำชั่วในสภา
Posted by admin on
September 12, 2008
?อี้ แทนคุณ? นำทีม 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ถวายฎีกา ?ไม่เอาสมัครเป็นนายกฯ? วอนเจ้าตัวสำนึก ลดละเลิกอยากได้ตำแหน่ง ลั่นไม่อยากได้คนคดโกงเข้ามาทำชั่วในสภา
หลังจากที่พรรคพลังประชาชนมีมติสนับสนับให้ ?สมัคร สุนทรเวช? กลับเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดนจะมีการเสนอชื่อเข้าสภาในวันพรุ่งนี้นั้น ส่งผลให้ 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ได้ตัดสินใจรวมตัวกันถวายฎีกาไม่เอาสมัครเป็นนายกฯ โดยมี ?อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ? ดาราและพิธีกรชื่อดังเป็นหนึ่งในตัวแทนขององค์กรต่างๆ เข้าถวายฎีกาด้วย
ดาราพิธีกรชื่อดังได้เปิดเผยถึงเหตุที่จะต้องถวายฎีกาว่าเป็นเพราะ นายสมัครขาดจริยะธรรม ทำความผิดไม่สมควรกลับมาเป็นนายกฯ วอนให้สำนึก ลดละเลิกอยากได้ตำแหน่ง ย้ำชัดอย่าเอาคนโกงกลับมาทำชั่วในสภาอีก
?ผมเป็นตัวแทนในนาม 84 องค์กรเครือข่ายต้านคอรัปชั่นเพื่อช่วยทำให้ปัญหาคลี่คลายและยุติ โดยองค์กรของเรานั้นจะเน้นย้ำป้องกันไม่ให้เกิดการคอรัปชั่น สร้างมาตรฐานคุณธรรมต่อสังคม คนคดโกงไม่ควรได้รับสิทธิพิเศษในการอยู่รอด ไม่งั้นก็จะเป็นต้นแบบไม่ดีกับเยาวชน คนที่ทุจริตประพฤติไม่ดีไม่เหมาะสม กลับมาเป็นผู้นำประเทศอีก บางคนอาจจะไม่กลัวเพราะมีสิทธิมีอำนาจ และพร้อมจะกลับมาทำชั่วในสภาได้อีก?
?โดยส่วนตัวเราไม่ได้มีเรื่องกับใคร ไม่ได้มีอะไรกับคุณสมัคร วันนี้ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใครเราก็จะทำแบบนี้ ต้องทำให้เป็นต้นแบบต่อไป ผมเองทำงานเพื่อภาคประชาสังคมประมาณ 7 – 8 ปีแล้ว และเป็นประธานกลุ่มธรรมมะเยาวชน เน้นความพอเพียง เสียสละ ซื่อสัตย์ เราทำงานเยาวชนมาเยอะ ถ้าพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งคนเขาจะไม่เชื่อถือ มันไม่ได้สำคัญที่ตัวเรา สำคัญที่ต้นแบบคนที่เป็นตัวอย่าง ถ้าต้นแบบสร้างมาไม่ดีประเทศชาติก็จะพังพินาศ เราสอนให้เขาซื่อสัตย์อย่าโกง แต่ถ้าสิ่งที่สอนกับสิ่งที่ทำขัดแย้งกันสิ้นเชิง แล้วองค์กรเราจะไปสอนเยาวชนได้อย่างไร?
?นักการเมืองยุคนี้เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไปสร้างเด็กรุ่นใหม่ดีกว่า ไม่งั้นเกิดเด็กไปเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี และยึดเอาไปปฏิบัติตามจะทำให้ประเทศชาติพินาศกว่าเดิม?
?นายกไม่ใช่บุคคลธรรมดา เป็นคนสาธารณะ เรามีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องถ้าเห็นว่ามันไม่ถูกไม่ควร ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกลียดใครมาก ชอบใครมาก หรือแค้นใครมาก แต่เป็นการทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย การมีส่วนร่วมบนความถูกต้อง เพื่อที่เขาจะได้ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเราต้องทำให้เป็นมาตรฐานของนักการ เมือง ไม่ใช่มีอำนาจก็สามารถซื้อได้ทุกอย่าง?
?เด็กในวันนี้วันหนึ่งก็ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ซักวันหนึ่งก็ต้องแก่เฒ่า จะได้อยู่อย่างสงบสุข ท่าน เองก็สูงอายุขึ้นทุกวัน น่าจะได้อยู่อย่างภาคภูมิใจมีศักดิ์ศรีที่ไม่ทำผิดไม่ละอายว่าเคยทำอะไรลงไป ขอให้มีความละอายในการทำชั่วกลัวบาป คนเราไม่ทำชั่วก็เพราะกลัวบาปกรรม เมื่อกลัวแล้วจะได้ทำบาปน้อยลง ทุกวันนี้มีอำนาจเยอะ แต่อย่าลืมว่าอำนาจนั้นมาจากประชาชน ถ้าสำนึกจริยธรรมไม่มีก็ต้องให้โอกาสเขาปรับตัว ทำดีคนก็ชื่นชมศรัทธา แต่ถ้าทำชั่วก็ต้องเชิญออก?
?ขอยืนยันว่าเราไม่ได้รักใครชอบใคร แต่ที่ต้องออกมาทำตรงนี้เพราะปัญหามันจะไม่มีที่สิ้นสุดไล่ไปก็มาใหม่ ฉะนั้นเราต้องแก้ที่ต้นเหตุ และที่เลือกวันพรุ่งนี้เพราะอาจมีการปะทะกัน ถ้าไม่ทำอะไรมัวแต่หลบอยู่เฉยๆ ดีกว่า เดี๋ยวก็แก้ปัญหาเองได้มันไม่ได้ ต้องช่วยกันอย่าผลักภาระแล้วอยู่เฉยๆ ไม่เจ็บตัวไม่ถูกใครว่า แล้วถ้าเราไม่ทำใครจะทำผลักไปเรื่อยๆ?
?ที่ ผ่านมาทางองค์กรได้ติดตามมาสถานการณ์มาตลอด และคิดว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะจบ น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็จะเสนอชื่อเข้ามาอีก มันชัดเจนแล้วว่าพึ่งนักกากรเมืองไม่ได้ พึ่งระบบเดิมๆ ไม่ได้ การเมืองใหม่ที่เราอยากเห็นคือคนไทยมีส่วนร่วมมากที่สุด ใครก็ได้ที่จะทำอะไรเพื่อเรียกร้องให้เกิดความถูกต้องไม่ทุจริตคอรัปชั่นก็ ทำเถอะครับ?
?การ ที่เขาไม่อยากจะสำนึก ก็อยากให้เห็นแก่ส่วนรวมว่า ตำแหน่งบางตำแหน่งไม่เหมาะสมก็ขอให้ละเลิกความอยากนั้นเสีย ถ้าเลิกไม่ได้มันไม่สง่างาม ในเมื่อศาลก็ตัดสินออกมาแล้วว่าคนนี้มีความผิดจริง ถึงแม้จะเป็นความผิดเล็กๆ แต่มีผลต่อภาพลักษณ์?
?ท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ผมไม่ได้ก้าวร้าวอะไร แต่มันเป็นการทำงานที่ใหญ่หลายองค์กร ผมเป็นประชาสัมพันธ์อบรมเด็กเยาวชน ได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่อบรมบ่มสอน พวกเราสำนึกมาตลอดว่า ถ้าเราไม่ร่วมเด็กเยาวชนทำเฉย พอชาติพังก็รับแต่ซากปรักหักพัง ถูกโกงกินจนหมดแล้วจะไปเรียกร้องอะไร ตอนนี้ประชาธิปไตยก้าวหน้าไปมาก เราต้องลุกออกมาแสดงออกสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เอาคนโกงไม่เอาคนทุจริต?
แม้ว่าการเลือก ?สมัคร? กลับมาอีกครั้งจะเป็นไปได้ตามหลักกฏหมาย แต่มันผิดหลักจริยธรรม
?จริยธรรมสำคัญกว่านะ กฏหมายมีช่องโหว่โดนแบบนี้กลับมาได้อีก การ ที่ศาลตัดสินแบบนี้คือการลงโทษที่สุดแล้วสำหรับผู้นำประเทศ ไม่ควรจะกลับมาอีก ควรจะคิดได้เองเลยไม่ได้มีการเขียนบทลงโทษ แบบนี้ถือว่ารุนแรงแล้วควรที่จะรู้ตัวเองแล้ว บางตำแหน่งให้คนอื่นทำดีกว่าเหอะ ถ้ามีมลทินแล้วให้คนอื่นทำ ถ้าเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียวก็ออกไปเถอะ?
เผยการเมืองมาถึงทางตัน ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังเลือกสมัครเป็นนายกฯ ประชาชนจะหมดศรัทธา
?ถ้าพรรคร่วมยังจะเลือกเขาเป็นนายกฯ ก็คงจะแล้วแต่จิตสำนึกนะครับ มันถึงทางตันแล้ว วันที่ 25 ที่จะถึงนี้ก็จะมีการตัดสินคดีเกิดขึ้นอีก คำตอบก็มีอยู่แล้ว ความศรัทธาของพรรคต่างๆ ก็จะก็ลดลงไปด้วย ประชาชนกับพรรคการเมืองต้องพึ่งพาอาศัยกัน นักการเมืองไม่มีอุดมการณ์ประชาชนก็ไม่ศรัทธา เมื่อไม่ศรัทธาก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือ คิดว่าอนาคตอันใกล้คนไทยคงได้เห็นนิสัยจริงๆ ของนักการเมืองแต่ละคนแต่ละพวก ว่าควรค่าที่เชื่อใจหรือไม่?
?การที่นักการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ศาลก็เหมือนกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เราควรจะเคารพศาลคนที่ไม่เคารพศาลไม่เคารพกฏหมายก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ ก็ไม่รู้วาเบื้องหลังมีใคร มีกฏหมายเตือนไว้อย่าละเมิดอำนาจศาล ถ้าละเมิดก็จะแย่ด้วยตัวเราเอง?
?วันนี้ประเทศชาติมันแย่แล้ว เราออกมาทำตรงนี้ไม่ได้คิดว่าโหนกระแส ไม่ได้รอจังหวะ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง พรุ่งนี้คาดการณ์ว่าจะเกิดการแตกหักปะทะกัน ถ้าการกระทำบางอย่างช่วยลดความเปลี่ยนแปลงตึงเครียดก็ต้องทำ ถ้าการกระทำด้วยวิธีใดๆ สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์รุนแรงได้ถือเป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่มาก?
?ฉะนั้นเราต้องหาวิธีทางที่ทำให้เขาเชื่อ ซึ่งการถวายฎีกาน่าจะเป็นทางรอดทางเดียวในสังคมปัจจุบันที่กำลังหาที่พึ่ง?
โดยในวันนี้เวลา 13.00 น. จะมีการนัดรวมตัว 84 องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นที่บริเวณวัดพระแก้ว เพื่อทำพิธีสวดมนต์ และจะเดินทางไปถวายฎีกาที่สำนักราชเลขาธารเวลา 13.30 น.
ที่มา : http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9510000108100
Tags: 84องค์กร, พันธมิตร, สมัคร, อี้, อี้ แทนคุณ, แทนคุณ‘สมัคร’พ้นนายกฯชิมไปบ่นไปพ่นพิษ
Posted by admin on
September 10, 2008
มติศาล รธน.9 ต่อ 0 เสียง พปช.ดันนั่งเก้าอี้รอบ 2
รายการอาหารเป็นพิษ”ชิมไปบ่นไป”และ”ยกโขยง 6 โมงเช้า”ทำเก้าอี้นายกฯพังศาลตัดสินผิดเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียงขัดรัฐธรรมนูญ ยันรับเงินจากรายการยังไงก็เป็นลูกจ้าง ด้านพลังประชาชนประกาศ ?สู้? ผนึกกำลังพรรคร่วมหนุน ?หมัก? กลับขึ้นสู่เก้าอี้อีกรอบ ด้าน ?ป๋าเติ้ง? แหยงเปรยไม่กล้ารับตำแหน่งกลัวอายุสั้น ยอมรับทนเสียงด่าไม่ไหว ด้าน ปชป.ฉวยโอกาสอันน้อยนิดหวังเปลี่ยนขั้ว อ้างเพื่อให้บ้านเมืองสงบ นักวิชาการชี้ช่องทางเปิด แนะนักการเมืองหาทางออกให้ดี สื่อนอกทุกสำนักตีข่าวด่วนไปทั่วโลก ?สมชาย? รักษาการแทนชั่วคราว ก่อนโหวตเลือกนายกฯใหม่วันที่ 12 ก.ย.
?หมัก? ทัวร์ตลาดเมืองอุดร
เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ จ.อุดรธานี มีการประชุม ครม.สัญจร มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งภายในบริเวณศาลากลางที่ใช้เป็นสถานที่ประชุม มีกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลใส่เสื้อแดงมาให้กำลังใจประมาณ 400 คน ไม่มีกลุ่มต่อต้าน ขณะนี้บรรดารัฐมนตรีส่วนใหญ่ให้ความสนใจและจับกลุ่มพูดคุยกันถึงทิศทางทาง การเมือง โดยเฉพาะคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุม ครม.นายสมัครได้ไปรับประทานต้มเลือดหมูที่ร้านชัยเซ้ง จากนั้นได้เดินเยี่ยมชมตลาดสดอย่างอารมณ์ดี ได้รับการต้อนรับจากพ่อค้าแม่ค้าบางคนนำดอกกุหลาบและพวงมาลัยมามอบให้ พร้อมบอกให้สู้ต่อ ทั้งนี้นายสมัครได้ซื้อของกลับหลายอย่าง อาทิ ไส้กรอกอีสาน หมูยอ กุน เชียง ต่อมาได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเพื่อเป็นประธานมอบธงในโครงการ ?จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วันสร้างสามัคคี? และกล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันมีความคิดที่ขัดแย้งและแตกแยกกัน หวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้คนไทยคลายความเร่าร้อนและความตึงเครียดลงได้
ไม่เครียดคำพิพากษาของศาล
จากนั้นนายสมัครได้เดินมายังห้องประชุม ซึ่งก่อนเข้าห้องผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามว่า คุณพร้อมหรือยัง นายสมัครตอบว่า พร้อมหรือไม่พร้อมเราก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาล เมื่อถามว่า ยังจะไปประชุมยูเอ็นอีกหรือไม่ เพราะศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ไปฟังคำพิพากษาด้วยตนเองในคดีหมิ่นประมาทในวัน ที่ 25 ก.ย. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอศาลจะว่าอย่างไรก่อน เมื่อถามย้ำว่า ศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว นายสมัครได้ย้อนถามกลับอย่างอารมณ์ดีว่า สั่งแล้วหรือ จากนั้นได้เดินเข้าห้องรับรองโดยไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม. สัญจรได้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลา 12.20 น. โดยรัฐมนตรีได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวมารออยู่จำนวนมาก ก็สอบถามว่ามาจากที่ไหนกันบ้าง อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตทางการเมือง นายสมัครไม่ตอบและเดินขึ้นรถทันทีด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดกลับ กท.
