ธุรกิจไอซีทีดันรายได้ ‘สามารถ’ แจงผลประกอบการแตะ2หมื่นล้าน

กลุ่มบริษัทสามารถ แจงรายได้รวมปี 54 กวาดเรียบ 19,964 ล้านบาท สามารถเทลคอมหรือแซมเทลทำรายได้รวมถึง 10,226 ล้านบาท เล็งต่อยอดงานด้านไอที เอาท์ซอร์สซิ่งเพื่อสร้างรายได้ประจำ…

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทสามารถในปี 2554 ว่า ผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มสามารถในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี แม้จะเกิดเหตุอุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในขอบข่ายการลงทุนของกลุ่มสามารถมีธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อาทิ งานสัมปทานและงานโครงการที่มีสัญญาระยะยาว จึงทำให้มีผลประกอบการโดยรวมเพิ่มขึ้น ทั้งรายได้และกำไร เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ส่งผลให้ปี 2554 กลุ่มสามารถมีรายได้รวมทั้งสิ้น 19,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% คิดเป็นกำไรสุทธิ 836 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เติบโตสูงสุด คือ สายธุรกิจไอซีที โซลูชั่น ของ บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) มีรายได้ทะลุหมื่นล้านเป็นครั้งแรก คือ 10,226 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 791 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 100% โดยแหล่งรายได้สำคัญมาจากงานโครงการต่างๆ ที่มีสัญญาต่อเนื่อง และงานโครงการใหม่ที่ประมูลได้ในปี 2554 อีกนับสิบโครงการ อาทิ การติดตั้งโครงการข่าย 3จี ทีโอที , โครงการสคูลเน็ตเฟส 2 , โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดิน , โครงการเอเอ็มอาร์ส่วนต่อขยายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และโครงการติดตั้งระบบไอทีให้แก่กระทรวงกลาโหม เป็นต้น โดยรวมแล้ว ณ สิ้นปี 2554 ?กลุ่มไอซีทีมีโครงการมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายที่จะเข้าประมูลในปี 2555 อีกมากกว่าสิบโครงการ ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงถึง 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ สามารถเทลคอมตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำว่า 50% ในปี 2555

สายธุรกิจโมบาย-มัลติมีเดีย (Mobile-Multimedia) โดยบริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวมปี 2554 จำนวน 7,002 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 84 ล้านบาท โดยธุรกิจแคช คาว (Cash Cow) ของกลุ่มยังคงเป็นธุรกิจคอนเทนต์ ซึ่งทำรายได้ในปี 2554 ได้ถึง 973 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและจะยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเมื่อการวางเครือข่าย 3จี ครอบคลุมไปทั่วประเทศ โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมทั้งการพัฒนารูปแบบบริการคอนเทนต์ใหม่ๆ และการร่วมกับพันธมิตรธุรกิจในการนำเสนอบริการดิจิตอลคอนเทนต์ผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเป้าหมายสำคัญ นอกจากการรักษาแชมป์ในตลาดวอยซ์และนอนวอยซ์แล้ว ยังตั้งเป้ารายได้คอนเทนต์เพิ่มขึ้น 20% ในปีนี้

สายธุรกิจรีเลเทด บิสเนสส์ (Related Businesses) ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท วันทูวันคอนแทคส์ จำกัด บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด และ บริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด มีรายได้รวมกันกว่า 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 35% โดยธุรกิจด้านคอลเซ็นเตอร์และระบบกล้องวงจรปิด ถือเป็นธุรกิจที่มาแรงและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างชัดเจน จึงคาดว่าอาจมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในปี 2555

ขณะที่สายธุรกิจบริการสาธารณูปโภค (Utilities Services) ประกอบด้วยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท กัมปอต เพาเวอร์แพลนท์ จำกัด บริษัท สุวรรณภูมิ เอ็นไวรอนเมนต์แคร์ จำกัด และ บริษัท สามารถ เรดิเทค จำกัด ก็ยังคงเป็นแหล่งรายได้ประจำที่สำคัญของกลุ่มสามารถและมีผลประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น 10% คิดเป็นรายได้รวม 1,108 ล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศประเทศกัมพูชา ของบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด ที่มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น 11% จากการที่มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น และการปรับค่าธรรมเนียมในการให้บริการเพิ่มขึ้นในปี 2554 ที่ผ่านมา

สำหรับปี 2555 เชื่อว่าทิศทางการเติบโตของกลุ่มบริษัทสามารถจะเติบโตต่อเนื่อง จากความคืบหน้าในการติดตั้งเครือข่าย 3จี ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายโอกาสทางการตลาดอื่นๆ อาทิ การให้บริการเอ็มวีเอ็นโอ (MVNO) , การจำหน่ายสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสารพกพาอื่นๆ เพื่อทดแทนโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นเก่า , การให้บริการดิจิตอลคอนเทนต์ ตลอดจนการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ ในการประยุกต์ใช้ซิม 3จี ให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารงานและให้บริการประชาชนขององค์กรภาครัฐและเอกชน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายในการสร้างรายได้ประจำ บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกธุรกิจไอที เอาท์ซอร์สซิ่ง (ICT Outsourcing) อย่างจริงจัง สำหรับการขยายธุรกิจควบคุมการจราจรทางอากาศในแถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่าและลาวนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมงาน ทั้งนี้ เพราะเห็นถึงโอกาสและมั่นใจในศักยภาพทั้งด้านเงินทุนและประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม คงต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนที่จะเปิดเผยความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม.

ที่มาของข้อมูลจาก