นัดต่อไปบุกบ้าน ?เติ้ง?
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม ครม.นายสมัครได้กล่าวกับบรรดารัฐมนตรีว่า วันนี้ต้องประชุม ครม.ให้เสร็จก่อนเที่ยงครึ่ง เพราะถ้าเผื่อมีการตัดสินใจอะไรขึ้นมาจะได้ไม่มีปัญหา และขอให้รอฟังการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณีรายการชิมไปบ่นไป
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ก่อนที่จะจบการประชุมนายสมัครได้กล่าวขอบคุณ ส.ส. และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้อำนวยความสะดวกในการมาประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ พร้อมย้ำอีกว่าการประชุม ครม.นัดต่อไปจะมีขึ้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยขอฝากให้นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ จากพรรคชาติไทย ช่วยดูแลและประสานงานรวมถึงช่วยเรียนให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยทราบด้วย
สื่อไทยเทศแน่นศาลรัฐธรรมนูญ
ทางด้านศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวราย งานบรรยากาศก่อนการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า มีผู้สื่อข่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณ 200 คน มาเฝ้ารอทำข่าวการอ่านคำวินิจฉัย จนกระทั่งเวลา 13.00 น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนนายสมัครประมาณ 30 คนมาให้กำลังใจ โดยนายสมัครได้มอบหมายให้นายธนา เบญจาธิกุล ทนายความผู้รับมอบอำนาจมารับฟังแทน และ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.น. พร้อมกำลังตำรวจ 80 นาย เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับกำหนดการอ่านคำวินิจฉัยเดิมนายชัช ชลวร ประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดอ่านในเวลา 14.00 น. แต่เมื่อถึงเวลานัด ทางเจ้าหน้าที่ศาลยังไม่ยอมให้ผู้ที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาเข้าสู่ห้อง พิจารณาคดี และได้มีการประกาศแจ้งจากนาย ไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ให้ทราบว่า ขอเลื่อนการอ่านคำวินิจฉัยออกไปเป็นเวลา 15.30 น. โดยปฏิเสธที่จะบอกเหตุผลที่เลื่อนเวลาออกไป และปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าศาลเลื่อนการพิจารณาเพื่อรอนายสมัครมารับฟังคำ วินิจฉัยด้วยตัวเอง
มติเอกฉันท์ ?หมัก? พ้นตำแหน่ง
ต่อมาคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนำโดย นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยกรณีประธานวุฒิ สภาส่งคำร้องของ ส.ว.จำนวน 29 คน และ? กกต.ขอให้วินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัครกรณีการจัดรายการ ?ชิมไป บ่นไป? และรายการ ?ยกโขยง 6 โมงเช้า? สำหรับการอ่านคำวินิจฉัยนั้นคณะตุลาการได้สลับกันอ่านคำวินิจฉัยซึ่งมีทั้ง สิ้น 19 หน้า
สำหรับคำวินิจฉัยตุลาการระบุว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้อง คำชี้แจง การแก้ข้อกล่าวหา เอกสารประกอบ พยานหลัก ฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และคำเบิกความจากพยานบุคคลแล้ว เห็นว่าคดีทั้ง 2 มีพยานหลักฐานที่เพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐ ธรรมนูญมาตรา 267 มีผลให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัครสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐ ธรรมนูญมาตรา 182 วรรคหนึ่ง (7) และเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง จึงเป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่ง แต่ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ เป็นการสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ทำให้รัฐมนตรีใน ครม.ที่เหลือจึงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่า คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
รับเงินยังไงก็เป็นลูกจ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำวินิจฉัยนั้นตุลาการเห็นว่า คำว่าลูกจ้างตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 และตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายว่า หมายถึงผู้รับจ้างทำการงาน ผู้ซึ่งตกลงทำงาน ให้นายจ้างโดยได้รับค่าจ้าง ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร โดยมิคำนึงถึงว่าจะมีการทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ หรือได้รับค่าตอบแทน เป็นค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินอย่างอื่น ย่อมอยู่ในความหมายของคำว่าลูกจ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ตุลา การยังเห็นอีกว่า คำเบิกความและหลักฐานทางภาษีที่ผู้ถูกร้องได้รับค่าจ้างแสดง ไม่ใช่ค่าน้ำมันรถอันเป็นข้อพิรุธ แสดงว่าเป็นการทำหลักฐานย้อนหลังเพื่อปกปิดข้อเท็จจริงขัดแย้งกับคำชี้แจง ของผู้ถูกร้องที่ให้การว่า ได้รับเชิญไปในรายการ ?ชิมไป บ่นไป? น่าจะได้รับค่าพาหนะ โดยค่าพาหนะจะได้รับเฉพาะเมื่อได้ไปออกรายการเท่านั้น ถ้าไม่ไปออกรายการตามที่เชิญมาก็ไม่ได้รับค่าพาหนะ จึงรับฟังเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้
เปิดชื่อ 6 ต่อ 3 เห็นต่าง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคณะตุลา การที่เห็นว่า การกระทำของนายสมัครเข้าข่ายเป็นลูกจ้างเอกชน โดยไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่ามีพฤติการณ์ว่าเป็นหุ้นส่วนของบริษัทเฟซ มีเดีย จำกัด หรือไม่ มีจำนวน 6 คน ประกอบด้วย? นายชัช ชลวร นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ นายจรูญ อินทรจาร นายจรัญ ภักดีธนากุล นายเฉลิมพล เอกอุรุ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ส่วนตุลาการที่เห็นว่าพฤติการณ์ ของนายสมัครเข้าข่ายการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด เพื่อหาประโยชน์จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยถึงความเป็นลูกจ้าง มีจำนวน 3 คน ได้แก่ นายบุญส่ง กุลบุปผา นายสุพจน์ ไข่มุกด์ นายนุรักษ์ มาประณีต (อ่านรายละเอียดหน้า 2)
สื่อนอกตีข่าวด่วน ?หมัก? ปิ๋ว
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ บีบีซีนิวส์และซีเอ็นเอ็น ราย งานข่าวด่วนเผยแพร่ไปทั่วโลกว่า นายสมัครและคณะรัฐมนตรี พ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้ชี้ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัครกรณีจัดรายการโทรทัศน์ ?ชิมไป บ่นไป? และ ?ยกโขยง 6 โมงเช้า? จึงมีมติเป็นเอก ฉันท์ว่า การเป็นพิธีกรในรายการโทรทัศน์ดังกล่าว เข้าข่ายการเป็นลูกจ้าง จึงวินิจฉัยให้นายสมัครพ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามแกน นำคนสำคัญของพรรคพลังประชาชน โดยนายวิทยา บูรณะศิริ หัวหน้าวิปรัฐบาลผสม 6 พรรค ยืนกรานที่จะเสนอชื่อนายสมัครกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัด สำนัก นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งใครรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีและสามารถใช้คำสั่ง นายกรัฐมนตรีที่ 197/2551 เรื่องมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในกรณีที่นายก รัฐมนตรีไม่? สามารถปฏิบัติราชการ โดยให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทน ซึ่ง ครม.มีมติเห็นชอบคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา
พปช.หนุน ?หมัก? คืนเก้าอี้
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า พรรคยอมรับคำวินิจฉัยและที่ประชุมพรรคก็มีมติที่จะสนับสนุนนายสมัครขึ้นดำรง ตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง เชื่อว่าเสียงสนับสนุนนายสมัครในพรรคร่วมจะมีอย่างท่วมท้น ยืนยันว่าในส่วนของพรรคจะไม่มี ส.ส.แตกแถวหรือกลุ่มงูเห่าอย่างแน่นอน
พ.ต.ท.กานต์ กล่าวอีกว่า หากนายสมัครถอดใจทางพรรคก็เตรียมบุคคลสำรองไว้ประมาณ 2-3 คน ชื่อย่อ ส.คงต้องดูก่อนว่านายสมัครจะถอดใจหรือไม่ แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าจะไม่ถอดใจอย่างแน่นอน และยังมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไป
วิกฤติบ้านเมืองถึงทางตัน
นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า พรรคยังคงสนับสนุนให้นายสมัครเป็นนายกฯ ต่อไป เพราะยังมีสถานะเป็น ส.ส.และเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ กรรมการบริหารพรรคจะประสานเพื่อพูดคุยกับทางแกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เพื่อสนับสนุนนายสมัครเป็น นายกรัฐมนตรี แม้จะมีการเสนอชื่อนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยขึ้นมาก็ตาม
นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.การพัฒนา สังคมฯ เปิดเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายต้องเคารพ ต่อศาล ตนยึดถือมติของพรรคจะตัด สินใจอย่างไรทุกคนก็ต้องทำตาม แต่ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ถือว่าเป็นวิกฤติของบ้านเมือง จะบอกว่า เป็นทางตันก็น่าจะเรียกได้
?เลี้ยบ? ปัดมีชื่อชิงนายกฯ
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า พร้อมโหวตในสภาให้นายสมัครกลับเข้ามาเป็นนายกฯต่อ เพราะเห็นว่าไม่ได้ขาดคุณสมบัติแต่อย่างไร เพราะการจัดรายการชิมไปบ่นไปไม่ได้เป็นเรื่องของการทำทุจริตหรือคอร์รัปชั่น
นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงข่าวมีชื่อเป็นนายกฯสำรองว่า ไม่จริง เป็นข่าวลือโคมลอย เมื่อถามว่า ส่วนตัวพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า อย่าไปสมมุติ เมื่อถามว่าข้อกฎหมายหากนายสมัครสิ้นสภาพการเป็นนายกมีโอกาสกลับมาหรือไม่ นพ.สุร พงษ์กล่าวว่า ในทางกฎหมายสามารถทำได้
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมช. เกษตรฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า จุดยืนของพรรคเราเคารพหลักการ พร้อมสนับสนุนพรรคที่มีเสียงข้างมากในสภา เราเคารพมติพรรคเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามว่านายบรรหารมีโอกาสเป็นนายกฯหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า หัวหน้าทุกพรรคสามารถเป็นได้ ถ้าสมาชิกสภาให้การสนับสนุน
?เติ้ง? แหยงตำแหน่งนายกฯ
ด้านนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกระแสข่าวถูกสนับสนุนให้ขึ้นเป็นนายกฯว่า อย่าเอาเรื่องมาให้หน่อยเลยอายุจะสั้น อยู่อย่างนี้ดีกว่าตนไม่เอาแล้วอายุ 70 กว่าแล้วอยากอยู่สบาย ๆ ตนไม่รับหรอก เหตุการณ์แบบนี้รับไม่ไหว ไม่สามารถทนแรงเสียดทานแบบนี้ได้ไม่อดทนพอ เมื่อถามว่า หากถึงที่สุดแล้วหาใครไม่ได้จะเปลี่ยนใจหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า หากตนพูดไปพวกคุณก็เอาไปแปลความหมายอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางออกควรเป็นอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า ริบหรี่เหลือเกิน พูดอะไรไปฝ่ายพันธมิตรฯก็ด่าทุกคืน เหมือนเขาว่าใครก็ได้แต่คนอื่นติติงไม่ได้ ปัญหาอยู่ตรงนี้ ต้องดูพวกพล.ต. จำลอง ศรีเมือง ว่าเขามองบ้านเมืองอย่างไร ถ้าถอยคนละก้าวก็สามารถเจรจาได้ สื่อก็ติงเขาบ้างสิ
ให้รอดูเหตุการณ์ 1-2 วันนี้
ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ 5 พรรคร่วมจะพลิกกลับมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะกระแสสังคมของชนชั้นกลางยังตอบรับ ไม่กดดันมากเท่ากับรัฐบาลพลังประชาชน นายบรรหารกล่าวว่า คุณกลับไปถามอีก 3 พรรคร่วมก่อนแล้วกัน เมื่อถามย้ำว่า 3 พรรคร่วมหมายถึงพรรคไหนบ้าง นายบรรหารปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชาชนระบุว่าหากนายสมัครพ้นจากตำแหน่งสามารถโหวตกลับ มาได้อีก นายบรรหารกล่าวว่า ไม่ทราบ ต่อข้อถามว่า หากทำเช่นนี้จะทำให้การเมืองริบหรี่หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน อีก 1-2 วันรอดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ก่อนแล้วถึงจะพูดได้ว่าจะทำอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายสมัครเตรียมจะไปประชุม ครม.ที่ จ.สุพรรณบุรี นายบรรหารกล่าวว่า รูปแบบคงไม่เหมือนที่ จ.อุดรธานี ไม่เกณฑ์คนไปชุมนุม เมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่าเหตุใดถึงเลือก จ.สุพรรณบุรี นายบรรหารกล่าวว่า สุพรรณบุรีประชาชนมีความ? สามัคคี ไม่มีความแตกแยก
ประธานวุฒิฯปัดรับตำแหน่ง
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการเสนอให้ยกเว้นการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราเพื่อให้ ประธานวุฒิสภารักษาการในตำแหน่งนายกฯหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกฯขาด คุณสมบัติว่า เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตนไม่มีศักยภาพพอที่จะทำอย่างนั้น ขอให้ตนอยู่กับวุฒิสภาต่อไปดีแล้วอย่าเปลี่ยนหน้าที่ตนเป็นอย่างอื่นเลย ตน คงทำไม่ได้ไม่ขอรับปิดทางเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้นายบรรหารเป็นนายกฯแทน นายประสพสุข กล่าวว่า สามารถทำได้ อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น อย่างน้อยก็มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ฝ่ายพันธมิตรฯจะพอใจหรือไม่ไม่ทราบ
เผย 70/30 ไม่มีใครเอาด้วย
เมื่อถามต่อว่า หากสภาลงมติให้นายสมัครกลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯอีกครั้ง นายประสพสุขกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ข้อนี้ เมื่อถามต่อว่า หากเปลี่ยนตัวนายกฯบ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า คิดว่าเดินไปได้ อะไรก็ตามหากจะมีการเปลี่ยนแปลงควรเป็นไปตามระบอบรัฐสภา โดยฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้ตั้งเข้ามาบริหาร ประเทศชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า หากมีการยุบสภาและวุฒิสภาต้องทำหน้าที่รักษาการจะแก้ไขรัฐธรรม นูญได้หรือไม่ นายประสพสุขกล่าวว่า หากยุบสภาวุฒิสภาจะอยู่ในฐานะรักษาการ จะทำอย่างอื่นไม่ได้ ทั้งเรื่องการพิจารณากฎหมายหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการเมืองใหม่ในสัดส่วน 70:30 ของกลุ่มพันธมิตรฯคงไม่มีใครเอาอยู่แล้ว
พปช.มีมติส่ง ?หมัก? คืนเก้าอี้
เย็นวันเดียวกัน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะโหวตเลือกนายสมัครกลับเข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง เนื่องจากเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดร้ายแรงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น แต่เป็นความเข้าใจข้อกฎหมายคลาดเคลื่อน และศาลไม่มีบทบัญญัติทางกฎหมายห้ามกลับมารับตำแหน่ง ดังนั้นนายสมัครจึงมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นอกจากนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
?กระบวนการหลังจากนี้อยู่ที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนัดหมายประชุมสภาเพื่อลงคะแนน คาดว่าจะมีขึ้นใน? เร็ว ๆ นี้ จะปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศนานไม่ได้ วิกฤติที่เกิดขึ้นเนื่องจากคนที่ถูกข้อหากบฏใช้วิธีการไม่ถูกต้องกดดัน รัฐบาล พรรคจะไม่ยอมให้เกิดบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้อง จะต่อสู้ตามวิถีทางกฎหมาย เชื่อว่ามีคนจำนวนมหาศาลสนับสนุนให้รัฐบาลสู้ต่อไป? ร.ท.กุเทพกล่าว
วิ่งแจ้นหา ?ชัย? เปิดสภาโหวต
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พรรคต้องกอดคอกันเพื่อพิสูจน์ให้ระบบตุลาการเห็นว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้ทำอะไรพวกเราไม่ได้ ตัดสินเช่นนี้น่าอายชาวโลกว่านายกฯประเทศไทยต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะจัด รายการอาหาร
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียง ใหม่ กล่าวว่า คาดว่าจะมีการนัดประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกฯได้ในวันที่ 12 ก.ย. ระหว่างนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี
นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวอีกครั้งว่า ตนจะเข้าพบนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพื่อหารือถึงกำหนดวันประชุมโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งพรรคจะเสนอชื่อนายสมัครเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่เสนอชื่อคนอื่น
?เหวียง? รอหารือ 6 พรรคร่วม
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้รับการประสานจากพรรคพลังประชาชนเพื่อให้โหวตเลือกนายกฯคนใหม่ แต่มติพรรคยังคงสนับสนุนพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ แต่บอกไม่ได้ว่าหากเสนอชื่อนายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง พรรคจะเห็นด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 10 ก.ย. จะมีความชัดเจน เนื่องจาก 6 พรรคร่วมรัฐบาลจะมีการประชุมเรื่องนี้กันที่สภา
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินจะ เป็นตัวแปรสำคัญ เมื่อเส้นทางที่เคยตีบตันได้เปิดประตูออกมาแล้ว ก็เป็นเรื่องของสภาที่จะต้องคิดให้รอบคอบว่าจะทำอย่างไร พรรค ร่วมรัฐบาลจะต้องคิดให้ดีว่าจะให้นายสมัครกลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหรือไม่ เชื่อว่าจะมีการต่อรองกันสูงจนกว่าจะถึงวันโหวตนายกฯ ตนมองว่าถ้ายังเป็นนายสมัครหรือคนของพรรคพลังประชาชนเข้ามาเป็นนายกฯ สถานการณ์คงไม่แตกต่างอะไรจากตอนนี้ จะทำให้ทางออกตีบตันกระแสต่อต้านก็ยังคงมีอยู่อีก
30 วันต้องหานายกฯใหม่
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 180 กำหนดว่า ครม.พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯสิ้นสุดลง ให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 และ 173 ให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่นายกฯพ้นจากตำแหน่ง
?ถ้าเป็นผมจะไม่กลับมา มันคงอธิบายให้โลกทั้งโลกฟังไม่ได้ว่า นายกฯกระทำการขัดในเรื่องประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ในคำวินิจฉัยบางส่วนยังระบุว่า เชื่อได้ว่ามีการทำพยานสร้างหลักฐานขึ้นใหม่ จึงเป็นเรื่อง จริยธรรมที่ลึกซึ้ง? นายบวรศักดิ์กล่าว
ปชป.รอโอกาสเข้าสวม
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีต ส.ว. กรุงเทพฯ กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยเช่นนี้ต้องดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินอย่างไร หากยังดึงดันที่จะโหวตให้นายสมัครเป็นนายกฯอีก เท่ากับเป็นการท้าทายและเติมเชื้อเพลิงลงไป พันธมิตรฯก็คงไม่ยอมหยุดชุมนุมแน่นอน ดังนั้นนายสมัครต้องไม่รับตำแหน่งเพื่อให้ความวุ่นวายทางการเมืองยุติ เมื่อนายสมัครไม่เป็นนายกฯอีก พันธมิตรฯก็ควรหยุดการชุมนุม แต่หากพันธมิตรฯ ยืนยันที่จะชุมนุมต่อก็จะเสียเครดิตของตัวเองไปโดยอัตโนมัติ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนเสนอชื่อนายสมัครเป็นนายกฯอีก รู้สึกว่าไม่สวยงามแล้ว เนื่องจากนายสมัครไม่ได้พูดความจริงในศาล ตรงนี้ถือเป็นรอยตำหนิ ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้านายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ จะเกิดความวุ่นวายอีกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่การที่ศาลไม่รับฟังคำชี้แจงของนายสมัคร แสดงถึงความไม่น่าเชื่อถือ วันนี้น่าจะใช้จังหวะนี้ชักชวนทุกพรรคมาปรึกษาและร่วมมือกัน เลือกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาแก้ปัญหาวิกฤติการณ์ของบ้านเมือง ส่วนการเปลี่ยนขั้ว พวกตนเป็นฝ่ายเสียงน้อยคงไม่ไปเรียกร้อง แต่เราพร้อมร่วมมือกับทุกพรรคเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
จับตาทุกพรรคชิงจังหวะ
วันเดียวกันที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา จัดเสวนาเรื่อง ?ทางออกและอนาคตสังคมไทยในวิกฤติความรุนแรง? นายทวี? สุรฤทธิกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่า ภาพรวมทางการเมืองในขณะนี้ มีแง่ดี 2 ประการ คือ 1.สังคมประสานเสียงในการไม่ใช้ความรุนแรง ทำให้ไม่เกิดสงครามกลางเมือง 2.การเมืองภาคประชาชนตื่นตัว ส่วนแง่ที่ไม่ดีคือ สังคมคุยกันยากขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้นการยุบสภาน่าจะเป็นทางออกในขณะนี้
นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการโครงการปริญญาโท คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า คดีชิมไปบ่นไปของนายสมัครจะเป็นช่องว่างให้แต่ละกลุ่มช่วงชิง พรรคชาติไทยก็จะพยายามหาโอกาสผลักดันนายบรรหารเป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องช่วงชิงการนำ แต่ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ คงไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
?ปู่ชัย? เฮ กกต.ยกคำร้อง
อีกด้านหนึ่งที่สำนักงาน กกต.มีการประชุมสำนวนคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องเรียนนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือหุ้นในบริษัทสัมปทานจากรัฐ ขัดต่อธรรมนูญมาตรา 265 ภายหลังการประชุม นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 ให้ยกคำร้องตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวนเสนอมา เนื่องจากบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จำกัด ที่ภรรยาของนายชัยถือหุ้นอยู่นั้นมีการดำเนินการตั้งแต่ปี 2539 ขณะเดียวกันประทานบัตรที่บริษัทดังกล่าวได้รับ ก็ได้รับตาม พ.ร.บ.แร่ 2510 ซึ่งเป็นเสมือนใบอนุญาตให้เอกชนเข้าดำเนินกิจกรรม โดยผู้ขอต้องเสียค่าธรรมเนียม ต่างกับการขอสัมปทานจากรัฐ เช่น การขุดเจาะปิโตรเลียม การขอสัมปทานเก็บรังนก อันนี้จึงจะถือว่าเข้าข่ายสัมปทาน
นายประพันธ์กล่าวต่อว่า กรณีของบริษัทศิลาชัยเป็นการขอประทานบัตร เพื่อระเบิดหินในพื้นที่ดินของเอกชน มีการดำเนินการมาก่อนที่นายชัยจะเข้ามาเป็นประธานสภาขณะเดียวกันที่ดิน บริเวณดังกล่าวยังมีเอกชนรายอื่นขอประทานบัตรระเบิดหินในลักษณะเดียวกันอีก นับ 10 บริษัท จึงไม่เข้าข่ายการผูกขาด กรณีนี้จึงไม่เข้าข่ายที่ว่าบุคคลในครอบครัวถือหุ้นหรือบริษัทสัมปทานจากรัฐ ที่ประชุมจึงมีมติยกคำร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสียงข้างมาก 3 เสียงประกอบด้วย นายสมชัย จึงประเสริฐ นางสดศรี สัตยธรรม และนายประพันธ์ ส่วน 2 เสียงข้างน้อยคือ นายอภิชาตสุขัคคานนท์ และสุเมธ อุปนิสากร
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=176319&NewsType=1&Template=1
Tags: ชิมไปบ่นไป, นายก, ศาล, สมัคร, สมัคร ชิมไปบ่นไปtags: ชิมไปบ่นไป, นายก, ศาล, สมัคร, สมัคร ชิมไปบ่นไป
No Comments
มติครม.ตั้งกอฉ.สยบม็อบ”สมัคร”สั่งเคลื่อนกำลังได้
Posted by admin on
September 5, 2008
“สมัคร” พลิกเกมประชุม ครม.นัดเฉพาะกิจ ออกประกาศยึดอำนาจ “อนุพงษ์” มีผล 4 ก.ย. สั่งการใช้กำลัง-เคลื่อนทหารได้ “ดร.ปณิธาน” ชี้นายกฯ จ้องรวบอำนาจกลาโหม-หวั่นปฏิวัติ ด้านพันธมิตรเฮ ยึดทำเนียบต่อได้ หลังศาลอุทธรณ์ยกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินใน กทม. เพื่อจัดการปัญหาการชุมนุมของกลุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยืดเยื้อมากว่า 100 วัน แต่ท่าทีของ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นไปอย่างประนีประนอม และมีแนวคิดว่า ปัญหาทางการเมืองต้องแก้โดยภาคการเมือง หรือรัฐสภา
ด้วยเหตุนี้กลุ่มที่ปรึกษาซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายสมัคร จึงเล่นเกมเพื่อดึงอำนาจการสั่งการคืนตามระบอบประชาธิปไตย โดยเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดเฉพาะกิจ เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศไม่ลาออก
มติครม.ให้สมัครคุมกฎ20ฉบับ
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่า สำนักนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องออกประกาศอีก 2 ฉบับ จึงมีความจำเป็นต้องเรียกประชุม ครม.ให้รับทราบและเห็นชอบตามประกาศนี้ภายใน 3 วัน
พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉบับแรก คือ การจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ กอฉ. โดยผ่านความเห็นชอบของ ครม. นายสมัครจึงมีคำสั่งจัดตั้ง กอฉ.ขึ้น ทั้งนี้ กอฉ.ประกอบด้วย ผบ.ทบ.เป็นผู้อำนวยการ ผบ.ตร.เป็นรองผู้อำนวยการ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นรองผู้อำนวยการ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ เป็นกรรมการ สำหรับผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ เป็นกรรมการและเลขานุการ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ข้าราชการตำรวจและข้าราชการพลเรือนตามผนวก เป็นเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสิ้น 19 ตำแหน่ง
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ 1.เป็นหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุก เฉิน 2.จัดให้มีหน่วยงานหรือศูนย์ปฏิบัติการ เพื่อเป็นองค์ประกอบปฏิบัติการภายใต้ กอฉ.ให้มีอำนาจในการแก้ไขปราบปรามยับยั้งสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่ได้รับมอบหมาย 3.ดำเนินการทางด้านการข่าว 4.ดำเนินการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อทำความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชนทุกภาคส่วน รวมทั้งปฏิบัติการด้านจิตวิทยาที่เกี่ยวข้อง สำหรับการดำเนินการข่าวกรองนั้น ให้ดำเนินการด้านการข่าวและต่อต้านข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ฉุก เฉินและที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
5.จัดกำลังตำรวจและทหารดำเนินงานตามแผนรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งประสานส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ดำเนินการป้องกันตัวเอง ตามความสามารถ 6.มอบหมายให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสนับสนุนกำลังพล งบประมาณ วัสดุ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และเครื่องมือต่างๆ เพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน 7.เรียกให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐเข้าประชุมชี้แจง ให้ข้อมูลข่าวสารตามที่เห็นสมควร 8.แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหรือเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตามความจำเป็น และ 9.ดำเนินการอื่นๆ ตามที่นายกฯ หรือครม.มอบหมาย สั่ง ณ วันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2551 ลงชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
พล.ต.ท.วิเชียรโชติกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พ.ร.ก.อีกฉบับ เป็นการกำหนดอำนาจหน้าที่ของ ครม.ตามกฎหมาย เป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ภายหลังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขต กทม.ตามกฎหมายฉบับนี้ ให้รัฐมนตรี และ ครม.ให้มอบอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวง โอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตอนุมัติสั่งการ ตามบังคับบัญชาหรือแก้ไขป้องกัน ปราบปราม ระงับยับยั้ง สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในท้องที่ที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยจะมีกฎหมาย 20 ฉบับ 1.พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 2.พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.2493 3.พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 4.พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 5.พ.ร.บ.ควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ.2495 6.พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2520
7.พ.ร.บ.ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ.2522 8.พ.ร.บ.ควบคุมอาหาร พ.ศ.2522 9.พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 10.พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 11.พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 12.พ.ร.บ.การสุรา พ.ศ.2493 13.พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 14.พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 15.พ.ร.บ.วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2485 16.พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 17.พ.ร.บ.การเนรเทศ พ.ศ.2499 18.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและสมาคม 19.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ และ 20.ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการใช้กำลังทหาร การเคลื่อนกำลังทหารและการเตรียมพร้อม พ.ศ.2545 โดยนายสมัคร ลงนามในประกาศวันที่ 4 กันยายน 2551
ทั้งนี้ พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 และข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการใช้กำลังทหาร การเคลื่อนกำลังทหารและการเตรียมพร้อม พ.ศ.2545 ซึ่งเดิมอำนาจในการสั่งการใช้กำลังทหาร การเคลื่อนกำลังทหารเป็นของคณะผู้บัญชาการทหาร ประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และเสนาธิการทหาร จะถูกโอนมาเป็นของนายสมัครทันที
ชี้นายกฯจ้องรวบอำนาจกลาโหม
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง กล่าวถึงมติ ครม.ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีมีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย 20 ฉบับว่า เรื่องนี้ต้องให้นักกฎหมายตีความว่า อำนาจในการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการใช้ และเคลื่อนกำลังทหารยังเป็นของใครกันแน่ระหว่าง นายกรัฐมนตรี หรือ ผบ.ทบ. โดยต้องดูว่า ประกาศในครั้งนี้เป็นการรวบอำนาจของ ผบ.ทบ. มาไว้ในมือด้วยหรือไม่
“ในอดีตตั้งแต่ปี 2475 เป็นต้นมา ก็เคยมีการรวบอำนาจมาไว้ในมือนายกฯ มากที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจของทหาร และตำรวจ ซึ่งถ้าหากเป็นสังคมประชาธิปไตยก็เป็นการทำเพื่อถ่วงดุลข้าราชการประจำ แต่ถ้าเป็นสังคมไทยก็จะเกิดปัญหาในการบริหารจัดการปัญหาว่า อำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือใคร และใครมีอำนาจใช้ และเคลื่อนกำลังในรูปแบบใด” รศ.ดร.ปณิธาน กล่าว
รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวอีกว่า ดูเหมือนว่านายกฯ ต้องการอำนาจมาควบคุมการใช้กำลังของกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะต้องมาดูกันอีกทีว่า จะทำให้มีอำนาจมากขึ้นแค่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายกฯ ไม่ไว้ใจฝ่ายทหารได้หรือไม่ รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวว่า ถ้ามองอย่างนั้นก็ได้ เพราะอาจจะเกรงว่า การให้อำนาจในกรณีพิเศษจะทำให้อำนาจไม่สมดุล และอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา จึงต้องมีการถ่วงดุล คานอำนาจโดยพลเรือน แต่การทำเช่นนี้ก็มีข้อเสีย คือ ทำให้เกิดการชะงักงันในการใช้อำนาจในสภาวะฉุกเฉินที่ต้องใช้การสั่งการที่ เบ็ดเสร็จ และเด็ดขาด
ส่วนจะเป็นการบีบฝ่ายทหาร และอาจทำให้เกิดการรัฐประหารตามมาหรือไม่ รศ.ดร.ปณิธาน กล่าวว่า อำนาจของฝ่ายบริหารที่เข้มแข็งมากขึ้นอาจจะไปกดดันให้ทหารทำในสิ่งที่ไม่ อยากจะทำ ทำให้สถานการณ์เปราะบางมากขึ้น และนำไปสู่การเผชิญหน้ากันได้
คาดดึงอำนาจคืนป้องกันปฏิวัติ
แหล่งข่าวจากกองทัพ กล่าวว่า เป็นการดึงเอาอำนาจมาไว้ที่นายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง เพื่อป้องกันการถูกปฏิวัติ ทั้งนี้ ข้อบังคับกลาโหมว่า ด้วยการใช้กำลังทหารและการเคลื่อนย้ายกำลังทหารนั้น ให้อำนาจผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นผู้สั่งเคลื่อนกำลังทหาร หากในพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ของเหล่าทัพใด ผบ.เหล่าทัพนั้นก็จะเป็นผู้สั่งดำเนินการ แต่ในกรณีที่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บังคับใช้ ก็จะเป็นอำนาจของประธานคณะกรรมการภาวะฉุกเฉิน เป็นผู้สั่งดำเนินการ กรณีนี้ก็คือ พล.อ.อนุพงษ์
“เขาคงจะป้องกันไว้ เผื่อว่าเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นกับตัวเอง จะได้สั่งให้กำลังทหารออกมาป้องกัน หรือต่อต้าน” แหล่งข่าวกล่าว
“อนุพงษ์”แจงทูตทหารต่างชาติ
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ มอบหมายให้ พล.ท.ศิริชัย ดิษฐกุล ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายข่าว ชี้แจงสถานการณ์บ้านเมืองต่อคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย และผู้แทนด้านการทหาร จำนวน 20 ประเทศ รวม 30 คน เช่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี และสวีเดน เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ของประเทศไทย ภายหลังจากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงได้รับทราบถึงบทบาทและจุดยืนของผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยที่เข้าร่วมรับฟังสอบถาม ว่า ทหาร ตำรวจ ทำไมถึงได้อดทนและไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย พล.ท.ศิริชัยกล่าวว่า ทหาร ตำรวจ เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา โดยเฉพาะด้านการข่าว แต่ผู้บังคับบัญชามีนโยบายชัดเจนว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จะใช้การเจรจาเป็นหลัก เมื่อประชาชนสองฝ่ายมาปะทะกันเป็นเรื่องยากที่เราจะดำเนินการ เพราะทหารและตำรวจมีข้อจำกัดในการดำเนินการ ซึ่ง พ.ร.ก.มีข้อกำหนดที่จำกัดสิทธิเสรีภาพ เราพยายามพิจารณาอย่างละเอียดในการใช้ ทั้งเรื่องการชุมนุมหรือการควบคุมสื่อ เพื่อไม่ให้ไปสู่ความรุนแรง
ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยถามว่า การแก้ปัญหามีข้อจำกัดของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.ท.ศิริชัยกล่าวว่า เราไม่ใช้อาวุธแก้ปัญหา อย่างมากจะเป็นแก๊สน้ำตา โล่กำบัง และอุปกรณ์ฉีดน้ำเท่านั้น ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยถามย้ำว่า ผบ.ทบ.ต้องการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตร แต่นายกรัฐมนตรีมีท่าทีจะใช้กำลังปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ศิริชัยกล่าวว่า ไม่มีความเห็น แต่การประกาศ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว สาเหตุเกิดจากมีคน 2 กลุ่มมาปะทะกัน ซึ่ง ผบ.ทบ.ชี้แจงว่า หากนอกเหนือขอบเขตการทำงานของกองทัพก็ขึ้นอยู่กระบวนการทางการเมือง หรือรัฐสภาเป็นผู้แก้ไข
ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทยถามอีกว่า รัฐบาลได้ฟ้องร้องกลุ่มพันธมิตรที่บุกรุกเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พล.ท.ศิริชัยกล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล กองทัพคงไม่เข้าไปก้าวล่วง ส่วนจะเจรจาใต้โต๊ะเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อมูลที่จะมีการเจรจา บทบาทกองทัพบกในขณะนี้ คือ ควบคุมไม่ให้ทั้งสองกลุ่มมาปะทะกัน
ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรียังไม่ลาออกตามขอเรียกร้องของพันธมิตร กองทัพมีมาตรการดูแลสถานที่ราชการอย่างไร โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิหรือสถานที่ท่องเที่ยว พล.ท.ศิริชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ได้เตรียมการตลอด และมีหน่วยที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งสนามบิน โดยทหารเข้าไปช่วยเหลือตำรวจในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน
ส่วนการปิดสนามบินภูเก็ต และสนามบินหาดใหญ่ ขณะนี้ในระดับท้องที่ทำความเข้าใจ ปัจจุบันสนามบินเปิดทำการปกติ ทั้งนี้ กองทัพบกมีกำลังส่วนหนึ่งทั้งทหารและตำรวจ ซึ่งการเจรจาเป็นมาตรการแรก แต่หากเกิดอะไรขึ้นมาคงดำเนินการต่อไป
จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ได้เรียกประชุมคณะทำงานแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานด้านความมั่นคงและส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมหารือรวม 20 องค์กร เช่น? พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองหัวหน้ารับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 15.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ได้เชิญแกนนำสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มาร่วมหารือ เพื่อหาทางออกปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น หลังจาก สรส.นัดหยุดงาน และขู่ตัดน้ำ ตัดไฟ สถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง แต่ภายหลังแกนนำ สรส.ได้ยกเลิกกำหนดการที่จะเข้าหารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ โดยอ้างว่า สรส.ไม่พร้อม เนื่องจากแกนนำยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม วันที่ 5 กันยายน เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมกิตติขจร ภายในกองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์จะแถลงถึงบทบาทความชัดเจนในการทำหน้าที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบใน การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงขอบเขตอำนาจใน พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้มีหลายฝ่ายสงสัยว่า สถานการณ์ไม่ได้เกิดความรุนแรงเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หรือ 16 ตุลา ทำไมรัฐบาลถึงประกาศ พ.ร.ก.มาบังคับใช้ในช่วงเวลานี้ ซึ่งขณะนี้ ผบ.ทบ.ให้เจ้าหน้าที่ร่างคำแถลงการณ์ดังกล่าวแล้ว
เผยให้ตร.แจ้งความผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม
พล.ท.ประยุทธ์กล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการได้หารือเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน ซึ่งขณะนี้มีความพัฒนาไปเช่นกัน ที่ประชุมยังยืนยันจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่จะเน้นการเจรจาเป็นหลัก โดยมอบหมายให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการที่จะแจ้งความจับผู้ที่กระทำผิดข้อห้าม ที่มีอยู่ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกกลุ่ม เพื่อให้ทราบว่ามีการดำเนินการผิดกฎหมายข้อใดบ้าง ส่วนการใช้กำลังเข้าดำเนินการเวลานี้ยังไม่เหมาะสม
?ปัญหาขณะนี้ คือ การบังคับใช้กฎหมายที่เขาไม่ยอมรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่คงเลี่ยงปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ แต่อาจจะมีมาตรการจากเบาไปหาหนัก ทุกคนทราบดีว่าเขาอยากให้เราใช้กำลังดำเนินการ แต่เจ้าหน้าที่ทำไม่ได้ เพราะหากเกิดการล้มตายแล้วจะทำอย่างไร ขณะนี้น่าจะมีการพูดคุยเจรจา และใช้แนวทางสันติ? พล.ท.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีพอใจการทำงานของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ พล.ท.ประยุทธ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจและพูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ตลอด ทั้งนี้ การทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความสุขุม เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง อย่าสร้างความกดดันให้เจ้าหน้าที่ ส่วนสถานการณ์ที่ยังไม่มั่นคง เกรงว่าทหารจะก่อรัฐประหารอีกครั้ง แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ไม่มี อย่าถามเรื่องปฏิวัติ ควรถามว่าบ้านเมืองจะไปอย่างไร เราจะช่วยกันอย่างไร ขณะนี้ทหารมีเพียงเตรียมกำลังอยู่ในหน่วยที่ตั้ง เพื่อดูแลสถานการณ์หากมีการเคลื่อนมวลชนมาปะทะกัน ทหารก็จะเข้าห้ามปราม อย่าเอาเวลามาเป็นเงื่อนไข ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีกำหนดเวลา 3 เดือน ไม่ได้กำหนดว่าเสร็จเมื่อไร หากไม่เสร็จก็ต่อไปอีกได้ แต่หากสถานการณ์เรียบร้อยอาจยกเลิกก่อนได้
ตั้งนายตำรวจร่วมทหารคุมม็อบ
วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการดูแลความสงบเรียบร้อยกองบัญชาการตำรวจ นครบาล (ผอ.ศปก.น.) ลงนามบันทึกด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รอง ผบ.ตร. เพื่อทราบ รอง ผบช.น. ผบก.ทุก บก. เนื้อหาระบุว่า ด้วยขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองในเขตพื้นที่ กทม. ประกอบกับมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ดังนั้น เพื่อให้การประสานงานในการปฏิบัติภารกิจของ บช.น. และกองทัพภาคที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดประสิทธิภาพ จึงมอบหมายให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดังนี้
พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น. เป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ประสานงานกับกองทัพภาคที่ 1 มอบหมายให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจประสานงานประจำ กองทัพภาคที่ 1 ได้แก่ พ.ต.ท.ถาวร สมศักดิ์ รอง ผกก.กก.1 บก.จร. พ.ต.ท.ศักดิ์รินทร์ ตันติภัณฑรักษ์ รอง ผกก.ฝอ.1 บก.อก.บช.น. พ.ต.ท.ปรีดา สถาวร รอง ผกก.ฝอ.1 บก.อก.บช.น. พ.ต.ท.สรรค์พิสิฐ แย้มเกสร รอง ผกก.1 บก.ตปพ. และ พ.ต.ท.ชุมวร ชมะทัต รอง ผก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละวัน มอบหมายให้ ผบก.อก.เป็นผู้จัดวางตารางเวรในการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ให้นายตำรวจประสานงานดังกล่าวเข้าร่วมประชุมกองทัพภาคที่ 1 ทุกวัน เวลา 17.00 น. และเข้าร่วมประชุมสรุปสถานการณ์ในส่วนของ บช.น.ในแต่ละวันตามกำหนด
สหภาพ กสท ขู่ตัดวงจรเกตเวย์
ส่วนความเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน นายสมบูรณ์ ทรัพย์สาร ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่ออารยะขัดขืนรัฐบาลนายสมัครหลังการ แถลงไม่ลาออก โดยระบุว่า สหภาพ กสท พร้อมที่จะตัดสินใจตัดวงจรเกตเวย์ระหว่างประเทศทันที หากเกิดวิกฤติขึ้นจริงโดยการกระทำของรัฐบาล โดยการดำเนินการจะต้องเป็นมติของคณะกรรมการของสหภาพฯ กสท เท่านั้น สำหรับจุดที่จะปิดมี 2 ส่วนใหญ่ คือ เคเบิลใต้น้ำ และศูนย์โทรคมนาคม จ.นนทบุรี โดยสหภาพสามารถติดต่อกับผู้ปฏิบัติงานได้โดยตรง แต่ผู้บริหารได้แจ้งว่า ขอให้สหภาพ ดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพราะจะเกิดความเสียหาย
ทั้งนี้ การปิดเกตเวย์เชื่อมต่อระหว่างประเทศ จะกระทบต่อการสื่อสารข้ามประเทศ ทั้งอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ และระบบการเงินที่ใช้ระบบออนไลน์ และระบบการซื้อขายในตลาดหุ้น ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก
ที่มา : http://www.komchadluek.net/2008/09/05/x_main_a001_219421.php?news_id=219421
Tags: กอฉ, ม็อบ, สมัคร, เคลื่อนกำลังtags: กอฉ, ม็อบ, สมัคร, เคลื่อนกำลัง
No Comments
“สนธิ”เตรียมประกาศการเมืองใหม่-รอฟัง”หมัก”แถลงก่อน
Posted by admin on
September 4, 2008
“สนธิ” เรียกร้องให้พี่น้องอยู่ร่วมชุมนุมรอฟัง “หมัก”ประกาศทางวิทยุเวลา 7.30 น.พร้อมกัน ย้ำกรรมใดใครก่อต้องรับไป ย้ำต้องการคำสัญญาการเมืองใหม่ที่มีรัฐบาลซื่อสัตย์-เคารพกฎหมาย-เท่าเทียม ไม่ทำสิ่งผิดพลาดเหมือนกับรัฐบาลชุดนี้
???????
????????คลิกที่นี่?เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย?
???????
???????เมื่อวันที่ 3 ก.ย.51 เวลาประมาณ 22.45 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยในทำเนียบรัฐบาล เริ่มด้วยการชี้แจงข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่ลงคำให้สัมภาษณ์คลาดเคลื่อนที่ระบุว่าตนเองรับได้ถ้า นายสมัคร สุนทรเวช ลาออกไปแล้ว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะมาเป็นนายกฯ ซึ่งในข้อเท็จจริงคือใครก็ได้ที่มาเป็นนายกฯ ถ้ารับเงื่อนไข 4-5 ข้อ คือต้องจัดการกับคณะรัฐบาลชุดก่อนที่ขายอธิปไตยให้กัมพูชากรณีปราสาทพระวิหาร ต้องยกเลิกโครงการที่ใช้งบประมาณมหาศาลที่รัฐบาลชุดนี้วางไว้ ต้องไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น ถ้าทำอย่างนี้ได้โดยมีคำมั่นสัญญา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น นพ.สุรพงษ์ หรือ นายสมชาย เราก็รับได้ แต่เชื่อว่าทั้งสองคนนี้จะไม่ทำ
???????
???????นายสนธิ กล่าวอีกว่า ในช่วง 2-3 วันนี้รู้สึกเหนื่อยกับการต้องชี้แจงกับสื่อต่างประเทศที่ไม่เข้าใจการเมืองไทย และไม่เข้าใจการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
???????
???????”จริงๆ แล้วการต่อสู้มากว่า 102 วัน ใกล้จบแล้วแต่มันจะจบอย่างไรไม่รู้ นายสมัคร จะลาออกหรือถูกบีบให้ออกไม่รู้ แต่จะจบแน่และก่อนอาทิตย์หน้าต้องจบ” นายสนธิระบุ อย่างไรก็ตามแม้ว่านายสมัครจะลาออกก็อย่าเพิ่งดีใจแล้วกลับบ้าน เพราะไม่เช่นนั้นการต่อสู้ที่ผ่านมากว่าหนึ่งร้อยวันก็จะสูญเปล่า ดังนั้นแม้นายสมัครลาออกแล้วเราต้องการการเมืองใหม่ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น เปรียบเหมือนบ้านส้วมชำรุด ฝ้าเพดานพัง ต้องถึงเวลาซ่อมแซมครั้งใหญ่ ซึ่งอาจจะดูวุ่นวายบ้านบ้าง แต่เมื่อเสร็จแล้วก็จะน่าอยู่
???????
???????”ไม่ใช่สมัครไปแล้ว บรรหารมา หรือเสนาะมา เพราะคนพวกนี้ถือว่าเป็นวัตถุโบราณที่ชำรุด เพราะเราต้องการรัฐบาลที่ซื่อสัตย์ เคารพกฎหมายให้โอกาสประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน” นายสนธิ ระบุและว่าเราต้องการคำมั่นสัญญา มีเจตนารมณ์ที่แน่ชัดว่าแก้ไขข้อบกพร่องที่ นายสมัครทำเอาไว้ โดยมีการเมืองใหม่ เพราะถ้า นายสมัคร ลาออกแล้วทุกคนกลับบ้านเราก็จะชนะแค่ยกที่ 1 แต่จะแพ้ยกที่สอง ทันที
???????
???????”เพราะถ้าสมัครออกไปแล้วถอย ทุกอย่างจะจบลงเหมือนเดิม และต่อไปตนเองก็จะไม่ออกมาอีกแล้ว เพราะถือว่าครั้งสุดท้ายแล้ว และจะหายไปเลย เพราะถือว่าพี่น้องไม่ต้องการพวกผมแล้ว” นายสนธิกล่าวและว่า การตัดสินใจครั้งนี้เลือกยืนข้างราชบัลลลังก์ และทุกคนก็ตัดสินใจแล้วเพราะพระเจ้าอยู่หัวทศทรงมีพิศราชธรรม
???????
???????นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตกรณีที่ นายสมัครจะออกอากาศทางวิทยุในเวลา 7.30 น.วันที่ 4 ก.ย.ว่า ทำไมต้องเป็นวิทยุเท่านั้น ทำไมไม่ออกอากาศทางโทรทัศน์ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นการอัดเทปไว้ล่วงหน้า และประกาศลาออก แต่ไม่ว่าอย่างไรถือว่ากรรมใดใครก่อก็ต้องรับไป
???????
???????ในตอนท้ายนายสนธิได้กล่าวถึงบทบาทของเอเอสทีวีนับจากนี้ไปว่า หลังการต่อสู้ผ่านไปความจับจ้องของพี่น้องอาจลดน้อยลง และที่ผ่านมาเอเอสทีวีเป็นของพี่น้องประชาชน และถ้าไม่มีเอเอสทีวีก็จะไม่มีการรายงานความเคลื่อนไหวของพี่น้องให้สังคมได้ทราบ ดังนั้นจึงขอคำสัญญาให้ช่วยกันสมัครเป็นสมาชิกเอสเอ็มเอสข่าวเอเอสทีวีเดือนละ 200 บาท
???????
???????วิธีสมัครรับข่าวด่วนผ่านระบบ SMS เพื่อช่วยเหลือ การแพร่ภาพของ ASTV 200 บาทต่อเดือน (เฉพาะระบบ?dtac)?
???????
???????วิธีสมัคร?เข้าเมนู write Message
???????พิมพ์ R ส่งไปที่ 4321000
???????
???????วิธียกเลิก?เข้าเมนู write Message
???????พิมพ์ C ส่งไปที่ 4321000
???????
???????หมายเหตุ
???????- ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการคิดเงินค่าบริการ หากมีการใช้บริการก่อนวันครบกำหนดหมดอายุ
???????- ค่าบริการข้างต้น ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
???????
???????นายสนธิ กล่าวว่า เมื่อเอเอสทีวีมีรายได้จากพี่น้องตรงนี้ก็จะสามารถนำไปดำเนินกิจการขยายเครือข่ายเป็นทีวีของประชาชนได้อ่างเต็มที่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งโฆษณาจากกลุ่มทุนรายใหญ่
ที่มา : ผู้จัดการ
Tags: การเืมือง, ประกาศเมืองใหม่, สนธิ, สมัครtags: การเืมือง, ประกาศเมืองใหม่, สนธิ, สมัคร
No Comments
พันธมิตร – ม็อบเฮ!ศาลแพ่งสั่งงดบังคับคดีเหตุ ตร.รื้อเวทีมัฆวานฯไม่ชอบ กม.-ทุบตี ปชช.ให้รอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์!
Posted by admin on
August 30, 2008
พันธมิตรเฮ!! ศาลแพ่งสั่งงดการบังคับคดี เหตุตำรวจไปรื้อถอนเวทีมัฆวานฯไม่ชอบด้วยกฎหมายทุบตีประชาชน หากบังคับคดีต่อจะเสียหาย ให้รอจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่ง “สนธิ”ขู่ล้อมโรงพักลั่น กทม.จะลุกเป็นไฟประกาศศึกสุดท้าย! “พันธมิตร” แห่ปิดสนามม้านางเลิ้ง ขวางตร.พักเหนื่อย
?
?
?
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม? นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตร ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอทุเลาบังคับคดีโดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง ในคดีที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร ฯ ,? นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ฯ และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิด และขับไล่ พันธมิตร ฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งศาลคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้ จำเลยทั้งหก กับพวก ออกจากทำเนียบรัฐบาล รื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งกีดขวางทั้งหมดในทำเนียบรัฐบาล และให้จำเลยทั้งหก กับพวก เปิดพื้นที่จรจาจรบน ถ.พิษณุโลก ? ถ.ราชดำเนิน ทุกช่องจราจร และเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ศาลแพ่งได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี นั้น โดยคำร้องจำเลยอ้างว่าโจทก์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปบังคับคดีโดยรื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์? โดยมิได้ปฏิบัติตามกฎหมาย และทุบตีร่างกายประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงขอให้ศาลงดการบังคับคดีไว้ก่อน ?
?
?
ต่อมาเวลา 17 .00 น. ศาลแพ่งได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่ง? โดยเห็นว่า? เนื่องจากทนายจำเลยทั้ง 6 ได้ยื่นคำร้องอ้างว่าได้มีการอาศัยหมายบังคับคดีที่ศาลออกตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไปดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย? ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน? ศาลจึงเห็นควรอธิบายคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวฉบับลงวันที่ 27 สิงหาคม 2551 ให้คู่ความเข้าใจให้ชัดเจน? กล่าวคือ ตามคำสั่งที่ระบุว่า ?จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหก ออกจากทำเนียบรัฐบาลและบริเวณพื้นที่ทำเนียบฯทั้งหมด? ให้จำเลยทั้ง หกดำเนินการให้กลุ่มผู้ชุมและรื้อถอนเวทีปราศรัยรวมทั้งสิ่งกีดขวางอื่นๆออกไปจากบริเวณดังกล่าว?? ซึ่งการแปลความคำสั่งต้องอ่านทั้งประโยคต่อเนื่องกัน? แล้วจะได้ความว่า คำว่าออกไปจากบริเวณดังกล่าวหมายถึงออกไปจากพื้นที่บริเวณทำเนียบฯเท่านั้น?
?
?
?
ในส่วนคำสั่งที่ระบุว่า ?ให้จำเลยทั้ง 6 ดำเนินการให้เปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน เพื่อให้ประชาชน คณะรัฐมนตรี โจทก์ ข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานในทำเนียบฯสามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวก?? นั้น? เป็นคำสั่งที่ต่อเนื่องกัน? การแปลความจึงต้องอ่านข้อความในคำสั่งทั้งประโยค? มิใช่นำข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยคมาแปลความ? ดังนั้นเมื่ออ่านประโยครวมแล้วมีความหมายว่า การเปิดพื้นที่จราจรถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนินนั้น เป็นการให้เปิดพื้นที่จราจรของถนนดังกล่าวที่ติดกับทำเนียบฯ? เพื่อให้สามารถเข้าออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยสะดวกเท่านั้น? ในส่วนของคำสั่งที่ระบุว่า ?ให้คำสั่งนี้มีผลทันที? หมายถึงให้คำสั่งมีผลบังคับแก่จำเลยได้ทันที? แม้จำเลยจะยังมิได้รับการแจ้งคำสั่ง? ส่วนการบังคับคดีจะดำเนินการได้เพียงใด? ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
?
?
?
ทั้งนี้สืบเนื่องจากจำเลยทั้งหก ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาและยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ซึ่งศาลมีคำสั่งรับอุทธรณ์และรับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของจำเลยทั้ง 6 แล้วนั้น? วันนี้จำเลยทั้งหก ได้ยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีโดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง? อ้างว่าโจทก์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปบังคับคดีโดยรื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์? โดยมิได้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 เบญจ? โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาศัยหมายบังคับคดีของศาลเข้าทุบตีร่างกายประชาชน? ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ส่งศาลอุทธรณ์พิจารณา? เห็นว่าหากยังคงให้มีการบังคับคดีต่อไปจะเกิดความเสียหาย? จึงเห็นควรให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 292 (2) จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา? แจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ เบื้องต้นให้แจ้งคำสั่งทางโทรสารก่อน?? และให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลอุทธรณ์โดยเร็ว
??
?
?
?
?
พันธมิตรแห่ปิดสนามม้านางเลิ้ง ขวางตร.พักเหนื่อย
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางจากทำเนียบรัฐบาลถึงสนามม้านางเลิ้งแล้ว เพื่อหวังปิดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเข้าพักผ่อน รวมทั้งสกัดกั้นการลำเอียงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
?
?
?
?
??
?
?
?
ต่อมาเวลา 16.00 น. แกนนำทั้งหมดขึ้นเวทีอีกครั้ง โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรได้ประกาศมติพันธมิตร ว่า ขอเรียกร้องให้ตำรวจส่งผู้สั่งการให้เข้าจัดการกับพันธมิตรมาให้ และจัดการตำรวจที่ตีประชาชนทันที รวมทั้งตำรวจที่เอาปืนจ่อหัวประชาชน ไม่นั้นวันนี้จะมีเรื่องกัน และขอความชัดเจนก่อนเวลา 19.00 และประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่นอกทำเนียบ โดยเฉพาะส่วนที่อยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าโดยนายศิริชัย ไม้งาม จะเป็นคนนำเดิน ไปปิดล้อมสนามม้านางเลิ้ง เพื่อกดดันตำรวจที่ประจำการอยู่ให้ออกไป จากนั้นจะจัดกำลังไปกดดันที่บชน. และสตช. โดยที่สตช.จะต้องไปกันมากเป็นพิเศษเพื่อถามความชัดเจน
??
?
?
?
?ถ้าตำรวจทำร้ายประชาชนอีกครั้งในครั้งนี้ สถานีตำรวจทุกแห่งจะลูกเป็นไฟ วันนี้เราจะจับตำรวจบ้าง ผบชน.ต้องจัดการตำรวจที่ทำร้ายประชาชน ถ้ายังไม่ได้รับคำตอบ คืนนี้เราจะล้อมโรงพักด้วย? กรุงเทพฯจะลุกเป็นไฟ และไม่รับประกันว่า คืนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ?นายสนธิกล่าวอย่างดุเดือด ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกลุ่มชุมนุมที่เริ่มทยอยไปตามคำสั่ง กระทั่งเวลา 16.15 น. มีการแจ้งบนเวที ว่า ทางสตช.ได้สั่งถอนกำลังตำรวจออกจากพื้นที่ทำเนียบแล้ว
?
“รสนา”ร้องผบ.ตร. ตำรวจใช้ปืนจี้หัวผู้ชุมนุมพันธมิตร
?
?
?
เมื่อเวลา 16.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. พร้อมด้วย พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรสุข ที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนจี้หัวผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าร้องเรียนต่อพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยขอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการอย่างเด็ดขาดไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดเหตุพลาดพลั้งและขยายความรุนแรงหมือนเหตุพฤษภาทมิฬและเหตุการณ์เดือนตุลาคม นอกจากนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการสลายการชุมนุม เนื่องจากขณะนี้เป็นการชุมนุมของชาวบ้านเป็นเรื่องปลายเหตุต้องแก้ที่ต้นเหตุ โดยวิธีทางการเมืองเปิดเวทีเจรจา
?
?
?
น.ส.รสนา กล่าวว่า ยอมรับว่าการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล หากไม่ถูกต้อง ก็ต้องใช้วิธีละมุมละม่อม ส่วนการเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ ออกมารับผิดชอบก็สามารถเรียกร้องได้ แต่แกนนำพันธมิตรฯ อาจอ้างเพื่อขออารยะขัดขืน แต่มีเรื่องโทษทางอาญาก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย
?
?
?
?
?
?
?
?
?
พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบฯ ได้อีกครั้ง
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. หลังกลุ่มพันธมิตรฯ สามารถยึดพื้นที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ คืนได้แล้ว ต่อมาจึงใช้กลยุทธ์นำรถหกล้อ นำทางตะลุยฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบุกเข้าไปทางลานพระบรมรูปทรงม้า ก่อนจะตะลุยรุกคืบเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสามารถยึดพื้นที่คืนที่ทำเนียบรัฐบาลได้แล้ว จากนั้นจึงมีกลุ่มแนวร่วมต่างทยอยเดินทางกลับเข้าทำเนียบฯ อีกครั้ง
?
?
?
“ปฐมพงษ์-รสนา”บุกบช.น.ขอพบ”อัศวิน”อย่าทำรุนแรง
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.15 น. พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรสุข ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการกองบัญชาการทหารสูงสุด และนางสาวรสนา โตสิตระกูล ได้นำผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประมาณ 500? คน เดินทางจากทำเนียบรัฐบาล ถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ถ.ศรีอยุธยา โดยมีจุดประสงค์ขอเข้าพบกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ไม่ให้ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมในทำเนียบฯ และขอความชัดเจนจากนายสมัคร เนื่องจากเป็นผู้นำประเทศ
?
?
?
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่า
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
จากนั้น พล.อ.ปฐมพงษ์ได้พูดคุยกับพ.ต.อ.ธน ยุติธรรมดำรง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ และกล่าวว่า ตำรวจและทหารเป็นพี่น้องกัน กลุ่มผู้ชุมนุมก็เป็นคนไทยด้วยกัน อย่าใช้ความรุนแรง พร้อมย้ำกับตำรวจตระเวนชายแดนว่าให้ทำเพื่อชาติไม่ใช่ผลประโยชน์ของผู้ใดผู้หนึ่ง
?
?
?
?
?
“สนธิ-สมเกียรติ”ปลุกพันธมิตรฯทั่วประเทศ ฮือ! สมทบทำเนียบฯ
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
“สมเกียรติ”สั่งม็อบให้เก็บ”อุจจาระ”มาสู้กับ ตร.
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง เมื่อนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นกล่าวบนเวทีให้กลุ่มชุมนุมมองไปยังตึกสันติไมตรี ซึ่งพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า และขอให้ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้กลุ่มชุมนุมแตกฮือเข้าไปมุงดูจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พบว่าเป็นเพียงไฟที่ลุกไหม้เครื่องปั่นไฟที่ทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น เหตุการณ์จึงสงบลง ทั้งนี้นายสมศักดิ์ยังได้ประกาศให้เครือข่ายสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหยุดงานทั่วประเทศ และเดินทางตามมาสมทบที่ทำเนียบ นอกจากนี้นายสมเกียรติ์ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ ยังบอกให้กลุ่มขชุมนุมเตรียมเก็บอุจจาระไว้สู้กับตำรวจอีกด้วย
?
?
?
จากนั้นเวลา 13.30 น. นางอัญชลี ไพรีรักษ์ และนายสำราญ รอดเพชร กล่าวบนเวทีสั่งการให้กลุ่มพันธมิตรฯทั่วประเทศ เดินทางไปยังสนามบินของทุกจังหวัดที่มี โดยเฉพาะที่จ.ภูเก็ต จ.สงขลา ฯลฯ รวมถึงศาลากลางของแต่ละจังหวัด และให้พันธมิตรฯที่ถูกตำรวจตีแตกที่สะพานมัฆวานฯ ไปรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และจุดต่างๆที่ใกล้เคียงทำเนียบ เพื่อล้อมแนวตำรวจเข้ามาจากชั้นนอก
?
?
?
พันธมิตรฯ เชื่อมประตู-ปล่อยกระแสไฟป้องกันทำเนียบ
?
?
?
เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 29 ส.ค. มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวเนชั่น เปิดเผยว่า ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาประชิดประตู 7 ทำเนียบรัฐบาล บริเวณด้านหลังตึกนารีสโมสร กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้นำกุญแจมาคล้อง พร้อมทั้งได้ทำการเชื่อมประตูติดกัน เพื่อป้องกันการฝ่าด่านเข้ามาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ได้ต่อไฟฟ้าจากแบ็ตเตอรี่ไปยังประตูด้วย เพื่อไม่ให้ตำรวจเข้ามาจับด้วย
?
?
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.40 น.สถานีโทรทัศน์เคเบิลเอเอสทีวีได้ขึ้นข้อความหน้าจอโทรทัศน์ ปลุกระดมเชื้อชวนมวลชนมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล โดยแนะนำให้เดินทางเข้าทางริมคลองหน้าวัดโสมนัส และเดินทางเข้าทางสะพานอรทัยหน้าธกส.
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
?
นายประพันธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ หากพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว ศาลแพ่งไม่มีอำนาจสั่งให้ประชาชนที่มาชุมนุมออกไปนอกพื้นที่ เนื่องจากประชาชนไม่ได้อยู่ในฐานะบริวารของผู้ใด ดังนั้น การบังคับคดีลักษณะนี้จึงยังไม่สามารถบังคับได้ เพราะขณะนี้ทนายของพันธมิตรได้ยื่นอุทธรณ์ เพื่อขอบรรเทาการบังคับคำสั่งของศาล ซึ่งล่าสุดศาลแพ่งได้รับคำร้องของกลุ่มพันธมิตรแล้ว รวมทั้งได้ไปยื่นไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังสลายกลุ่มผู้ชุมนุม จะถือว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเสียเอง
?
?
?
?
?
?
?
?
?
จำลอง-สมเกียรติ” ขึ้นเวทีปลุกระดมขวัญใจแนวร่วม
?
?
?
?
?
?
?
?
เมื่อเวลา 11.52 วันที่ 29 ส.ค. ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีปลุกระดมมวลชนอีกครั้ง ว่า เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก ทำทุกอย่างพังหมด โต๊ะเก้าอี้ที่เราทำมา พังหมด พี่น้องไม่ต้องตกใจ เข้าทำร้ายแต่โต๊ะเก้าอี้ เขายังรักษาระเบียบวินัยไม่ทำร้ายคน พี่น้องไม่ต้องกลัวเดี๋ยวเราฟ้องร้องเรียกคืนให้หมด
?
ขณะที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีต่อพร้อมกับกล่าวว่า “กูไม่กลัวมึง” โดยมีการอ่านแถลงการณ์สนับสนุนของหัวหน้าภาควิชาทุกวิชา ของคณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สนับสนุนและร่วมให้กำลังใจการชุมนุมของพันธมิตรฯ โดยระบุว่าเป็นการทำให้การเปลี่ยนแปลงในสังคม
?
“จำลอง” อ้าง ตร.ใช้กระบองทุบตีทำร้ายพันธมิตร
?
?
?
เมื่อเวลา 11. 50 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกว่าบนเวทีพันธมิตรฯว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้ามาในทำเนียบและกระทำการรุนแรงต่อพันธมิตรฯ ใช้กระบองทุบตีจนได้รับบาดเจ็บหลายราย
?
?
?
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้ามาทางประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งยึดพื้นที่บรเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ได้เรียบร้อยแล้ว
?
?
?
ศาลแพ่งรับอุทธรณ์พันธมิตรแต่คำขอทุเลายังไม่มีผล
?
?
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลแพ่งมีคำสั่งรับคำอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และคำขอทุเลาการบังคับคดีตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ที่ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยศาลแพ่ง มีคำสั่งให้? สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยนายลอยเลื่อน บุนนาค รองเลขาธิการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โจทก์ ส่งคำคัดค้านอุทธรณ์ภายใน 15 วัน เพื่อเตรียมส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ทั้งนี้คำขอทุเลาการบังคับคดีในคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น ต้องรอจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่ง
?
?
?
ทั้งนี้คดีดังกล่าว สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง , นายสนธิ ลิ้มทองกุล , นายสมศักดิ์ โกศัยสุข , นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตร ฯ ,? นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ฯ และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิด และขับไล่ พันธมิตร ฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยศาลแพ่งไต่สวนและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา ให้ จำเลยทั้งหก กับพวก ออกจากทำเนียบรัฐบาล รื้อถอนเวทีปราศรัย รวมทั้งขนย้ายสิ่งกีดขวางทั้งหมดในทำเนียบรัฐบาล และให้จำเลยทั้งหก กับพวก เปิดพื้นที่จรจาจรบน ถ.พิษณุโลก ? ถ.ราชดำเนิน ทุกช่องจราจร ขณะที่เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีคำสั่งตามคำขอของโจทก์ แต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อจัดการให้เป็นไปตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หลังจากที่โจทก์ แถลงข้อเท็จจริงต่อศาลว่าจำเลยทั้งหก กับพวก ยังไม่ออกจากทำเนียบรัฐบาลตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง
?
?
?
ทนายระบุศาลแพ่งรับ”อุทธรณ์”แล้ว ตร.ไม่มีสิทธิสลายชุมนุม
?
?
?
เวลา 10.30 น. นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายจากสภาทนายความ ในฐานะทนายความของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังในการนำใบบังคับคดีของศาลแพ่งไปติดที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า การนำกำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือจำนวนมากเพื่อเข้ามาปิดใบประกาศของเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดี ในฐานะตัวแทนโจทก์ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
?
?
?
นายนิติธร กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทนายของพันธมิตรฯ ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลแพ่งแล้ว ซึ่งศาลรับว่าจะให้อุทธรณ์คดี โดยหลังจากนี้ภายใน 15 วัน เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องยื่นคำโต้แย้งการอุทธรณ์ของจำเลย ดังนั้น ภายในระยะเวลา 15 วัน หากศาลยังไม่มีวินิจฉัยหรือมีคำสั่ง พันธมิตรฯ จะสามารถชุมนุมอย่างชอบธรรมภายในทำเนียบฯได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจที่จะเข้ามาสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
?
?
?
พันธมิตรฯ เตือนผู้ชุมนุมอย่าดึง”หมายศาล” หวั่นผิดกม.
?
?
?
เมื่อเวลา 10.34 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล พิธีกรบนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำหมายศาลมาติดไว้บริเวณปากทางเข้า-ออกทุกจุดของพื้นที่การชุมนุม โดยเฉพาะพื้นที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานชมัยมรุเชฐ สะพานอรทัยและบริเวณแยกมิสกวัน โดยเตือนให้ผู้ร่วมชุมนุมอย่าดึงป้ายออก เพราะอาจมีความผิดตามกฎหมาย
?
?
?
พันธมิตรแจ้งความ พบอาวุธสงครามอื้อ!ในทำเนียบ
?
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม รายงานข่างแจ้งจากทำเนียบรัฐบาลว่า ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ อายุ 55 ปี ตัวแทนกองทัพธรรม และนายกิตติชัย ไสสะอาด อายุ 45 ปี หัวหน้าการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งรักษาความปลอดภัยอยู่ที่บริเวณประตู 4 ของทำเนียบฯ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เอกพล ทวิวงศ์ชัยกุล พงส.(สบ.2) สน.ดุสิต หลังพบอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนจำนวนมาก ภายในชั้น 2 ของอาคารฝ่ายปฏิบัติการ รปภ.ด้านประตู 4 ถนนพิษณุโลก ภายในทำเนียบฯ
??????
ร.ต.แซมดิน กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ให้เข้าแจ้งความภายหลังจากพบอาวุธสงคราม เนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น. ขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ กำลังสำรวจความปลอดภัย และตรวจสอบความเรียบร้อยภายในทำเนียบฯ เมื่อมาถึงอาคารดังกล่าว พบชายต้องสงสัยจำนวน 38 คน แต่งกายสวมเสื้อสีเหลือง โดยอ้างว่าเป็นตำรวจสันติบาล จึงเจรจาขอให้ออกจากอาคาร และขอตรวจสอบบริเวณด้านในของอาคาร
??????
?จากการตรวจสอบที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร พบอาวุธปืนสงคราม และกระสุนปืนจำนวนมาก ประกอบด้วย ปืนเอ็ม 16 จำนวน 17 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 3 ลัง จำนวนลังละ 2,000 นัด รวม 6,000 นัด และยังพบปืนเอชเค 33 จำนวน 13 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 440 นัด กระสุนปืนขนด .38 จำนวน 2 กล่องใหญ่ รวม 2,400 นัด และไฟฉาย จำนวน 13 กระบอก ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย? ร.ต.แซมดิน กล่าว
??????
ร.ต.แซมดิน กล่าวต่อว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้ เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าอาวุธที่พบไม่ได้เป็นของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยต้องการให้ตำรวจ สน.ดุสิต เข้าตรวจสอบ และยึดปืน รวมทั้งเครื่องกระสุนทั้งหมดไว้ อีกทั้งยังได้ประสานตำรวจสันติบาลเข้าตรวจสอบ และนำหลักฐานมาแสดงว่าเป็นของตำรวจสันติบาลจริงหรือไม่
?
ต่อมา พ.ต.ต.ทรงชัย เทพสาร หัวหน้าตำรวจสันติบาล ประจำทำเนียบรัฐบาล เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้ง เรื่องอาวุธปืน ที่เก็บอยู่ในคลัง พร้อมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า ที่เข้าแจ้งความเพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เรื่องปืนที่อยู่ในคลัง จำนวนดังกล่าว แต่ที่พันธมิตรแจ้งจำนวนปืนนั้น ยังขาด ปืนสั้น ขนาด .38 อีก 150 กระบอก เชื่อว่า พันธมิตรน่าจะยังไม่พบปืนดังกล่า จึงไม่ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวน แต่ตนจะยังไม่นำกำลังตำรวจสันติบาล เข้าตรวจสอบ เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย และเกรงว่าจะกระทบกระทั่งกับกลุ่มพันธมิตรฯ
?
??????
พ.ต.ต.ทรงชัย กล่าวต่อว่า ปืนที่พบเป็นปืนที่ใช้ปฏิบัติงานดูแลทำเนียบอยู่แล้ว แต่เมื่อกลุ่มพันธมิตรเข้ายึดทำเนียบเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนจึงสั่งให้ทั้งหมดปลดอาวุธและนำมาเก็บที่อาคารดังกล่าว และให้ตำรวจทั้งหมด สวมเสื้อเหลืองเพื่อดูกลมกลืน แต่ที่พันธมิตรเข้าไปพบนั้นเชื่อว่าขณะที่ถูกผลักดันออกมา ตำรวจที่ดูแลอยู่ น่าจะลืมล็อคประตู
?
?
?
นายพลส่งจม.เตือน ?พธม.? สลายชุมนุม ตี5-8โมงเช้า จับกุมแกนนำ
?
?
?
เมื่อเวลา 2.30 น. วันที่ 29 สิงหาคม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีชั่วคราวบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ถึงกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ทุกคนต้องเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา อย่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมได้ ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันให้มาก เพราะหากจำนวนผู้ชุมนุมน้อยลงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจ้องสลายการชุมนุมได้
?
จากนั้น นายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรฯรุ่นที่2 ได้อ่านจดหมายของข้าราชการยศนายพลคนหนึ่งได้เขียนถึงพล.ต.จำลอง ให้กลุ่มผู้ชุมนุมฟังว่า รัฐบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 7 พันนายเข้าสลายการชุมนุมในช่วงเวลา 5.00-8.00 น.ของวันที่ 29 สิงหาคมนี้? ดังนั้น ควรหาทางป้องกันโดยกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งอยู่นอกรั้วทำเนียบรัฐบาลขอให้เข้ามาในทำเนียบรัฐบาลให้มาก? ทั้งนี้ นายพลคนดังกล่าวระบุถึงแผนการนี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปีนรั้วเข้าทางด้านหลังทำเนียบรัฐบาลและจะใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมและต้อนประชาชนให้ออกทางประตูหน้าทำเนียบฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ จากนั้นจะใช้หน่วยจู่โจมเข้าจับกุมแกนนำพันธมิตรทั้งหมด
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ได้ช่วยกันรื้อถอนเวทีจากเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อมาก่อสร้างเวทีถาวร บริเวณที่ตั้งเวทีชั่วคราวบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า แล้ว
?
พันธมิตรฯ? รุก ยึดพ้นที่อาคาร? ?สปน.? เพิ่ม ขับ ?ตำรวจ? พ้น ?ทำเนียบฯ?
????????????????????????????????????????????????????????????
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการชุมนุมช่วงคืนวันที่ 29 สิงหาคมถึงเช้าวันที่ 30 สิงหาคม มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อยทั้งคืน โดยในช่วงเที่ยงคืน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมกันอยู่ในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ได้ขอเพิ่มกำลังพลตามจุดต่างๆ อีกจุดละหลายร้อยคน โดยเฉพาะประตู 4 หลังตึกสันติไมตรี และ ประตู 7 หน้าพัฟ แอนด์ พาย จากนั้นได้กรูกำลังประชาชนเข้าล้อมกรอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการอยู่หน้าบริเวณสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยึดพื้นที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยจากการถูกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมได้เพิ่มขึ้น? โดยกลุ่มพันธมิตรฯ เริ่มรวมกำลังผู้ชุมนุมไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่ประตู 7 หลังพัฟ แอนด์ พาย แล้วพยายามดันมาอยู่ช่องระหว่างอาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมตตรีหลังใหม่กับหลังเก่า จากนั้นแกนนำได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถอนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาล จากนั้นไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ถอนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาลออกไปทางประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้มุ่งหน้ารวมกลุ่มกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหน่วยหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่บริเวณหน้าอาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีหลังใหม่เพื่อให้ออกไปจากทำเนียบรัฐบาลเช่นกัน จนสุดท้ายปรากฎว่ากลุ่มพันธมิตรฯได้ยึดพื้นที่ถนนหน้าอาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ทั้งหมด พร้อมกับการไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลไปจนหมด
?
?สมศักดิ์? ปูด ตำรวจ ซุก ?อาวุธสงคราม? เพียบ?
?
?
?
จากนั้นเวลาประมาณ? 01.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยรักษาการอยู่ โดยเฉพาะตามอาคารต่างๆ? จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ของกลุ่มพันธมิตรฯ มาแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่านายสมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะแถลงข่าวการพบอาวุธของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณ อาคารรับเรื่องราวร้องทุกข์?? เมื่อผู้สื่อข่าวไปที่อาคารรับเรื่องราวร้องทุกข์ นายสมศักดิ์? กล่าวว่า เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจพ้นไปจากทำเนียบรัฐบาลในช่วงดึกแล้ว ทีมงานรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าตรวจสอบอาคารต่างๆ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 38 นายพร้อมเสื้อเหลือง คล้ายกับที่ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ใส่ อยู่บนชั้น 2 ของอาคารรับเรื่องราวร้องทุกข์? ซึ่งตำรวจเหล่านั้นอ้างว่าเป็นตำรวจสันติบาลและขอทำงานในห้องดังกล่าวต่อไป แต่กลุ่มพันธมิตรฯไม่ยอม จึงถ่ายรูปบุคคลเหล่านั้นไว้และผลักดันให้ออกจากทำเนียบรัฐบาลไป
?
?เอ็ม 16 ? เอสเค? พร้อม ?กระสุน? ครึ่งหมื่น
?
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นออกจากทำเนียบรัฐบาลไปแล้วได้ตรวจสอบพบอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย ปืนเอ็ม16 จำนวน 17 กระบอก กระสุน 3ลังลังละ2000นัด ปืนHK13 จำนวน13กระบอก กระสุน 440 นัด กระสุนปืน.38 จำนวน2 กล่องใหญ่2350 นัด ไฟฉาย 13 กระบอก ซึ่งได้ให้แกนนำกลุ่มแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ แล้วจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ห้องที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ อ้างว่าพบอาวุธสงครามนั้นเป็นห้องกองรักษาความปลอดภัยตำรวจทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล นอกจากนี้การให้สัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์ ยังไม่เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวได้เห็นอาวุธ โดยอ้างว่ารอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก่อนแล้วจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
?
ม็อบตื่นทหารพล.อ.แจ้งตร.จะเข้าสลายพันธมิตร
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯช่วงบ่ายของวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมาเริ่มตึงเครียด โดยเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมืองแกนนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีระบุว่า ?ได้รับโทรศัพท์จาก ทหารยศ พล.อ.และตำรวจยศ พล.ต.อ. ซึ่งโทรมาบอกว่าในเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสลายการชุมนุม ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา? ซึ่งทำให้สถานการณ์การชุมนุมเริ่มตรึงเครียด เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งแถวสลับกับการเปลี่ยนเวรยามตลอดเวลา บริเวณหลังตึกสันติไมตรี ในทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกัน ชุดรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรและนักรบศรีวิชัย รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งป้อมบริเวณเป็นโล่มนุษย์ทุกจุดรอยต่อระหว่างด้านหลังตึกสันติไมตรีและบริเวณด้านหน้าที่กลุ่มพันธมิตรสร้างเป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่บุกเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม
?
?
?
ตร. หวิดปะทะ “พันธมิตร” หลังเข้าช่วยตร.ติดในตึกสันติไมตรี
?
?
?
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวลา 15.00 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรประกาศบนเวทีให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมารวมตัวหันที่บริเวณประตู 4 ของทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากการมีความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เตรียมตั้งแถวเดินเท้ามาประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งแถวรอไว้ และในเวลา 15.20 น. นายสนธิ ได้เดินทางมาดูบริเวณดังกล่าวด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นจุดล่อแหล่มที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถบุกเข้าในพื้นที่ชุมนุมได้ นอกจากนี้ ภายในตึกสันติไมตรียังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอยู่ในตึกจำนวนหลายร้อยนาย ซึ่งเข้าไปแฝงตัวแล้วไม่สามารถออกจากภายในตึกได้ เพราะกลุ่มพันธมิตรได้ปิดล้อมประตูด้านนอกพร้อมล่ามโซ่ได้ทุกด้าน ดังนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะบุกเข้ามา เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในตึกสันติไมตรี
?
?
?
รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาของการประจันหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งแถวประชิดกัน บริเวณประตู 4 หลังตึกสันติไมตรี กลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ?มาชุมนุมด้วยสันติ อหิงสา? สลับกับการร้องเพลงปลุกใจ อาทิ เราสู้ สรรเสริญพระบารมี ยามเฝ้าแผ่นดินและเพลงรักเมืองไทย? กระทั่งเวลา 16.20 น. บรรยากาศเริ่มคลายความตรึงเครียดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการตั้งแถวแล้วเข้าไปพักผ่อนเช่นเดิม
?
?
?
อ้าง”เอเอสทีวี”ถูกตัดสัญญาณให้มารวมตัวที่ทำเนียบ
?
?
?
เวลา 15.00 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรประกาศบนเวทีให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณประตู 4 ของทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากการมีความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เตรียมตั้งแถวเดินเท้ามาประชิดกลุ่มผู้ชุมนุมที่ตั้งแถวรอไว้ และในเวลา 15.20 น. นายสนธิ ได้เดินทางมาดูบริเวณดังกล่าวด้วยตนเอง นอกจากนี้ ภายในตึกสันติไมตรียังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอยู่ในตึกจำนวนหลายร้อยนาย ซึ่งเข้าไปแฝงตัวแล้วไม่สามารถออกจากภายในตึกได้ เพราะกลุ่มพันธมิตรได้ปิดล้อมประตูด้านนอกพร้อมล่ามโซ่ได้ทุกด้าน ดังนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะบุกเข้ามา เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในตึกสันติไมตรี กระทั่งเวลา 16.20 น. บรรยากาศเริ่มคลายความตรึงเครียดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยุติการตั้งแถวแล้วเข้าไปพักผ่อนเช่นเดิม
?
?
?
รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวลา 16.50 น. แกนนำกลุ่มพันธมิตรประกาศบนเวทีว่าสัญญานถ่ายทอดเอเอสทีวีถูกตัดสัญญาน แล้วบอกให้กลุ่มผู้ชุมนุมโทรศัพท์ให้ชักชวนคนใกล้ชิดมาร่วมชุมนุม เพราะอาจเป็นสัญญาไม่ดีให้ร้องขอให้ทุกคนออกมารวมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาณถ่ายทอดสดเอเอสทีวียังออกอากาศตามปกติ
?
?
?
“จำลอง”ปลุกคนชุมนุมหวั่นตร.สลาย
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.จำลอง ได้ขึ้นเวทีประกาศเป็นระยะๆ ว่าได้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสลายชุมนุม เช่น ตอน 12.00 น. อีกครั้ง 15.00 น. โดยเรียกให้ผู้ชุมนุมเข้ามารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น อย่างไรก็ตามทางตำรวจไม่ได้มีการเข้าสลายการชุมนุมแต่อย่างใด
?
?
?
คอมมานโดพรึ่บ”พธม.”ตื่น
?
?
?
เมื่อเวลา 14.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดในชุดเกราะพร้อมอาวุธครบมือ ทั้งโล่และกระบอง จำนวนประมาณ 200 นาย นั่งรถคุมขัง 5 คัน วิ่งจากถนนนครสวรรค์ ตรงเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล โดยทันทีที่ข่าวนี้มาถึงหูแกนนำจึงสั่งให้ผู้ปราศรัยบนเวทีหยุดปราศรัยทันที แล้วหันไปเปิดเพลงปลุกใจเสียงดังลั่น ท่ามกลางความกังวลของผู้ชุมนุมกว่า 3 พันคน
?
?
?
กระทั่งเวลา 15.00 น. นายสนธิ ขึ้นบนเวทีชั่วคราวหน้าตึกไทยคู่ฟ้า กล่าวปลุกใจผู้ชุมนุมว่า ถ้าใครกลัว จะกลับไปก็กลับได้เลย วันนี้จะเป็นบทพิสูจน์ให้คนไทยได้เห็นว่า กลุ่มคนที่ต่อสู้มาเกือบ 100 วัน คนที่ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด จะถูกรังแกโดนตำรวจ วันนี้จะเป็นบทพิสูจน์ว่า คนที่สู้เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทั้ง 2 พระองค์มาโดยตลอด และคนที่สู้กับรัฐบาลนายสมัคร ซึ่งเป็นทายาทอสูรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
?
?
?
“ผมจะอยู่เฉยๆ รอให้ตำรวจมาจับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องว่าจะให้ตำรวจมาจับหรือเปล่า ทราบว่า ตชด.จะใช้ตำรวจหญิงเข้ามาจับตัวผม และพล.ต.จำลอง ดังนั้นพันธมิตรหญิงไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วง ใครก็ตามที่วิ่งเข้ามาหาผม ผมจะถือว่าเป็น ตชด.นอกเครื่องแบบ มีตำรวจนอกเครื่องแบบบางคนปลอมตัวใส่เสื้อเหลือง อยากให้จับตาดูให้ดีๆ วัตถุประสงค์เพื่อเข้ามาจับตัวแกนนำ ผมรู้มาโดยตลอด แม้แต่คนที่ล้อมแกนนำวานนี้ ก็มีตำรวจหญิงรวมอยู่ด้วย ” นายสนธิกล่าวและว่า วันนี้เรามาทำบุญคุณเพื่อบ้านเมือง พี่น้องคนไหนที่อยู่โดยรอบขอให้มาร่วมชุมนุม คนไหนที่อยู่ข้างนอกขอให้เข้ามาแสดงพลัง ให้ตำรวจเห็นว่าประชาชนไม่ได้สลายกันง่ายๆ และขอให้ยึดสันติ อหิงสา และอารยะขัดขืน หากเขาบุกเข้ามาก็ให้ฟังคำสั่งดีๆ อย่าแตกแถว เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีอะไรน่ากลัว
?
?
?
“พัลลภ”ลั่นพร้อมเป็นแกนนำรุ่น2
?
?
?
นอกจากนี้ พล.ต.จำลองยังประกาศบนเวทีตอนหนึ่งว่า พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี (อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน รองผอ.กอ.รมน. ซึ่งเป็น จปร.7 รุ่นเดียวกับพล.ต.จำลอง) ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า หากแกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คน ถูกจับกุม พลงอ.พัลลภก็พร้อมที่จะมาเป็นแกนนำรุ่นที่ 2 เพื่อสานต่อเจตนารมณ์แทน
?
?
?
ด้านพล.อ.พัลลภ กล่าวยอมรับว่า มีสัญญาใจ กับพล.ต.จำลอง ในฐานะเพื่อนรักที่เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาใน 2 ประเด็น คือ 1.หากวันใดพล.ต.จำลอง ถูกจับกุม ตนก็จะเข้าไปทำหน้าที่แทน และ2.หากต้องการรบวิถีรุก ตนก็จะเข้าไปร่วมเหมือนเช่นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่ พล.ต.จำลอง ถูกจับและตนก็ต้องออกมาร่วมดำเนินการ
?
?
?
?” ดังนั้นพล.ต.จำลอง ถูกจับกุมตัวไปเมื่อใด จะเห็นตนเองอยู่บนเวทีพันธมิตรฯ อย่างแน่นอน ส่วนจะต่อสู้เคลื่อนไหวในรูปแบบใดนั้น ไม่สามารถบอกได้ เมื่อถึงวันเวลาดังกล่าว ทุกคนจะได้รู้เอง ” พล.อ.พัลลภกล่าว
?
?
?
โวมีแผนเผด็จศึกรบ. 3 วัน
?
?
?
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า หากพล.ต.จำลองถูกจับสถานการณ์คงวุ่นวายแน่? ทั้งนี้ตนมีวิธีที่จะทำให้รัฐบาลและนายกฯลาออก แต่บอกไม่ได้ คาดว่าจะปฏิบัติการเพียง 3 วัน รัฐบาลต้องลาออกยกชุด เพราะยุทธวิธีรุกไม่เหมือนยุทธวิธีรับของพล.ต.จำลอง ซึ่งการขึ้นเวทีครั้งนี้ไม่มีใครหนุนหลัง? แต่ถึงเวลานั้นคงจะมีคำตอบว่าทหารจะอยู่ข้างตนหรือข้างไหน
?
?คิดว่า 3 วันคงเพียงพอที่จะทำให้รัฐบาลลาออก ผมจะใช้วิธีที่สั้นที่สุด จะไม่ใช้วิธีที่ยืดเยื้อแบบนี้ การขึ้นเวทีครั้งนี้ไม่มีผู้ใหญ่หนุนหลัง เป็นข้อตกลงที่ผมยึดถือมาตลอด ที่ผ่านมา 100 วันจะเห็นว่า ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพียงแต่ติดตามสถานการณ์และเปิดทีวีดูเท่านั้น แต่วันใดที่พล.ต.จำลองถูกจับเข้าคุกก็จะขึ้นเวที เพื่อประกาศชัยชนะให้กับพันธมิตรฯทันที เพราะเห็นว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารมานานแล้ว ตั้งแต่ไปเซ็นสัญญายกดินแดนให้กับกัมพูชา ซึ่งถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ ม.190 ดังนั้น นายกฯและครม.ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก?พล.อ.พัลลภ กล่าว??
?
?
?
?ตู่”ยกโทษประหารชีวิตขู่”พัลลภ”ไม่เชื่อดึง จปร.รุ่น7
?
?
?
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน(พปช.) และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยเพื่อขับไล่เผด็จการ(นปก.) กล่าวถึงกรณีพล.อ. พัลลภ พร้อมจะเป็นแกนนำพันธมิตรรุ่น 2 ว่า เป็นสิทธิของพล.อ.พัลลภ แต่ไม่อยากให้วิตกและหวาดหวั่นว่าเมื่อพล.อ.พัลลภ ออกมาเคลื่อนไหวแล้วมักจะนำไปสู่ความรุนแรงเช่นที่เคยเกิดในอดีต เพราะวันนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าที่กลุ่มพันธมิตร ลงมือกระทำไปแล้ว หากเป็นอย่างนั้นสังคมต้องรู้ว่าใครที่ทำให้เกิดความรุนแรง ซึ่งจะมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต? ทั้งนี้เชื่อว่าพล.อ.พัลลภจะมีสติ และไม่เชื่อว่าจะเป็นการดึงนายทหาร จปร.รุ่น 7 เข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมือง สำหรับนปก.จะไม่มีการเคลื่อนไหวชุมนุม จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและตำรวจ
?
?
?
10 ส.ว.สรรหาร่วมให้กำลังใจ
?
?
?
เวลา 13.00 น. กลุ่ม ส.ว.ประมาณ 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ว.ที่มาจากการสรรหา เช่น น.ส.รสนา โตสิตระกูล นายคำนูณ สิทธิสมาน นายวรินทร์ เทียมจรัส นายสมชาย แสวงการ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ฯลฯ เดินทางมาให้กำลังใจการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ปราศรัยบนเวทีได้ประกาศชื่อ ส.ว.แต่ละคน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องต้อนรับจากประชะชน พร้อมกล่าวว่า ส.ว.เหล่านี้มาทำการอารยะขัดขืน ดังนั้นจึงขอให้ไปอารยะขัดขืนในการทำหน้าที่ในสภาด้วย
?
?
น.ส.รสนาให้สัมภาษณ์ว่า ที่ตำรวจออกหมายจับพันธมิตรในข้อหากบฏนั้น รุนแรงเกินไป ควรจะเปลี่ยนเป็นข้อกล่าวหาที่เบากว่า เช่น บุกรุกสถานที่ราชการ จากนั้นให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ตนไม่อยากเห็นรัฐบาลเข้ามาสลายการชุมนุม ตำรวจไม่ควรทำงานรับใช้นักการเมือง เพราะประเด็นนี้เป็นเรื่องของการเมือง ควรจะแก้ปัญหาด้วยการเมือง ไม่ควรเพิ่มดีกรีด้วยการใช้กฏหมายเข้ามาจัดการ
?
?
?
ใช้ยางรถกำบังสกัดตร.เข้าสลาย
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.จำลองได้สั่งการปิดประตูทำเนียบทุกจุด เพราะเกรงว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกเข้ามาสลายการชุมนุม แต่จะเปิดประตูบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมจากด้านนอกทยอยเข้ามา แต่ไม่ใช้ผู้ชุมนุมภายในทำเนียบออกไป ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรต่างบ่นไม่สามารถกลับบ้านได้ นอกจากนี้ที่บริเวณภายนอกประตู 4 ฝั่งตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงประมาณ 200 คน ซักซ้อมเตรียมการหากตำรวจบุกเข้ามา โดยให้กลุ่มผู้หญิงเป็นทัพหน้า ส่วนบริเวณอื่นๆ ที่มีแผงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มพันธมิตร และการ์ดพันธมิตรถือไม้กอล์ฟ และท่อนเหล็กยืนคุมอยู่ตามจุดต่างๆ ตามแผงรั้วกั้น
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณประตู 7 หลังตึกบัญชาการ 1 มีการนำเครื่องปรับอากาศเก่า ประมาณ 20 เครื่อง ยางรถยนต์ มาวางซ้อนเป็นที่กำบังสูงประมาณ 1 เมตร พร้อมนำกระเบื้องมุงหลังคาทำเนียบรัฐบาลมากั้นด้านหลังรั้วเหล็ก เนื่องจากเกรงว่าตำรวจจะบุกที่ประตูดังกล่าว
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบริเวณที่บริเวณประตูที่ 7 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม พบว่า ล้อรถดับเพลิงและรถบรรทุกผู้ต้องขังรวม 4 คัน ถูกปล่อยลมยางและไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ส่วนบริเวณเวทีปราศรัยสะพานมัฆวานรังสรรค์ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายเวทีออกจากพื้นผิวจราจรถนนราชดำเนินนอก โดยมีกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลความเรียบร้อยบริเวณทางเข้าทุกด้าน ซึ่งมีผู้ชุมนุมปักหลักรับฟังการปราศรัยบางตา เนื่องจากส่วนใหญ่เดินทางสมทบที่ทำเนียบรัฐบาล
?
?
?
ยึดห้องรองเลขาฯนายกเปิดแอร์นอน
?
?
?
นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรได้เข้าไปอาศัยอยู่ในตึกบัญชาการ 2 ทุกชั้น โดยชั้นที่ 1 ถึง 5 จะมีกลุ่มพันธมิตร นอนพักอาศัยอยู่บริเวณระเบียง เนื่องจากห้องทำงานของราชการถูกล็อคเอาไว้ ยกเว้นชั้นที่ 4 จึงมีการเข้าไปเปิดเครื่องปรับอากาศ และอาศัยอยู่ในห้องซึ่งเคยเป็นห้องทำงานของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และห้องของที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี โดยที่หน้าห้องไม่มีป้ายชื่อระบุว่าเป็นห้องใคร? และมีการติดป้ายให้เข้าใช้ห้องน้ำในอาคารได้ทุกชั้น
?
สำหรับแกนนำทั้ง 9 คนที่ถูกศาลออกหมายจับ ต่างแยกย้ายกันพักผ่อนอยู่ภายในทำเนียบ ขณะที่บนเวทีชั่วคราวหน้าตึกไทยคู่ฟ้า มีแกนนำผลัดกันขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาล และปลุกระดมให้คนทางบ้านมาร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง แต่มีบางส่วนทยอยเดินทางกลับ เพื่ออาบน้ำและพักผ่อน ก่อนที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมกันอีกครั้งในช่วงบ่าย
?
?
?
“จำลอง”ปัดดื้อแพ่งแจงใช้สิทธิอุทธรณ์
?
?
?
เวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร ร่วมกันแถลงจุดยืนกลุ่มพันธมิตรว่าจะใช้สิทธิชุมนุมอย่างสงบต่อไป เพราะรัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมแล้ว? เมื่อถามว่า เหตุใดไม่ชุมนุมนอกทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ? ไม่ได้ เพราะแบบนั้นไม่ได้ผล อยากให้ออกจากทำเนียบรัฐบาล ต้องดำเนินการดังนี้ 1.ต้องประกาศชัดเจนว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2550 ต้องมีความชัดเจนทำเป็นสัตยาบัน ไม่ใช่หลอกให้เราเชื่อ เพราะรัฐธรรมนูญผ่านประชามติจากประชาชนกว่า 14 ล้านคน เพิ่งประกาศใช้มาไม่นาน และ 2.รัฐบาลต้องลาออกเพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
?
?
?
เมื่อถามว่า การไม่ยอมออกจากทำเนียบเป็นการดื้อแพ่งหรือไม่ เพราะศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ? เราทำตามกฎหมาย คือ ยื่นอุทธรณ์ ส่วนผลออกมาอย่างไรก็เคารพศาล หากตำรวจมาจับเราก็มาจับได้ เราไม่ได้หลบหนีไปไหน เรายังยึคมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่การไม่ไปมอบตัวไม่ใช่คัดค้านหรือตั้งป้อม ?
?
?
?
“สนธิ”ใช้อารยะขัดขืนในศาล
?
?
?
เวลา 10.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรขึ้นบนเวทีว่า เนื่องจากรัฐบาลไม่ใช้ทำเนียบจัดงาน ? 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อ ? ดังนั้นจะชุมนุมยืดเยื้อต่อไป จนกว่าจะถึงที่ 31 สิงหาคมเป็นอย่างน้อย
?
“ที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ผู้ชุมนุมออกนอกทำเนียบรัฐบาล ว่า เราสามารถสร้างอารยะขัดขืนในศาลได้เช่นกัน ฉะนั้นแกนนำต้องอดทน เรื่องนี้แกนนำ 5 คนได้มีการหารือกันเรียบร้อยแล้วว่าต้องอารยะขัดขืนเรื่องนี้ เพราะเอาความเท็จมาฟ้อง โดยเฉพาะกฎหมายอาญา มาตรา 113 ที่ระบุว่า ใช้กำลังเพื่อล้มล้าง เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ถามว่าผมเคยเอาประชาชนไปเผาที่ไหนหรือไม่ คนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญคือพรรคพลังประชาชน ส่วนเรื่องการแบ่งแยกดินแดน พวกเราไม่ได้ทำ แต่รัฐบาลนายสมัครทำ เพราะยกอธิปไตยเขาพระวิหารให้กับเขมร ฉะนั้นรัฐบาลนายสมัครจึงเป็นกบฏ ไม่ใช่พวกเรา ” นายสนธิกล่าว
?
?
?
พธม.เครียด”จำลอง”แจ้งข่าวทุบม็อบ
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการชุมนุมช่วงบ่ายเริ่มตึงเครียด โดยเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.จำลอง ขึ้นเวทีระบุว่า ?ได้รับโทรศัพท์จาก ทหารยศ พล.อ.และตำรวจยศ พล.ต.อ. ซึ่งโทรมาบอกว่าในเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสลายการชุมนุม ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา? ซึ่งทำให้สถานการณ์การชุมนุมเริ่มตึงเครียด เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งแถวสลับกับการเปลี่ยนเวรยามตลอดเวลา บริเวณหลังตึกสันติไมตรี ในทำเนียบรัฐบาล ขณะเดียวกัน ชุดรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรและนักรบศรีวิชัย รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งป้อมบริเวณเป็นโล่มนุษย์ทุกจุดรอยต่อระหว่างด้านหลังตึกสันติไมตรีและบริเวณด้านหน้าที่กลุ่มพันธมิตรสร้างเป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่บุกเข้ามาในพื้นที่การชุมนุม
?
?
?
ม็อบยึดทำเนียบ3วันกลิ่น”ฉี่-ขยะ”ฟุ้ง
?
?
?
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมพันธมิตรภายในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวันที่ 28 สิงหาคม โดยผู้ชุมนุมยังรวมตัวกันอยู่ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าอย่างหนาแน่น โดยเวลา 7.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ขึ้นเวทีปราศรัยและให้ขนย้ายเต๊นท์ที่ตั้งอยู่โดยรอบ กลับมาวางไว้ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าตามเดิม เนื่องจากตลอดคืนที่ผ่านมาผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ตากฝนมาทั้งคืน หากต้องชุมนุมตากแดดอีก เกรงจะไม่สบายได้
?
ต่อมา เวลา 7.30 น. ผู้ปราศรัยบนเวทีขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดขยะ และปรับปรุงสถานที่ เนื่องสภาพในทำเนียบ มีขยะจำนวนมากหลายจุด ทั้งนอกรั้ว หน้าตึกบัญชาการ และหน้าตึกสันติไมตรี ขณะที่บนพื้นเต็มไปด้วยโคลนเลน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นเหม็นน้ำเน่า และกลิ่นปัสสาวะคละคลุ้งไปทั่ว
?
?
?
?
?
?
Tags: พันธมิตร, ม็อบtags: พันธมิตร, ม็อบ
No Comments
เว็บสภาโดนแฮก!เปลี่ยนรูป’ชัย ชิดชอบ’ !
Posted by admin on
July 10, 2008
เลขาสภาฯเผยเว็บไซต์สภาโดนมือบอน แฮกเปลี่ยนรูปประธาน’ชัย’ เป็นตัวเงินตัวทอง เจ้าตัวเชื่อเพราะดวงเมือง ทำให้สถานการณ์การเมืองเป็นอย่างนี้
?จากกรณีที่เว็บไซต์ของรัฐสภา www.parliament.go.th ถูกมือดีเข้าไปแฮกในส่วนข้อมูลประวัติของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฏร โดยได้เปลี่ยนรูปนายชัยเป็นรูปตัวเงินตัวทอง เมื่อเย็นวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมานานประมาณ 10 นาที? ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจพบและเร่งแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
?
?
นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ระบบคอมพิวเตอร์ของสภาผู้แทนราษฏร เมื่อเย็นวันที่ 8 ก.ค. จึงได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบ เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมตรวจสอบว่ามีต้นตอที่มาที่ไปอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า การที่บุคคลภายนอกจะเข้ามาแฮกข้อมูลของรัฐสภานั้นทำได้ง่าย ส่วนการป้องกันทำได้ยาก และไม่แน่ใจว่าจะมีวิธีป้องกันได้ตลอดเวลาได้
อย่างไรก็ตามได้ให้เจ้าหน้าที่หาระบบซอฟแวร์ที่ป้องกันการแฮกเว็บไซต์ของรัฐสภาให้ดีที่สุด และตนคงจะต้องหารือไปยังผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีผู้บริหารเป็นบอร์ดของรัฐสภารวมทั้งสมาชิกที่มีความเชี่ยวชาญและศึกษาเรื่องระบบคอมพิวเตอร์โดยตรง อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย และนายอภิวัฒน์ เงินหมื่น ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมกันหาทางป้องกันแก้ไขปัญหา
ด้านนายชัย กล่าวว่าได้รับรายงานแล้วแต่ยังไม่เห็นภาพ? ซึ่งไม่รู้สึกโกรธอะไร ยังนึกสงสัยอยู่ว่า ทำไมเขาไม่เอารูปกะโหลกใส่เข้าไป ทำไมต้องเอารูปตัวเงินตัวทองมาใส่ แต่ในฐานะที่เราเป็น ส.ส.ก็ต้องคิดว่า เป็นตัวแทนของชาวบ้านเขาก็ต้องตรวจสอบได้
เมื่อถามว่าจะให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาคนทำหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ถ้าจะกรุณาก็ยินดี
นายชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า มันเป็นไปตามธรรมชาติ ดวงเมืองมาอย่างนี้มันก็ต้องเป็นไปอย่างนี้
ที่มา : RSSTHAI.COM
Tags: hack